วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"วินัยนั้น เมื่อนำมาฝึกหัดปฏิบัติจะเป็นดังข้อบังคับที่ควบคุมบุคคลให้ประพฤติปฏิบัติเป็นระเบียบ จึงอาจทำให้เกิดความอึดอัดลำบากใจ เพราะต้องฝืนกระทำ แต่เมื่อปฏิบัติไปให้ชิน จนรู้สึกว่าเป็นไปโดยอัตโนมัติแล้ว ก็จะสำเร็จผล ทำให้เป็นคนมีระเบียบและเป็นระเบียบ คือ คิดก็เป็นระเบียบ ทำก็เป็นระเบียบ ตามลำดับขั้นตอน ตามกาละเทศะ ตามความพอเหมาะพอควร หายสับสน หายลังเล และหายขัดแย้ง ทั้งในความคิด ทั้งในการทำงานสามารถนำวิชาความรู้และความชำนาญทุก ๆ ประการไปใช้ได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่ว สำเร็จผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย ช่วยให้เกิดประโยชน์สมบูรณ์บริบูรณ์ตามจุดหมาย ทั้งจะเกื้อกูลรักษาผู้มีวินัยให้เจริญสวัสดีทุกเมื่อ
       พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประจำปีการศึกษา ๒๕๒๕ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันเสาร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๒๗

กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อชี้แจงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พุทธศักราช ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ ใน ๒๖ ธันวาคม นี้

กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเพื่อชี้แจงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พุทธศักราช ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒) ตามคำเชิญจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยในกองทัพเรือและศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของ ชาติทางทะเล, หน่วยราชการที่เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก และหน่วยรับผิดชอบรองในแต่ละแนวทางการดำเนินการ, หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง, องค์กรมหาชน, องค์กรอิสระ และภาคประชาชนทั่วไป
         การประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงฯ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคเอกชนและภาคประชาชนให้เข้าใจในสาระสำคัญของแผนความ มั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พุทธศักราช ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒) ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการเพื่อให้การขับเคลื่อนแผนความมั่นคง ฯ ไปสู่การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพด้วยการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน และเพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และข้อจำกัดต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำแผนความมั่นคง ฯ ไปสู่การปฏิบัติ
          รูปแบบการประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงฯ จะมีการนำเสนอวีดิทัศน์เรื่อง ความสำคัญของทะเลและชี้แจงภาพรวมของแผนความมั่นคงฯ, การอภิปรายกลุ่มเรื่อง "แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล จะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้อย่างไร" โดยมีผู้ดำเนินการอภิปราย ได้แก่ นายพรชาต บุนนาค รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (มิติความมั่นคง), ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ชุมพร ปัจจุสานนท์ ประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและองค์กรในการรักษาผลประโยชน์และความมั่นคงของ ชาติทางทะเล (มิติด้านกฎหมาย), รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ อนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเล (อจชล.) (มิติความยั่งยืน), ดอกเตอร์ ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (มิติความมั่งคั่ง) และ พลเรือโท จุมพล ลุมพิกานนท์ ประธานอนุกรรมการด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์และความมั่น คงของชาติทางทะเล (มิติความมั่นคง)
         การที่กองทัพเรือเป็นเจ้าภาพในการประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล นับเป็นโอกาสดีที่กองทัพเรือจะได้มีส่วนร่วมในการชี้แจงทิศทางการดำเนินการตามแผนความมั่นคง ฯ และแสดงบทบาทนำที่ชัดเจนในโอกาสนี้ด้วย (ที่มา : ยก.ทร.)

กองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘

กองทัพเรือ มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลพลเรือน ทหารกองประจำการ และทหารกองหนุน สังกัดกองทัพเรือ เพื่อสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ โดยรับสมัคร ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือกำลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นชายโสด อายุ ๑๗ - ๒๐ ปี (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๓๘ - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๑) สำหรับผู้ที่เป็นทหารกองประจำการจะต้องสังกัดกองทัพเรือและปลดเป็นทหารกองหนุน ในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ หรือทหารกองหนุนสังกัดกองทัพเรือ ต้องมีอายุ ๒๑ - ๒๔ ปี (ผู้ที่เกิด ๑ มกราคม ๒๕๓๔ - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๗ มีสัญชาติไทย บิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดได้
        หลักฐานการรับสมัคร ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนของสถานศึกษาที่แสดงว่าสำเร็จการศึกษาหลักสูตร มัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือสำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือกำลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ และสำเนาใบสูติบัตรของผู้สมัคร
        การซื้อระเบียบการรับสมัคร ซื้อด้วยตนเองตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ - ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ราคาชุดละ ๘๐ บาท ที่
        - กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
        - โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
        - โรงเรียนชุมพลทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
        - ร้านสวัสดิการทหารเรือ นันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
        - กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
        - ร้านสวัสดิการกรมการเงินทหารเรือ พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร
       - ค่ายตากสิน อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
       - ร้านสวัสดิการกิจการห้องเย็น อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
       - ทัพเรือภาคที่ ๓ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
       - หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงทุกเขต
       - สถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือ ได้แก่ ส.ทร.๒ บางนา, ส.ทร.๓ ภูเก็ต, ส.ทร.๕ สัตหีบ, ส.ทร.๖ สงขลา, ส.ทร.๘ พิษณุโลก, ส.ทร.๙ อุบลราชธานี, ส.ทร.๑๐ ตราด, ส.ทร.๑๑ เชียงใหม่ และ ส.ทร.๑๕ นราธิวาส
        หรือสั่งซื้อระเบียบการและใบสมัครทางไปรษณีย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึง ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ สามารถดาวน์โหลดใบสั่งซื้อระเบียบการได้จากเว็บไซต์ http://www.navedu.navy.mi.th โดยระบุจำนวนที่สั่งซื้อ เขียนที่อยู่สำหรับจัดส่งระเบียบการให้แก่ผู้สั่งซื้อและหมายเลขโทรศัพท์ที่ สามารถติดต่อได้ให้ชัดเจน ส่งใบสั่งซื้อระเบียบการ พร้อมใบฝากธนาณัติตัวจริง สั่งจ่ายในนามกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตู้ ปณ.๑๑ ปณภ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ราคารวมค่าจัดส่ง ชุดละ ๑๑๐ บาท
        การรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ระหว่างวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๘ ถึง ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสมัครและศึกษาขั้นตอนการดำเนินการสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.navedu.navy.mi.th และให้ผู้สมัครศึกษา
        สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๘๘๙ ๓๙๒๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๖๖๓ - ๔ และ ๐ ๒๔๗๕ ๓๖๔๓ ในวันและเวลาราชการ หรือดูได้ที่เว็บไซต์ www.navy.mi.th/navedu (ที่มา : ยศ.ทร.)

โครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ พร้อมให้บริการตรวจสภาพความพร้อมของรถเบื้องต้น ตั้งแต่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึง ๕ มกราคม ๒๕๕๘

กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรมรณรงค์ ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๘ ภายใต้แนวความคิด "SLOW DOWN SAVE YOUR LIFE ช้าลงอีกนิด ชีวิตปลอดภัย" โดยเน้นมาตรการตรวจจับความเร็วเป็นมาตรการหลักในการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ถึง ๕ มกราคม ๒๕๕๘
         นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจการตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงาน ขับรถบนถนนสายหลักทั่วประเทศตลอด ๒๔ ชั่วโมง จำนวน ๑๑ จุด ที่จังหวัดลำปาง กำแพงเพชร พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย เช่น ที่ปัดน้ำฝน กระจกรถ ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น ควบคู่กับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ เพื่อตรวจสอบระยะเวลาในการขับรถ สมุดประจำรถ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ความอ่อนเพลีย และความพร้อมของตัวรถ รวมทั้งจัดตั้ง "ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔" (เฉพาะกิจ) ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เอกมัย สายใต้ และสถานีขนส่งผู้โดยสารเพื่อรับเรื่องร้องเรียน และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวใน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ - ๕ มกราคม ๒๕๕๘ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
         หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยหรือขับรถประมาทหวาดเสียว สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน ที่ หมายเลข ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ที่มา : ขสมก.)

ญี่ปุ่นเตรียมส่งมอบเรือตรวจการณ์ให้อินโดนีเซียเพื่อต่อสู้กับโจรสลัด

 เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ มีรายงานว่า ญี่ปุ่นเตรียมส่งมอบเรือตรวจการณ์ให้อินโดนีเซียเพื่อสนับสนุนภารกิจปราบ ปรามโจรสลัด ตามที่ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หารือกับประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ระหว่างการประชุม APEC ที่จีน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ และเห็นพ้องกันที่จะยกระดับความร่วมมือเพื่อต่อต้านโจรสลัดและเพิ่มขีดความ สามารถทางทะเลแก่ประเทศในภูมิภาคเพื่อรับมือกับการขยายอิทธิพลทางทะเลของจีน (ที่มา : ขว.ทร.))