วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

พิธีรับ - ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ

พิธีรับ - ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ 
วันนี้ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๓.๓๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงนามส่งหน้าที่ตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือให้กับ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านใหม่ ลงนามรับหน้าที่ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือ เข้าร่วมพิธี ฯ
        ในการนี้ กองทหารเกียรติยศได้ยิงสลุต จำนวน ๑๙ นัด เพื่อเทิดเกียรติให้แก่ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ก่อนที่จะอำลาชีวิตการรับราชการ
          พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย นับเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ ๔๙ ของกองทัพเรือ เกิดเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๔๙๖ จบการศึกษาจากโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนคร เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ ๑๓ นักเรียนนายเรือ รุ่นที่ ๗๐ ระหว่างรับราชการ ได้เคยเข้ารับการศึกษาอบรมในหลักสูตรที่สำคัญ คือ หลักสูตรนายทหารปราบเรือดำน้ำ จาก กองการฝึก กองเรือยุทธการ หลักสูตรต้นปืน จาก กองการฝึก กองเรือยุทธการ หลักสูตร SURFACE WARFARE OFFICER SCHOOL (SWOS) จากสหรัฐอเมริกา หลักสูตรพรรคนาวินและเสนาธิการทหารเรือ จาก สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง หลักสูตรเสนาธิการทหารฝรั่งเศสจากกองทัพเรือฝรั่งเศส หลักสูตรวิทยาลัยการทัพเรือจากสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรจากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
         พลเรือเอก ณรงค์ ฯ เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ดังนี้ นายทหารปราบเรือดำน้ำ เรือหลวงคีรีรัฐ, ผู้บังคับการเรือหลวงนาคา, ต้นเรือ เรือหลวงตาปี, ผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ, ผู้อำนวยการกองยุทธการ กรมยุทธการทหารเรือ, ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงโรม อิตาลี, รองเสนาธิการสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง, รองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ, ผู้ช่วยเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย, เสนาธิการกองเรือภาคที่ ๒ กองเรือยุทธการ, เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือ ฝ่ายยุทธการ, รองเสนาธิการทหารเรือ, ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ อัตราพลเรือเอก และ รองผู้บัญชาการทหารเรือ (ที่มา : สลก.ทร.)

พิธีรับ - ส่งหน้าที่เสนาธิการทหารเรือและเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ

พิธีรับ - ส่งหน้าที่เสนาธิการทหารเรือและเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ
วันนี้ (๓๐ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๕.๓๐ น. พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือ ลงนามส่งหน้าที่ตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ และเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ให้กับ พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ เสนาธิการทหารเรือ ท่านใหม่ ลงนามรับหน้าที่ ณ ห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ชั้น ๔ อาคาร กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
         ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณให้ พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือและเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ เป็น รองผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็น เสนาธิการทหารเรือ และเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ในการนี้ พลเรือเอก จักรชัย ฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีให้แก่ พลเรือเอก ทวีวุฒิ ฯ และ พลเรือเอก ทวีวุฒิ ฯ ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ พลเรือเอก จักรชัย ฯ ในโอกาสนี้ด้วย (ที่มา : สลก.ทร.)

พิธีประดับเครื่องหมายยศและแสดงความยินดี และพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือ

พิธีประดับเครื่องหมายยศและแสดงความยินดี และพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือ
กองทัพเรือ จะประกอบพิธีประดับเครื่องหมายยศและแสดงความยินดีให้แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเรือ วาระตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. โดย พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีฯ
         กองทัพเรือมีนายทหารที่ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่ง ภายในกองทัพเรือ จำนวน ๘๘ นาย ในจำนวนนี้ มีนายทหารชั้นนายพลเรือที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น จำนวน ๔๒ นาย เป็นนายทหารสัญญาบัตรยศนาวาเอก อัตราเงินเดือนนาวาเอกพิเศษที่ได้รับพระราชทานยศเป็นนายทหารชั้นนายพลเรือ จำนวน ๔๖ นาย และในวันเดียวกัน เวลา ๑๑.๐๐ น. ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือที่ได้รับพระบรมราช โองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งใหม่ และกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งใหม่ในโอกาสนี้ด้วย (ที่มา : สลก.ทร.)

กำหนดยื่นหนังสือขอเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด

กำหนดยื่นหนังสือขอเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกลาโหม ภายใน ๒ ตุลาคม นี้
 กรมกำลังพลทหารเรือ แจ้งกำหนดการยื่นหนังสือขอเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีความเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดแล้ว จึงขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ ฯ ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ พร้อมกับหนังสือรับรองการลาออกจากราชการ รวมทั้งหลักฐานประกอบการเข้าร่วมโครงการ ฯ ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือตรวจสอบคุณสมบัติ เสนอกรมกำลังพลทหารเรือ ภายในวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖
         สามารถดูรายละเอียดและแบบฟอร์มหนังสือขอลาออกจากราชการ กับหนังสือรับรองการลาออกจากราชการ ได้ที่ http://info.navy.mi.th/person (ที่มา : กพ.ทร.)

กองทัพเรือ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำพื้นที่ลาดกระบัง

กองทัพเรือ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำพื้นที่ลาดกระบังและเพิ่มจำนวนเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี
 ตามที่ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในหลาย พื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ กองทัพเรือได้นำเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย (กบอ.) ขอรับการสนับสนุน จำนวน ๒๔ เครื่อง พร้อมทั้งจัดกำลังพลเฝ้าประจำตามจุดในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน ๑๐ จุด แล้ว นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อสนับสนุนการ แก้ปัญหาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที
        ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมจัดส่งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมไปยัง พื้นที่ต่าง ๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือมายังกองทัพเรือ สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
(ที่มา : สลก.ทร.)

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

กองทัพเรือ กำหนดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกองทัพเรือ ณ วัดชิโนรสาราม ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

กองทัพเรือ ได้ขอพระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี ๒๕๕๖ ไปทอดถวาย ณ วัดชิโนรสาราม วรวิหาร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์
           วัดชิโนรสาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมอญฝั่งเหนือ ใกล้พระราชวังนันทอุทยาน สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๓ และเมื่อการก่อสร้างปฏิสังขรณ์สำเร็จบริบูรณ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ผู้ทรงสร้างวัด ทรงขนามนามว่า วัดชิโนรสาราม ภายในวัดมีถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญประกอบด้วย พระประธานในพระอุโบสถ ปางมารวิชัย ๑ องค์ พระอัครสาวก ๒ องค์ พระพุทธรูปยืนสูง ๓ ศอกบ้าง ๔ ศอกบ้าง จำนวน ๗ องค์ นอกจากนั้นภายในพระอารามยังมีสิ่งที่นับว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญคือ พระเจดีย์ใหญ่ ๒ องค์ พระเจดีย์ไม้ ๑๒ ทรงเครื่อง ๔ องค์ พระปรางค์ ๒ องค์ เป็นต้น เมื่อได้ทรงสร้างหรือปฏิสังขรณ์วัตถุสิ่งใดในวัดนี้ ก็โปรดให้ช่างปั้นหรือเขียนเป็นรูปนาคไว้ทั่ว เพื่อเป็นเครื่องหมายให้ตรงกับพระนามเดิม คือ พระองค์เจ้าวาสุกรีของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส นอกจากนี้ โปรดให้ปั้นพระมหามงกุฎลงรักปิดทองไว้เหนือเรือนแก้วหลังพระประธานในพระอุโบสถ เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า พระองค์ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้เป็นส่วนใหญ่ เครื่องหมายเหล่านี้ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้
           อานิสงส์ของการทอดกฐิน เป็นการสงเคราะห์พระภิกษุที่จำพรรษาครบไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพระพุทธบัญญัติ เป็นการเทิดทูนพระพุทธบัญญัติเรื่องกฐินให้คงอยู่สืบไป นับได้ว่าบูชาพระพุทธศาสนาด้วยการปฏิบัติบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการสืบต่อประเพณีกฐินทานมิให้เสื่อมสลายไปจากวัฒนธรรมประเพณีของคนไทย ซึ่งการทอดกฐินเป็นการถวายทานโดยมิเจาะจงบุคคลใดโดยเฉพาะ เป็นลักษณะสังฆทาน ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่ามีผลานิสงส์มาก และการร่วมบำเพ็ญกุศลกฐินทานเป็น "กาลทาน" คือ เป็นทานที่ถวายได้ภายในเวลาที่มีพระพุทธานุญาตกำหนดจึงมีอานิสงส์เป็นพิเศษ นอกจากนี้ การทอดกฐินส่วนใหญ่เป็นการร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคนจำนวนมากเพื่อสร้างความดีงาม จึงเป็นการเสริมสร้างพลังสามัคคีขึ้นในสังคมซึ่งเป็นผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าได้ทางหนึ่ง
           ขอเชิญชวนข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง พนักงานราชการ และครอบครัว ตลอดจนประชาชนทั่วไปผู้มีจิตศรัทธาร่วมกุศลครั้งนี้ โดยร่วมบริจาคเงินได้ที่
          - กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๘๘๒, ๐ ๒๔๗๕ ๔๕๕๑, ๐ ๒๔๗๕ ๕๖๘๓ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๕๕๕๗
         - โอนเงินหรือเช็คสั่งจ่ายธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๑๑๕ - ๒ - ๐๖๖๑๓ - ๘ ชื่อบัญชี "พระกฐินพระราชทานกองทัพเรือ"
         - ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.บางกอกใหญ่ ๑๐๖๐๐ ในนาม กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
         - วัดชิโนรสาราม วรวิหาร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๑๒ ๐๕๒๓ หรือ ๐๘๑ ๙๒๐ ๖๙๑๔
(ที่มา :คณะกรรมการดำเนินการถวายผ้าพระกฐินฯ)

กองทัพเรือ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ แก้ปัญหาอุทกภัย

 ตามที่ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือและผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที
        ในส่วนของการป้องกันอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงได้สั่งการให้กรมอู่ทหารเรือ จัดเตรียมเครื่องผลักดันน้ำ และนำไปติดตั้งตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ขอรับการสนับสนุน จำนวน ๒๔ เครื่อง พร้อมทั้งจัดกำลังพลเฝ้าประจำตามจุดต่าง ๆ จำนวน ๑๐ จุด ดังนี้
         ๑. จังหวัดปราจีนบุรี ๒ จุด จำนวน ๘ เครื่อง แยกเป็น ตำบลบางแตน อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน ๕ เครื่อง และตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน ๓ เครื่อง
         ๒. คลองบางเขน ๖ จุด จำนวน ๑๒ เครื่อง แยกเป็น บริเวณติดถนวิภาวดี(ฝั่งตะวันตก) จำนวน ๒ เครื่อง, บริเวณติดถนนวิภาวดี (ฝั่งตะวันออก) จำนวน ๒ เครื่อง, บริเวณติดคลองเปรมประชากร จำนวน ๒ เครื่อง, บริเวณติดคลองประปา (ฝั่งตะวันออก) จำนวน ๒ เครื่อง, บริเวณติดคลองประปา (ฝั่งตะวันตก) จำนวน ๒ เครื่อง และ บริเวณใต้ทางด่วนขั้นที่ ๒ จำนวน ๒ เครื่อง
          ๓. คลองทวีวัฒนา ๑ จุด บริเวณสะพานถนนเพชรเกษม จำนวน ๒ เครื่อง
          ๔. คลองพระยาราชมนตรี ๑ จุด บริเวณวัดนิมานรดี ติดคลองภาษีเจริญ จำนวน ๒ เครื่อง
ทั้งนี้ เครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือมี ๓ ขนาด คือ ขนาด ๓๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๑๕๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด ๒๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด ๑๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๓๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน
           นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมจัดส่งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือมายังกองทัพเรือ สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ที่มา : สลก.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีอำลาชีวิตการรับราชการของผู้ครบเกษียณอายุ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖

วันนี้ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๖.๓๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณพร้อมของที่ระลึกให้แก่ผู้เกษียณอายุ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ และผู้ที่ขอลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดตามมติคณะ กรรมการข้าราชการทหาร ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนคุณงามความดีของผู้ครบเกษียณอายุราชการที่ได้อุทิศกำลังกายกำลัง ใจปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถ เป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีผู้ครบเกษียณอายุราชการ จำนวน ๕๕๖ นาย เป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลเรือ ๕๓ นาย ต่ำกว่าชั้นนายพลเรือและลูกจ้าง ๕๐๓ นาย และผู้ที่ขอลาออกจากราชการก่อนกำหนด ฯ จำนวน ๒๖ นาย รวมจำนวน ๕๘๒ นาย (ที่มา : กพ.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบของที่ระลึกให้กับนายทหารชั้นนายพลเรือที่ครบเกษียณอายุราชการ

วันนี้ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๔.๓๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบของที่ระลึกให้กับนายทหารชั้นนายพลเรือที่ครบเกษียณอายุ ราชการ ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในการนี้ พลเรือเอก ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวสดุดีผู้บัญชาการทหารเรือที่ได้แสดงความสามารถในการเป็นผู้นำในการ บังคับบัญชาตลอดชีวิตการรับราชการและมีคุณค่ายิ่งสำหรับกองทัพเรือ พร้อมมอบของที่ระลึกให้ผู้บัญชาการทหารเรือ ในโอกาสนี้ด้วย (ที่มา : สลก.ทร.)

รองผู้บัญชาการทหารเรือ เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายเงินรายได้จากการออกร้านกองทัพเรือฯ

วันนี้ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๕.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองผู้บัญชาการทหารเรือ นำคณะกรรมการอำนวยการออกร้านกองทัพเรือในงานกาชาด ประจำปี ๒๕๕๖ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการออกร้านกองทัพเรือในงานกาชาดประจำปี ๒๕๕๖ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา (ที่มา : สลก.ทร.)

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมงานเลี้ยงเทิดเกียรติในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ

ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมงานเลี้ยงเทิดเกียรติในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ ณ กองบัญชาการกองทัพไทย
วันนี้ (๒๖ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๘.๔๕ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย คุณพรจิตร์ หรุ่นเริงรมย์ ภริยา ร่วมงานเลี้ยง เทิดเกียรติ เนื่องในโอกาสที่เกษียณอายุโดยกองบัญชาการกองทัพไทยจัดให้แก่ ผู้บัญชาการทหารเรือ รองผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารอากาศ ณ ห้องนเรศวรกองบัญชาการกองทัพไทย เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดย พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ฯ ในการนี้ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่สังกัดกองทัพเรือ พร้อมภริยา ร่วมในงานเลี้ยง ฯ (ที่มา : สลก.ทร.)

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีให้โอวาทกำลังพล

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีให้โอวาทกำลังพลที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (๒๖ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีให้โอวาทกำลังพลที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ณ สนามหน้า กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่จะไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้ ซึ่งประกอบกำลังจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมสรรพาวุธทหารเรือ กรมแพทย์ทหารเรือ และกรมการขนส่งทหารเรือ จะทำการเคลื่อนย้ายเพื่อไปผลัดเปลี่ยนกำลังโดยทางเรือจากท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ไปยังหาดบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส และฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือ กำหนดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกองทัพเรือ ณ วัดชิโนรสาราม

กองทัพเรือ กำหนดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกองทัพเรือ ณ วัดชิโนรสาราม ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
กองทัพเรือ ได้ขอพระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี ๒๕๕๖ ไปทอดถวาย ณ วัดชิโนรสาราม วรวิหาร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์
       วัดชิโนรสาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมอญฝั่งเหนือ ใกล้พระราชวังนันทอุทยาน สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๓ และเมื่อการก่อสร้างปฏิสังขรณ์สำเร็จบริบูรณ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ผู้ทรงสร้างวัด ทรงขนามนามว่า วัดชิโนรสาราม ภายในวัดมีถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญประกอบด้วย พระประธานในพระอุโบสถ ปางมารวิชัย ๑ องค์ พระอัครสาวก ๒ องค์ พระพุทธรูปยืนสูง ๓ ศอกบ้าง ๔ ศอกบ้าง จำนวน ๗ องค์ นอกจากนั้นภายในพระอารามยังมีสิ่งที่นับว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญคือ พระเจดีย์ใหญ่ ๒ องค์ พระเจดีย์ไม้ ๑๒ ทรงเครื่อง ๔ องค์ พระปรางค์ ๒ องค์ เป็นต้น เมื่อได้ทรงสร้างหรือปฏิสังขรณ์วัตถุสิ่งใดในวัดนี้ ก็โปรดให้ช่างปั้นหรือเขียนเป็นรูปนาคไว้ทั่ว เพื่อเป็นเครื่องหมายให้ตรงกับพระนามเดิม คือ พระองค์เจ้าวาสุกรีของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส นอกจากนี้ โปรดให้ปั้นพระมหามงกุฎลงรักปิดทองไว้เหนือเรือนแก้วหลังพระประธานในพระอุโบสถ เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า พระองค์ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้เป็นส่วนใหญ่ เครื่องหมายเหล่านี้ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้
         อานิสงค์ของการทอดกฐิน เป็นการสงเคราะห์พระภิกษุที่จำพรรษาครบไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพระพุทธบัญญัติ เป็นการเทิดทูนพระพุทธบัญญัติเรื่องกฐินให้คงอยู่สืบไป นับได้ว่าบูชาพระพุทธศาสนาด้วยการปฏิบัติบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการสืบต่อประเพณีกฐินทานมิให้เสื่อมสลายไปจากวัฒนธรรมประเพณีของคนไทย ซึ่งการทอดกฐินเป็นการถวายทานโดยมิเจาะจงบุคคลใดโดยเฉพาะ เป็นลักษณะสังฆทาน ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่ามีผลานิสงส์มาก และการร่วมบำเพ็ญกุศลกฐินทานเป็น "กาลทาน" คือ เป็นทานที่ถวายได้ภายในเวลาที่มีพระพุทธานุญาตกำหนดจึงมีอานิสงส์เป็นพิเศษ นอกจากนี้ การทอดกฐินส่วนใหญ่เป็นการร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคนจำนวนมากเพื่อสร้างความดีงาม จึงเป็นการเสริมสร้างพลังสามัคคีขึ้นในสังคมซึ่งเป็นผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าได้ทางหนึ่ง
          ขอเชิญชวนข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง พนักงานราชการ และครอบครัว ตลอดจนประชาชนทั่วไปผู้มีจิตศรัทธาร่วมกุศลครั้งนี้ โดยร่วมบริจาคเงินได้ที่
          - กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๘๘๒, ๐ ๒๔๗๕ ๔๕๕๑, ๐ ๒๔๗๕ ๕๖๘๓ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๕๕๕๗
          - โอนเงินหรือเช็คสั่งจ่ายธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๑๑๕ - ๒ - ๐๖๖๑๓ - ๘ ชื่อบัญชี "พระกฐินพระราชทานกองทัพเรือ"
           - ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.บางกอกใหญ่ ๑๐๖๐๐ ในนาม กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
          - วัดชิโนรสาราม วรวิหาร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๑๒ ๐๕๒๓ หรือ ๐๘๑ ๙๒๐ ๖๙๑๔
(ที่มา :คณะกรรมการดำเนินการถวายผ้าพระกฐินฯ)

จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning


จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning 
 เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๖ สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning โดยกลับถึงท่าเรือชิงเต่า มณฑลชานตงแล้ว หลังจากออกทดสอบทางทะเลและทดสอบปฏิบัติการต่างๆ รวมถึงการขึ้น-ลงของเครื่องบิน J-15 ซึ่งบรรทุกเต็มอัตรากว่า ๑๐๐ ครั้ง ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ รวมระยะเวลา ๓ เดือน อนึ่ง การทดสอบครั้งนี้ใช้เวลานานที่สุดและเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนครั้งใหญ่ที่สุด (ที่มา : ขว.ทร.)

กองเรือยุทธการ รับสมัครข้าราชการเพื่อบรรจุเป็นกำลังพลรับเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ

กองเรือยุทธการ รับสมัครข้าราชการเพื่อบรรจุเป็นกำลังพลรับเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ
กองเรือยุทธการ มีความประสงค์รับสมัครข้าราชการเพื่อบรรจุเป็นกำลังพลรับเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือในตำแหน่งต่าง ๆ ได้แก่ ตำแหน่งต้นหน ๑ อัตรา ต้นกล ๓ อัตรา ช่างกล พันจ่าเอก ๒ อัตรา ช่างกล จ่าเอก ๔ อัตรา พนักงานเรดาร์ ๑ อัตรา พนักงานวิทยุ ๒ อัตรา จ่าเรือ ๑ อัตรา และสหโภชน์ ๓ อัตรา
          สำหรับคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของผู้สมัคร จะต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติราชการ ไม่เคยถูกลงโทษ หรือลงทัณฑ์ทางวินัย จนเป็นเหตุให้เสื่อมเสียต่อหน้าที่ราชการในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ และปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการพิจารณาบรรจุเป็นกำลังพลรับเรือต้องปฏิบัติหน้าที่ในเรือ อย่างน้อย ๑ ปี โดยไม่เรียกร้องสิทธิ์ใด ๆ เกินกว่าที่กองทัพเรือกำหนด
           ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเพื่อบรรจุเป็นกำลังพลรับเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ กรุณาแจ้งรายชื่อให้หน่วยต้นสังกัด ส่งให้ กองเรือยุทธการ ทราบ ภายในวันที่ ๔ ตุลาคม ศกนี้ (ที่มา : กร.)

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

การแจกจ่ายนิตยสารนาวิกศาสตร์ของผู้เกษียณอายุราชการและผู้ที่ขอลาออกตามโครงการเกษียณอายุราชการฯ

กองบรรณาธิการนาวิกศาสตร์ แจ้งการแจกจ่ายนิตยสารนาวิกศาสตร์สำหรับนายทหารสัญญาบัตรที่ครบเกษียณอายุ ราชการและนายทหารสัญญาบัตรที่ขอลาออกตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดใน เดือนกันยายน ๒๕๕๖ โดยจะจัดส่งนิตยสารนาวิกศาสตร์ประจำเดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่หน่วยต้นสังกัดเดิม สำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการ ฯ และผู้ที่ขอลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ ฯ ที่มีความประสงค์จะสมัครบอกรับเป็นสมาชิกนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นรายปี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสมัครรวมค่าจัดส่ง ปีละ ๓๐๐ บาท สามารถสมัครได้ที่ สำนักงานราชนาวิกสภา ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๔๙๘๗, ๕๓๐๗๒ และ ๕๔๙๙๘ (ที่มา : บก.นาวิกศาสตร์)

ขอเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบ "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 กองทัพเรือ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทุนทรัพย์เข้า "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ รับผิดชอบกองทัพเรือ" เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของกำลังพลกองทัพเรือที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนการช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่บุตร - ธิดา ของกำลังพลที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ และให้การช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ สามารถบริจาคได้ที่ กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร และ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หรือ โอนเงินเข้าบัญชีของกองทุนฯ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี "เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ" เลขที่บัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๗๐๘๗ - ๒ (ที่มา : สลก.ทร.)

ASEAN และจีน ควรกระชับความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเกา กึม ฮวน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวในการประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วย ASEAN และปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ว่า ASEAN และจีนควรจะยกระดับความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นและ รอบด้านมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกันในทะเลจีนใต้ โดยพยายามเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันเพื่อให้การจัดทำระเบียบ ปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (CoC) บรรลุผลโดยเร็ว นอกจากนี้ มีการเสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดทำโครงการและกิจกรรมความร่วมมือร่วมกันในด้าน ความมั่นคงทงทะเลรูปแบบใหม่ การค้นหาและช่วยชีวิต การปกป้องสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเลและการประมง
(ที่มา : ขว.ทร.)

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีให้โอวาทกำลังพลที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานฯ

พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีให้โอวาทกำลังพลที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ณ สนามหน้า กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่จะไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบกำลังจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมสรรพาวุธทหารเรือ กรมแพทย์ทหารเรือ และกรมการขนส่งทหารเรือ จะทำการเคลื่อนย้ายเพื่อไปผลัดเปลี่ยนกำลังโดยทางเรือจากท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ไปยังหาดบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส และฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือ กำหนดจัดงานพิธีอำลาชีวิตการรับราชการของผู้ครบเกษียณอายุ

 กองทัพเรือ กำหนดจัดงานพิธีอำลาชีวิตการรับราชการของผู้ครบเกษียณอายุ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ และผู้ที่ขอลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดตามมติคณะ กรรมการข้าราชการทหาร ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๑๒.๓๐ น. - ๑๙.๓๐ น. โดย พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณพร้อมของที่ระลึกให้แก่ผู้เกษียณอายุ ฯ ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนคุณงามความดีของผู้ครบเกษียณอายุราชการที่ได้อุทิศกำลังกายกำลัง ใจปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถ เป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีผู้ครบเกษียณอายุราชการ จำนวน ๕๕๖ นาย เป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลเรือ ๕๓ นาย ต่ำกว่าชั้นนายพลเรือและลูกจ้าง ๕๐๓ นาย และผู้ที่ขอลาออกจากราชการก่อนกำหนด ฯ จำนวน ๒๖ นาย รวมจำนวน ๕๘๒ นาย (ที่มา : กพ.ทร.)

พิธีมอบเครื่องหมายสหัทยานาวีและประกาศนียบัตรกำกับเครื่องหมายของกองทัพเรือ

วันนี้ (๒๕ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๔.๐๐ น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รอง ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายสหัทยานาวีและประกาศนียบัตรกำกับเครื่องหมาย ของกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๖ ให้แก่ ผู้ที่สนับสนุนและทำคุณประโยชน์ต่อสาธารณชนและประเทศชาติร่วมกับกองทัพเรือ จำนวน ๑๐๙ คน ณ ห้องชมชลธี หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
        กองทัพเรือมอบเครื่องหมายสหัทยานาวีให้แก่ผู้ที่ได้อุทิศตนสร้าง สรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์และได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพเรือ เสมอมา และเป็นการแสดงความระลึกถึงและขอบคุณในความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ ของกองทัพเรือเป็นอย่างดียิ่ง คำว่า "สหัทยานาวี" มีความหมายว่า "กองทัพเรือขอบคุณที่ได้รับความร่วมมือ" ซึ่งเครื่องหมายดังกล่าวกระทรวงกลาโหมได้กำหนดขึ้นเพื่อใช้ประกอบกับเครื่อง แบบทุกชนิด รวมทั้งเสื้อผ้าแบบสากลนิยมโดยประดับที่ปกกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย และผู้ที่ได้รับเครื่องหมายอันทรงเกียรติที่กองทัพเรือมอบให้นี้นำไปประดับ กับเครื่องแต่งกายใด ๆ ที่เหมาะสมแล้ว นับเป็นเกียรติแก่กองทัพเรือเป็นอย่างยิ่ง (ที่มา : สลก.ทร.)

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการฝึก Pacific Reach 2013

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพการฝึกกู้ภัยเรือดำน้ำนานาชาติ Pacific Reach 2013 ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ถึง ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ โดยมีกำลังพลและเรือดำน้ำจากกองทัพเรือ สหรัฐ ฯ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เข้าร่วม พร้อมด้วยเรือกู้ภัยเรือดำน้ำจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคนิคการกู้ภัยเรือดำน้ำและการทำงานร่วมกันระหว่าง กองทัพเรือของแต่ละประเทศ ตลอดจนกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาค (ที่มา : ขว.ทร.)

กองทัพเรือประกาศผลการสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเพื่อบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพเรือ


คณะกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเพื่อบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๖ ได้ตัดสินผลการสอบคัดเลือก ฯ ตามสาขาวิชาที่เปิดสอบเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวจริง จำนวน ๑๐ คน กำหนดให้ไปรายงานตัวด้วยตนเอง เพื่อฟังคำชี้แจงและรับเอกสารเพื่อเตรียมบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพเรือ ณ กองการกำลังพล กรมกำลังพลทหารเรือ ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๒.๐๐ น. หากไม่มารายงานตัวตามวันและเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์
         สำหรับหลักฐานการบรรจุเข้ารับราชการตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่า ด้วยการบรรจุ การโอน และการบรรจุกลับเข้ารับราชการ พุทธศักราช ๒๕๒๙ ให้นำทั้งฉบับจริง พร้อมสำเนาตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการ อย่างละ ๑ ชุด และนำผู้ค้ำประกันที่เป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่า (ข้าราชการระดับ ๓ ขึ้นไป) มีอายุไม่เกิน ๕๗ ปี นับถือวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ พร้อมคู่สมรส (ถ้ามี) มาทำสัญญาเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ ในวันศุกร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น. รวมทั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกองทัพ เรือและกองทัพเรือเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
        ทั้งนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวสำรอง จำนวน ๙ คน หากกองทัพเรือมีความประสงค์จะให้บรรจุเข้ารับราชการทดแทนผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวจริง กองทัพเรือจะแจ้งให้ผู้สมัครสอบทราบโดยตรง สามารถสอบถามาข้อมูลได้ที่ กองการกำลังพล กรมกำลังพลทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๖๗๑ (ที่มา : กพ.ทร.)

พิธีเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ของ ผู้บัญชาการทหารเรือ

วันนี้ (๒๔ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๗.๐๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในโอกาสที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ใน ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ โดย พลเรือโท อนุทัย รัตตะรังสี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ได้จัดให้มีพิธีสวนสนามของนักเรียนนายเรือให้แก่ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่
         ในการนี้ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ คุณพรจิตร์ หรุ่นเริงรมย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ประกอบพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ตรวจพลสวนสนาม และกล่าวให้โอวาทแสดงความขอบคุณในการอุทิศตนของผู้บังคับหน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อกองทัพเรือด้วยความวิริยะอุตสาหะโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก และขอบคุณผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือที่ได้จัดพิธีสวนสนามในครั้งนี้ พร้อมมอบของที่ระลึกให้แก่หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือ ประกอบพิธีวางพวงมาลาและพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมหิดล


วันนี้ (๒๔ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก มานิตย์ สูนนาดำ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาและพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมหิดล ณ อู่ราชนาวีมหิดล อดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         ๒๔ มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" หรือ "เจ้าฟ้าทหารเรือ" ซึ่งบรรดาเหล่าทหารเรือต่างเทิดทูนและกล่าวขานถึงพระองค์ท่าน และกองทัพเรือได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศถวายเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เนื่องจากพระดำรินานาประการที่ทรงมอบไว้แก่ราชนาวีไทย นับเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่หาค่ามิได้ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบทางความคิดของทหารเรือไทยในปัจจุบัน ทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่กิจการราชนาวีไทย
           สำหรับการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมหิดลในปีนี้ ประกอบด้วย พิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พิธีกล่าวคำสดุดีพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อกองทัพเรือ และพิธีทางศาสนา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการกองทัพเรือเข้าร่วมพิธี ฯ
            นอกจากนี้ กองทัพเรือได้ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ณ พระราชานุสาวรีย์ ฯ ภายในโรงพยาบาลศิริราช (ที่มา : อรม.อร.)

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

งดการให้บริการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด เพื่อซ่อมทำอาคารสถานีบริการ ฯ

ฐานทัพเรือสัตหีบ จะปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อซ่อมทำอาคารสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง กองขนส่ง ฐานทัพเรือสัตหีบ ให้มีสภาพเรียบร้อย สวยงาม และมั่นคง จึงมีความจำเป็นต้องงดการให้บริการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่างานซ่อมทำจะแล้วเสร็จ (ที่มา : ฐท.สส.)

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเรื่อง รถยนต์วิเศษ

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท ในวันนี้นำเสนอเรื่อง "รถยนต์วิเศษ"
         ในยุคปัจจุบัน รถยนต์เข้ามามีบทบาทและกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินทางประหยัดเวลา และช่วยทำให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้น รถยนต์แต่ละประเภทแม้จะมีระบบที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่หลายประการ เช่น มี ๔ ล้อ มีท่อไอเสีย มีเครื่องยนต์ มีตัวถัง มีคนขับ มีเบรก เป็นต้น
         พระพุทธศาสนาได้เปรียบเทียบร่างกายคนเหมือนรถยนต์ โดยมีส่วนที่คล้ายคลึงกันดังนี้
            ๑. รถยนต์มีล้อ ๔ ล้อ ร่างกายมี ๔ อิริยาบถ คือ ยืน เดิน นั่ง และนอน ถ้าขาดอิริยาบถใด อิริยาบถหนึ่งก็เหมือนกับรถยนต์ยางแตก วิ่งไปไหนไม่ได้จนกว่าจะซ่อมทำให้ดีเสียก่อน
            ๒. รถยนต์มีท่อไอเสีย ร่างกายมีท่อหรือทวาร ๙ คือ ตา ๒ ข้าง หู ๒ ข้าง จมูก ๒ รู ปาก ๑ ปาก และมีทวารเบาทวารหนัก ท่อหรือทวารเหล่านี้เป็นที่ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายประดุจท่อไอเสียของ รถยนต์
            ๓. รถยนต์ต้องมีตัวถังและเครื่องยนต์ประกอบรวมตัวกันเข้าเป็นรถยนต์ ส่วนคนก็ต้องประกอบด้วยกายและจิตใจรวมตัวเป็นคน
            ๔. รถยนต์ต้องมีคนขับเป็นผู้ควบคุม ส่วนคนต้องมีสติเป็นตัวควบคุม
           รถยนต์ที่มนุษย์สร้างขึ้น ต้องกินเนื้อที่ ต้องซื้อหา และมีคุณค่าต่อชีวิตก็เพียงขับไปถึงจุดหมายเท่านั้น ส่วนรถยนต์คือร่างกายที่เรียกว่า สรีรยนต์ นี้ จัดเป็นรถยนต์วิเศษไม่กินเนื้อที่มากทั้งยังไม่ต้องเสียเงินทองซื้อหา สามารถขับขี่ไปได้ทุกหนทุกแห่ง คือ นอกจากขับอยู่ในโลกมนุษย์แล้ว เครื่องยนต์คือจิตสามารถพาไปเทวโลก พรหมโลกได้ด้วย และถ้าฝึกขับให้ดี โดยวิธีการที่ถูกต้องก็สามารถขับไปถึงพระนิพพานได้ในที่สุด (ที่มา : ยศ.ทร.)

กองทัพเรือ จัดพิธีเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

 กองทัพเรือ กำหนดจัดพิธีเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลของผู้ บัญชาการทหารเรือในโอกาสที่จะครบกำหนดเกษียณอายุราชการใน ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น. ทั้งนี้ เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่กำลังพล
         ในการนี้ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ คุณพรจิตร์ หรุ่นเริงรมย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ประกอบพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ จะตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และตรวจพลสวนสนาม โดยผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวให้โอวาท พร้อมมอบเงินบำรุงขวัญให้แก่หน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล (ที่มา : สลก.ทร.)

สมาคมภริยาทหารเรือ จัดงานเลี้ยงขอบคุณคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ

วันนี้ (๒๓ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๗.๐๐ น. คุณพรจิตร์ หรุ่นเริงรมย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในงานเลี้ยงขอบคุณคณะกรรมการบริหารสมาคมภริยาทหารเรือ และอำลาผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ
(ที่มา : สมาคมภริยาทหารเรือ)

กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ฝึก PHIBLEX

กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ จัดการฝึกประจำปี Philippine-US Amphibious Landing Exercises (PHIBLEX) ระหว่างวันที่ ๑๘ กันยายน - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่ฐานทัพเรือ Zambales ทางฝั่งตะวันตกของเกาะลูซอนและห่างจากแนวหินโสโครก Scarborough Shoal ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งในทะเลจีนใต้ประมาณ ๒๒๐ กิโลเมตร โดยมีกำลังพลจากทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมประมาณ ๒,๓๐๐ คน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงทางทะเล นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ มีกำหนดเยือนฟิลิปปินส์ ในวันที่ ๑๑ - ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ที่มา : ขว.ทร.)

รับสมัครสตรีและเยาวสตรีเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตร ๖ เดือน รุ่นที่ ๕๒

 ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาค กลาง เปิดรับสมัครสตรีและเยาวสตรีเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตร ๖ เดือน รุ่นที่ ๕๒ และหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรอบ ๑/๒๕๕๗ เพื่อเป็นการเสริมสร้างอาชีพให้สตรีและเยาวสตรีที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้ น้อยและขาดโอกาสทางการศึกษา โดยเปิดหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพ ๖ เดือน มี ๕ สาขาอาชีพ ได้แก่ แผนกเสริมสวยสตรี แผนกตัดเย็บเสื้อผ้าแผนกอาหารและการบริการ แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แผนกตัดผมชาย และหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพ ระยะสั้น (๓๖๐ ชั่วโมง) ได้แก่ แผนกนวดแผนไทย และแผนกศิลปะประดิษฐ์
        ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพดังกล่าว สามารถสมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง หรือสมัครผ่านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ตั้งแต่บัดนี้ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ และกำหนดรายงานตัวที่ ศูนย์สงเคราะห์ฯ ภายในวันที่ ๑๐ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๙๖๑ ๑๘๘๒ (ที่มา : ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี)

ขอเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบ "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ"

กองทัพเรือ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทุนทรัพย์เข้า "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ รับผิดชอบกองทัพเรือ" เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของกำลังพลกองทัพเรือที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนการช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่บุตร - ธิดา ของกำลังพลที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ และให้การช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ สามารถบริจาคได้ที่ กรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร และ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หรือ โอนเงินเข้าบัญชีของกองทุนฯ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี "เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ" เลขที่บัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๗๐๘๗ - ๒ (ที่มา : สลก.ทร.)

หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ จัดตั้งกองอำนวยการฝึกชุดครูฝึกปฏิบัติการพิเศษร่วม


ตั้งแต่วันนี้ (๒๓ กันยายน ๒๕๕๖) ถึง ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จัดกำลังพล พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าร่วมการฝึกชุดครูฝึกปฏิบัติการพิเศษร่วม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ณ พื้นที่ฝึกบริเวณอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยมี นาวาเอก ธัชพงศ์ บุษบง ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ ๑ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการฝึก ฯ
         การฝึกชุดครูฝึกปฏิบัติการพิเศษร่วมของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ในครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อทบทวนและพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลในด้านการปฏิบัติการพิเศษ และเพื่อให้องค์บุคคลมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถที่จะปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอนการฝึก ๓ ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นเตรียมการฝึก เมื่อวันที่ ๑๖ - ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ ขั้นการฝึก ตั้งแต่วันที่ ๒๓ - ๒๗ กันยายน ๒๕๕๖ และขั้นการรายงานผลการฝึก ระหว่างวันที่ ๒๘ กันยายน ถึง ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ ซึ่งการดำเนินการฝึก ฯ ในเรื่อง ยุทธวิธีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ยุทธวิธีของพลซุ่มยิง การปฏิบัติโดยตรงต่อที่หมาย การปราบปรามการก่อการร้าย การยิงอาวุธทางยุทธวิธี วัตถุระเบิดและการทำลาย และการแทรกซึมเข้า/ถอนตัวออกโดยเรือปฏิบัติการพิเศษ (ที่มา : นสร.กร.)

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

รับสมัครสตรีและเยาวสตรีเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตร ๖ เดือน รุ่นที่ ๕๒

ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง เปิดรับสมัครสตรีและเยาวสตรีเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตร ๖ เดือน รุ่นที่ ๕๒ และหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรอบ ๑/๒๕๕๗ เพื่อเป็นการเสริมสร้างอาชีพให้สตรีและเยาวสตรีที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยและขาดโอกาสทางการศึกษา โดยเปิดหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพ ๖ เดือน มี ๕ สาขาอาชีพ ได้แก่ แผนกเสริมสวยสตรี แผนกตัดเย็บเสื้อผ้าแผนกอาหารและการบริการ แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แผนกตัดผมชาย และหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพ ระยะสั้น (๓๖๐ ชั่วโมง) ได้แก่ แผนกนวดแผนไทย และแผนกศิลปะประดิษฐ์
         ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพดังกล่าว สามารถสมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง หรือสมัครผ่านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ตั้งแต่บัดนี้ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ และกำหนดรายงานตัวที่ ศูนย์สงเคราะห์ฯ ภายในวันที่ ๑๐ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๙๖๑ ๑๘๘๒ (ที่มา : ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี)

ขอเชิญร่วมชมและเป็นกำลังใจให้แก่ทีมฟุตบอลกองทัพเรือในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกดิวิชั่น ๑

กองทัพเรือ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมชมและติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกดิวิชั่น ๑ (ยามาฮ่าลีกวัน) ประจำปี ๒๕๕๖ ระบบเหย้าเยือน ๓๔ นัด ของทีมฟุตบอลกองทัพเรือ ในนามสโมสรฟุตบอลราชนาวี ทั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีม โดยสโมสรฟุตบอลราชนาวี จะทำการแข่งขัน ฯ นัดที่ ๒๙ ในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๖ พบกับ สโมสรบางกอก เอฟซี เวลา ๑๘.๓๐ น. ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ฯ บางมด กรุงเทพ ฯ (ที่มา : คณะอนุกรรมการฟุตบอล ทร.)

พิธีเปิดการอบรมสัมมนาเรื่อง การออมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (๒๐ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือโท ทวีชัย บุญอนันต์ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์วังเดิม จำกัด เป็นประธานในการพิธีเปิดการอบรมสัมมนาเรื่อง "การออมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ" ณ นันทอุทยานสโมสร
        สหกรณ์ออมทรัพย์วังเดิมจำกัด (สอ.วด.) จัดให้มีการอบรมสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิก สอ.วด.มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการออมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง โดยภายในงานจัดให้มีการบรรยายเรื่องสิทธิประโยชน์ของสมาชิก บรรยายโดย เจ้าหน้าที่ สอ.วด. และเรื่องการออมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ บรรยายโดยวิทยากรจากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ที่มา : สอ.วด.)

รัสเซียจะเปิดใช้ฐานทัพเรือในมหาสมุทรอาร์กติกอีก

 เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๖ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียแถลงว่า รัสเซียจะเปิดใช้ฐานทัพเรือบนเกาะ Novosibirsk ในมหาสมุทรอาร์กติกที่ปิดไปตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ สำหรับภารกิจปกป้องเส้นทางเดินเรือในการขนสินค้า รวมถึงน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปและเอเชีย ตลอดจนปกป้องแหล่งพลังงานกว้างใหญ่ในภูมิภาคอาร์กติก ทั้งนี้ รัสเซียได้ส่งเรือรบ ๑๐ ลำ อาทิ เรือลาดตระเวน Pyotr Veliky เรือยกพลขึ้นบก Olenegorsky Gornyak และ Kondopoga ไปประจำการที่เกาะ Novosibirsk และจะมีการซ่อมแซมสนามบินขนาดเล็กรองรับการทำงานของหน่วยฉุกเฉิน อุทกศาสตร์ และอุตุนิยมวิทยา (ที่มา : ขว.ทร.)

มูลนิธิคิงเพาเวอร์ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จำลองพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ทรงงาน"

มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ ดำเนินการโครงการจัดสร้างพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ทรงงาน" สำริด (บรอนซ์) ขนาดความสูง ๖๐ เซนติเมตร น้ำหนักรวมประมาณ ๗ กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนเช่าบูชา โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลแก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องในโอกาสการก่อตั้งครบรอบ ๕๐ ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ เพื่อเผยแผ่พระบารมีพระองค์ท่านเรื่องการทรงงานแก่พสกนิกร และเพื่อให้ประชาชนได้มีพระบรมรูปฯ "ทรงงาน" (จำลอง) ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นแบบอย่างในการทำงาน และได้มีส่วนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ ทั้งนี้ ผู้ที่ร่วมบริจาคเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท จะได้รับพระบรมรูป ฯ หนึ่งองค์ โดยเปิดรับบริจาคตั้งแต่บัดนี้ จนถึงเดือนมกราคม ๒๕๕๗ กำหนดรับพระบรมรูปในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (ที่มา : มูลนิธิคิงเพาเวอร์)

กองทัพเรือ กำหนดจัดงานทำบุญเนื่องในวันมหิดล ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ

 ๒๔ มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" หรือ "เจ้าฟ้าทหารเรือ" ซึ่งบรรดาเหล่าทหารเรือต่างเทิดทูนและกล่าวขานถึงพระองค์ท่าน และกองทัพเรือได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศถวายเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เนื่องจากพระดำรินานาประการที่ทรงมอบไว้แก่ราชนาวีไทย นับเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่หาค่ามิได้ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบทางความคิดของทหารเรือไทยในปัจจุบัน ทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่กิจการราชนาวีไทย
         สำหรับการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมหิดลในปีนี้ จัดขึ้น ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. โดยภายในงานจะมีพิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พิธีกล่าวคำสดุดี พระเกียรติคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อกองทัพเรือ จากนั้นจะเป็นพิธีทางศาสนา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการกองทัพเรือเข้าร่วมพิธี ฯ
          นอกจากนี้ กองทัพเรือร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ณ พระราชานุสาวรีย์ ฯ ภายในโรงพยาบาลศิริราช (ที่มา : อรม.อร.)

กองทัพเรือ รับมอบรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕ สารคดีสะพานเดินเรือ ชุด "พิทักษ์ทะเล"

วันนี้ (๒๐ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๔.๐๐ น. พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ รับมอบรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕ ในฐานะรายการส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่นยอดนิยม จาก นายชาตรี ศรียาภัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบ ณ ห้องรับรอง กรมข่าวทหารเรือ อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
          คณะกรรมการจัดทำสารคดีและสื่อโทรทัศน์กองทัพเรือร่วมกับสถานี วิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ จัดทำสารคดีสะพานเดินเรือ ชุด "พิทักษ์ทะเล" โดยได้นำเนื้อหาสารคดีชุด "ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ทะเล" อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยาของหมู่เกาะแสมสารและหมู่เกาะใกล้ เคียง จำนวน ๙ เกาะ ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาปรับปรุงเนื้อหารูปแบบการนำเสนอ และได้นำออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง ๑๑ (NBT) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ รวมทั้งสิ้น ๓๐ ตอน ตอนละ ๕ นาที ในชื่อสารคดีชุด "พิทักษ์ทะเล" เพื่อเผยแพร่ให้กับสาธารณชนตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติและระบบนิเวศของทะเล ไทยที่มีคุณค่ามหาศาล ซึ่งสารคดีดังกล่าวได้รับรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕ ในฐานะรายการส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่น (ที่มา : สน.รอง เสธ.ทร.)

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ขอเชิญร่วมชมและเป็นกำลังใจให้แก่ทีมฟุตบอลกองทัพเรือในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกดิวิชั่น ๑

กองทัพเรือ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมชมและติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกดิวิชั่น ๑ (ยามาฮ่าลีกวัน) ประจำปี ๒๕๕๖ ระบบเหย้าเยือน ๓๔ นัด ของทีมฟุตบอลกองทัพเรือ ในนามสโมสรฟุตบอลราชนาวี ทั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีม โดยสโมสรฟุตบอลราชนาวี จะทำการแข่งขัน ฯ นัดที่ ๒๙ ในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๖ พบกับ สโมสรบางกอก เอฟซี เวลา ๑๘.๓๐ น. ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ฯ บางมด กรุงเทพ ฯ (ที่มา : คณะอนุกรรมการฟุตบอล ทร.)

สารคดีสะพานเดินเรือ ชุด "พิทักษ์ทะเล" ได้รับรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕


พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ รับมอบรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕ ในฐานะรายการส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่นยอดนิยม จาก นายชาตรี ศรียาภัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบ ณ ห้องรับรอง กรมข่าวทหารเรือ อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๐๐ น.
         คณะกรรมการจัดทำสารคดีและสื่อโทรทัศน์กองทัพเรือร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ จัดทำสารคดีสะพานเดินเรือ ชุด "พิทักษ์ทะเล" โดยได้นำเนื้อหาสารคดีชุด "ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ทะเล" อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยาของหมู่เกาะแสมสารและหมู่เกาะใกล้เคียง จำนวน ๙ เกาะ ของโครงกาอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาปรับปรุงเนื้อหารูปแบการนำเสนอ และได้นำออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ NBT ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ รวมทั้งสิ้น ๓๐ ตอน ตอนละ ๕ นาที ในชื่อสารคดีชุด "พิทักษ์ทะเล" เพื่อเผยแพร่ให้กับสารธารณชนตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติและระบบนิเวศของทะเลไทยที่มีคุณค่ามหาศาล ซึ่งสารคดีดังกล่าวได้รับรางวัลเมขลา ประจำปี ๒๕๕๕ ในฐานะรายการส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีเด่น (ที่มา : สน.รอง เสธ.ทร.)

อินโดนีเซียจะปฏิเสธแนวทางการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยทางเรือของรัฐบาลใหม่ออสเตรเลีย

 เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๖ นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียจะปฏิเสธแนวทางการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยทางเรือของ ออสเตรเลีย จากการที่ออสเตรเลียจะซื้อเรือประมงจากชาวประมง อินโดนีเซีย เพื่อไม่ให้เรือเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ จะมีการหารือในประเด็น ผู้ลี้ภัยทางเรือกับ นายจอห์น แอบบอต ว่าที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนใหม่ ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ (ที่มา : ขว.ทร.)

กิจการหอประชุมกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นลูกจ้างสวัสดิการกองทัพเรือ

 กิจการหอประชุมกองทัพเรือ มีความประสงค์จะรับสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือนเข้าเป็นลูกจ้างสวัสดิการกองทัพเรือจำนวน ๓ ตำแหน่ง คือ เพศชาย ๒ ตำแหน่ง และเพศหญิง ๑ ตำแหน่ง โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการบัญชี สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี และมีอายุตั้งแต่ ๒๐ ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน ๓๐ ปีบริบูรณ์ เพศชายต้องผ่านการคัดเลือกทหารกองประจำการ และหมดข้อผูกพันตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช ๒๔๙๗ แล้ว
         หลักฐานการสมัคร ประกอบด้วย รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๔ รูป, บัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนบ้านของผู้สมัคร บิดาและมารดา, ใบทะเบียนสมรสบิดาและมารดา ใบมรณะบัตร บิดาและมารดา (ถ้ามี), หนังสือสำคัญเปลี่ยนชื่อ - สกุล ผู้สมัคร บิดาและมารดา (ถ้ามี), หลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้สมัคร บิดา และมารดา มีสัญชาติไทย โดยกำเนิด, หลักฐานการศึกษา ได้แก่ ใบประกาศนียบัตรหรือระเบียนแสดงผลการศึกษาที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษา, หลักฐานทางทหารสำหรับผู้สมัครเพศชาย ได้แก่ ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.๙) และใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (สด.๔๓) หรือใบสำคัญทหารกองหนุน (สด.๘) และหลักฐานการได้รับการยกเว้น, ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งออกให้ไม่เกิน ๑ เดือน
         ผู้ประสงค์จะสมัคร สามารถขอรับใบสมัครและสมัครได้ที่ แผนกธุรการและกำลังพลหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ www.navyhall.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๔๙๑ (ที่มา : กิจการหอประชุม ทร.)

เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานในการประชุมวิชาการของกองทัพเรือ ครั้งที่ ๗

วันนี้ (๑๘ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานในการประชุมวิชาการของกองทัพเรือ ครั้งที่ ๗ ในหัวข้อเรื่อง "ทิศทางเศรษฐกิจทางทะเลของไทยและการพัฒนากองทัพเรือใน ทศวรรษหน้า" ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ
           การประชุมวิชาการของกองทัพเรือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการรับรู้และการเห็นความสำคัญของการใช้ทะเลกับ ทิศทางเศรษฐกิจทางทะเลของไทย สร้างเสริมความเข้าใจแก่ประชาชนต่อบทบาทในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และภารกิจของกองทัพเรือ รวมทั้งเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นระหว่างองค์กร นักวิชาการ และบุคคลทั่วไป อันจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดทิศทางดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติทางทะเล ตลอดจนนำแนวคิดและข้อเสนอแนะจากการประชุมมาปรับปรุงและพัฒนากองทัพเรือ
         การประชุมทางวิชาการดังกล่าว จัดให้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง ทิศทางเศรษฐกิจทางทะเลของไทย, ความมั่นคงทางทะเลกับการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ โดย พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ เสนาธิการทหารเรือ, การเสนองานทางวิชาการเรื่องยุทธศาสตร์ทะเลของไทยในทศวรรษหน้า โดยคณะนักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ ๔๕ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖ และการอภิปรายหัวข้อเรื่องทิศทางเศรษฐกิจทางทะเลของไทยและการพัฒนากองทัพ เรือในทศวรรษหน้า โดยมี พลเรือโท พัลลภ ตมิศานนท์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธการ อภิปรายร่วมกับ ผู้แทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท V-SERVE GROUP และดำเนินการอภิปรายโดย ผู้ประกาศข่าวและบรรณาธิการข่าวอาเซียนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งงานการประชุมในครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ข้าราชการกองทัพเรือ บุคลากรจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไป (ที่มา : ยศ.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจพลสวนสนามทางเรือในการเยี่ยมอำลาหน่วยกำลังทางเรือ

วันนี้ (๑๘ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือ ในการเยี่ยมอำลาหน่วยกำลังทางเรือ ในโอกาสที่ครบเกษียณอายุราชการ ใน ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ บนเรือรับรอง เรือหลวงอ่างทอง โดยมี พลเรือเอก ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การรับรอง
        การสวนสนามทางเรือในครั้งนี้ มีเรือเข้าร่วมพิธี ฯ จำนวน ๑๒ ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางปะกง เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงปิ่นเกล้า เรือหลวงหัวหิน เรือหลวงท้ายเหมือง เรือหลวงสัตหีบ เรือหลวงหาญหักศัตรู เรือหลวงท่าดินแดง เรือ ต.๙๙๕ พร้อมด้วยอากาศยานจากกองการบินทหารเรือ บินผ่านกระบวนเรือ ซึ่งระหว่างการสวนสนามทางเรือมีการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้บัญชาการทหารเรือ จำนวน ๑๙ นัด โดยมีเรือหลวงปิ่นเกล้าเป็นเรือยิงสลุต
          ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้กล่าวอำลาชีวิตราชการ แสดงความขอบคุณและชื่นชมที่ได้เห็นความเข้มแข็ง สง่างาม และความพร้อมเพรียงของหน่วยกำลังสวนสนามทางเรือ ตลอดจนความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกำลังพลในกองเรือยุทธการ ที่ได้ปฏิบัติงานร่วมกันบนความสามัคคีจนทำให้ภารกิจของกองทัพเรือในทุก ๆ ด้านสำเร็จลุล่วงด้วยดี (ที่มา : สลก.ทร.)

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงการ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขด้วยหลักธรรม ในวันนี้นำเสนอเรื่อง "ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง" ด้วยหลักการดับร้อนด้วยเย็น เป็นทางเดียวที่นำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิตได้ทุกปัญหา
        เมื่อเกิดไฟไหม้ สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงและต้องการคือ น้ำดับไฟ ไม่ว่าจะไหม้ลุกลามใหญ่โตขนาดไหน ถ้ามีน้ำมากพอก็สามารถดับได้ เหตุผลที่ต้องใช้น้ำดับไฟก็คือ ร้อนต้องดับด้วยเย็น ในเมื่อไฟเป็นของร้อน น้ำเป็นของเย็น ไฟจึงต้องดับด้วยน้ำ ถ้าเรานำหลักการนี้มาใช้แก้ปัญหาชีวิตก็จะแก้ได้โดยวิธีเดียวกัน เมื่อความทุกข์หรือปัญหาชีวิตเป็นความทุกข์ร้อน ถ้าปล่อยให้คุกรุ่นอยู่ต่อไปอาจลุกไหม้ลามไปถึงคนอื่นด้วย ดังนั้น ไฟชีวิตจึงต้องดับด้วยน้ำคือ "ธรรมะ" เท่านั้น ในความเป็นจริงที่ชีวิตและสังคมมนุษย์ต้องเผชิญอยู่กับความทุกข์ร้อนต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เกิดจากไฟคือกิเลส ได้แก่ โลภ โกรธ หลง ที่ลุกโพลงขึ้นในใจของมนุษย์นี่เอง และแทนที่จะใช้น้ำคือ "ธรรมะ" เข้าดับ ก็กลับทำเหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ด้วยการกระทำในสิ่งที่เป็นไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาเหล่านั้นให้ลุกไหม้ไม่มี วันจบสิ้น เช่น แก้จนด้วยการกู้หนี้ยืมสิน คิดรวยทางลัดด้วยการประกอบมิจฉาชีพ แก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการกำจัดฝ่ายตรงกันข้าม แก้กลุ้มด้วยการดื่มเหล้าเข้าบาร์ หรือหาทางผ่อนคลายด้วยอบายมุข หรือแม้บางครั้งถึงทางตันก็คิดหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เพิ่มทวีความทุกข์ร้อนมากยิ่งขึ้น วิธีการดับทุกข์ที่ผิด ๆ เหล่านี้ท่านว่า เหมือนเอาน้ำเน่ามาล้างของเหม็น ซึ่งมีแต่จะเน่าเหม็นยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วที่เราควรหยุดคิดไตร่ตรองด้วยสติปัญญา แก้ปัญหาให้ถูกทาง มิฉะนั้นแล้วจะส่งผลให้เดือดร้อนกันไปไม่จบสิ้น
        หลักการดับร้อนด้วยเย็นนี้ เป็นทางเดียวที่นำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิตได้ทุกปัญหา กล่าวคือ นำความถูกต้องมาแก้สิ่งผิด เช่น แก้ความโลภด้วยการให้ แก้ความโกรธด้วยเมตตากรุณา แก้ความหลงด้วยสติปัญญา แก้ปัญหากลโกง โกหก หลอกลวง ด้วยสัจจะ สรุปได้ว่าต้องใช้ความเย็นแก้ความร้อน ใช้ความดีแก้ความชั่ว ใช้สิ่งถูกต้องแก้สิ่งผิด ข้อสำคัญอยู่ที่เราพร้อมจะแก้ความยุ่งยากทั้งหลายแล้วหรือยัง
(ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)