วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

กบข. จัดโครงการ "กบข. ปิดเทอมพาลูกเที่ยว" ถึง ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ร่วมกับ บริษัทสยามพาร์ค ซิตี้ จำกัด(สวนสยาม) สยามโอเซี่ยน เวิร์ล และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ มอบส่วนลดพิเศษในโครงการ "กบข.พาลูกเที่ยวปิดเทอม" ขึ้น เพื่อสมาชิก กบข. และครอบครัว เพียงแสดงบัตรสมาชิกพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th (ที่มา : กบข.)

กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด แจ้งดำเนินการทำลายทุ่นระเบิด วัตถุระเบิด และสรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ระหว่าง ๑ - ๔ เมษายน ๒๕๕๗ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด

กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดย หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมกองทัพเรือและหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ ๒ จะดำเนินการทำลายทุ่นระเบิด วัตถุระเบิด และสรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งได้ทำการเก็บกู้จากพื้นที่ปฏิบัติงานปรับลดพื้นที่สนามทุ่นระเบิด ในระหว่างวันที่ ๑ - ๔ เมษายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข ๑๒ บ้านพังงอน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
          จึงขอแจ้งให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงทราบ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด (ที่มา : กปช.จต.)

การช่วยเหลือค้นหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์


จากกรณีเครื่องบินโบอิ้ง B777 - 200 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ขาดการติดต่อขณะบินเหนือน่านฟ้าประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๒.๔๐ น. และทางการมาเลเซียคาดว่าเครื่องบินดังกล่าว อาจเปลี่ยนทิศทางการบินกลับมาทางช่องแคบมะละกาและเสียการควบคุม ซึ่งทางการมาเลเซียได้ขอให้ประเทศไทยช่วยทำการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ฝั่ง ทะเลอันดามันบริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดสตูล ในการนี้ กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการช่วยเหลือตามที่ประเทศ มาเลเซียร้องขอ
        กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัย และให้ทัพเรือภาคที่ ๓ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยในระดับพื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๓ โดยมีการจัดกำลังประกอบด้วย เรือหลวงปัตตานี มีกำลังพลประจำเรือ จำนวน ๘๔ นาย, เฮลิคอปเตอร์ แบบ SUPER LYNX - 300 จำนวน ๑ เครื่อง กำลังพล จำนวน ๑๒ นาย, ชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ และชุดประดาน้ำ กำลังพล จำนวน ๙ นาย, เจ้าหน้าที่ชุดแพทย์พยาบาล จำนวน ๓ นาย และเครื่องบินลาดตระเวน แบบดอร์เนียร์ (DO-๒๒๘) จำนวน ๑ เครื่อง ขึ้นบินลาดตระเวนค้นหาทางอากาศทุกวันจนกว่าจะเสร็จภารกิจ
          โดยเรือหลวงปัตตานีได้ออกเดินทางจากฐานทัพเรือพังงา อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.๐๐ น. ขณะนี้เดินทางเข้าพื้นที่ลาดตระเวนและเริ่มค้นหาแล้ว
ตั้งแต่ ๐๖.๐๐ น. ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
          นอกจากนี้ กองทัพเรือได้จัดเครื่องบินลาดตระเวนแบบดอร์เนียร์ จำนวน ๑ เครื่อง จากทัพเรือภาคที่ ๒ จังหวัดสงขลา ขึ้นบินลาดตระเวนในพื้นที่ซึ่งเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH 370 ได้ขาดการติดต่อไปเมื่อ ๘ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๒.๔๐ น. เพื่อบินลาดตระเวนค้นหาบริเวณฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
           สรุปผลการปฏิบัติเวลา ๑๙.๐๐ น. ของเรือหลวงปัตตานี และเฮลิคอปเตอร์ตรวจการได้ดำเนินการค้นหาในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายครบ ๑๐๐% ยังไม่พบชิ้นส่วนหรือวัตถุบอกเหตุว่าเป็นของเครื่องบิน สำหรับพื้นที่อื่น ๆ ได้รับแจ้งจากเรือ KD salangor/OSC ว่ายังไม่พบสิ่งบอกเหตุใด ๆ
          เวลา ๒๒.๑๕ น. เรือหลวงปัตตานี ได้รับรายงานว่าเครื่องบิน P๓ ของประเทศมาเลยเซีย ตรวจพบเสื้อชูชีพบริเวณแบริ่ง ๐๖๐ ระยะ ๖๐ ไมล์ จากขอบบนของเกาะสุมาตรา
          เวลา ๐๗.๐๐ น. ทัพเรือภาคที่ ๓ แจ้งว่า เรือ KD salangor เข้าตรวจสอบจุดที่พบเสื้อชูชีพดังกล่าว และไม่พบชิ้นส่วนหรือวัตถุของเครื่องบินพาณิชย์มาเลเซียแต่อย่างใด
(ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ สลก.ทร.)

กิจการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ดำเนินการปรับปรุงข้อมูลสมาชิกและผู้รับเงินสงเคราะห์

 กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่ง ราชนาวี จะดำเนินการปรับปรุงข้อมูลสมาชิกและผู้รับเงินสงเคราะห์ให้ถูกต้อง ตามแผนการดำเนินการประจำปี ๒๕๕๗ จึงขอให้สมาชิกทุกท่านกรุณาตรวจสอบข้อมูลของตนเอง โดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม (Download แบบฟอร์ม) และกรุณาส่งคืนแบบฟอร์มดังกล่าวให้กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ดังนี้
        - พื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร แผนกฌาปนกิจ กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ภายในกองทัพเรือ ๕๓๒๘๓ - ๕ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๘๓ - ๕, ๐ ๒๔๑๑ ๕๘๗๕
        - พื้นที่สัตหีบ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ หมายเลขโทรศัพท์ภายในกองทัพเรือ ๗๓๑๕๙ หรือ ๐๓๘ ๔๓๘ ๖๙๒
         - พื้นที่สงขลา กองบังคับการ ฐานทัพเรือสงขลา หมายเลขโทรศัพท์ภายในกองทัพเรือ ๒๒๑๗๑ หรือ ๐๗๔ ๓๑๑ ๘๙๓
         - พื้นที่พังงา กองบังคับการฐานทัพเรือพังงา หมายเลขโทรศัพท์ภายในกองทัพเรือ ๒๑๒๑๐ หรือ ๐๗๖ ๕๙๕ ๒๘๘ (ที่มา : สก.ทร.)

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์ทหารเรือหญิง ชิงถ้วยชนะเลิศของผู้บัญชาการทหารเรือ

 วันนี้ (๑๒ มีนาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๑.๐๐ น. พลเรือตรีหญิง ศรีสุกัญญา ธีรศาสตร์ หัวหน้าสำนักงานทหารเรือหญิง เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์ทหารเรือหญิงชิงถ้วยรางวัลชนะเลิศของ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการ ทหารเรือ ณ สนามกีฬาภูติอนันต์ บางนา กรุงเทพมหานคร โดยแข่งขันระหว่างทีมข้าราชการหญิง ลูกจ้างหญิง และพนักงานราชการหญิง พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทีมพื้นที่สัตหีบและทีมพื้นที่ภาคใต้
         การแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและพลานามัย ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างทหารเรือหญิง ซึ่งรวมถึงลูกจ้างหญิง และพนักงานราชการหญิง โดยแบ่งการแข่งขันกีฬาออกเป็น ๒ ทีม ๆ ละ ๑๐๐ คน มี ๕ ประเภทกีฬา และการแข่งขันกองเชียร์
(ที่มา : สน.ทร.หญิง)

พิธีปล่อยเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ชุด เรือ ต.๑๑๑ ลงน้ำ ใน ๑๓ มีนาคม นี้

 พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ชุดเรือ ต.๑๑๑ ลงน้ำ โดย นางอัจฉรา พิพัฒนาศัย ภริยา เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ ณ อู่ต่อเรือ บริษัทมาร์ซัน จำกัด ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๓๙ น. โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมพิธี
         กองทัพเรือได้ดำเนินโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ จำนวน ๓ ลำ พร้อมระบบสื่อสาร อาวุธ ระบบอื่น ๆ รวมทั้งการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมในทะเล คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยและทะเล อันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย และการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่ง โดยกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ออกแบบและต่อเรือ ซึ่งเรือทั้ง ๓ ลำ ตั้งชื่อว่า "เรือ ต.๑๑๑", "เรือ ต.๑๑๒" และ "เรือ ต.๑๑๓"
          ลักษณะของเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือมีความยาวตลอดลำ ๓๖ เมตร, ความกว้างกลางลำ ๗.๖๐ เมตร, ความลึกกลางน้ำ (Molded Depth) ๓.๖๐ เมตร, เรือกินน้ำลึกเต็มที่ไม่เกิน (Molded Draught) ๑.๗๐ เมตร, ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่น้อยกว่า ๓๖,๐๐๐ ลิตร, ความจุถังน้ำจืด ไม่น้อยกว่า ๕,๖๐๐ ลิตร, มีถังน้ำจืดสำรองความจุ ไม่น้อยกว่า ๘,๐๐๐ ลิตร และมีระวางขับน้ำเต็มที่ ประมาณ ๑๕๐ ตัน
        ขีดความสามารถทั่วไปของเรือดังกล่าวมีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ ระวางขับน้ำเต็มที่ ไม่ต่ำกว่า ๒๗ นอต, ระยะปฏิบัติการที่ความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ ๑๕ นอต ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ ไมล์ทะเล, สามารถปฏิบัติการในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 5 (ความสูงคลื่น ๒.๕ - ๔ เมตร), สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน, ปฏิบัติการทางเรือได้อย่างต่อเนื่องในทะเลได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน,และสามารถตรวจจับ ติดตาม และพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ ได้ด้วยระบบตรวจการณ์ของเรือ นอกจากนี้ สามารถ หยุดยั้ง ขัดขวาง เรือผิวน้ำ และป้องกันตนเองจากข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ, ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ลาดตระเวนป้องกันการแทรกซึมและคุ้มครองเรือประมงและทรัพยากรธรรมชาติ, เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว
         เรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ นอกจากจะมีขีดความสามารถทั่วไปแล้ว ยังมีขีดความสามารถในการสนับสนุนการขนส่งทางธุรการชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) อย่างน้อย ๑ ชุด ปฏิบัติการพิเศษ, ลำเลียงอุปกรณ์สนับสนุนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตามพื้นที่ชายฝั่งและเกาะต่าง ๆ ลำเลียงอุปกรณ์ปรับความดันบรรยากาศของกองทัพเรือ สนับสนุนการปฏิบัติการด้านการแพทย์ให้กับกองเรือในทะเลตามขีดความสามารถของเรือ และสามารถบรรทุกและรองรับตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ขนาด ๒๐ ฟุต จำนวน ๒ ตู้ พร้อมกับบรรทุกถังน้ำมันแบบยางขนาด ๕๐๐ แกลลอน จำนวน ๑ ถัง (ที่มา : สยป.ทร.)

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง "การทำงาน"

 "คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ"
        พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๒