วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขอเชิญร่วมแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยเกียรติผู้บัญชาการทหารเรือ

ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยเกียรติยศ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลและสวัสดิการของศูนย์ศึกษา ยุทธศาสตร์ทหารเรือ ณ เมเจอร์โบว์ล ฮิต สาขาปิ่นเกล้า ในวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ ลงทะเบียนระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๐๙.๓๐ น. เริ่มแข่งขัน เวลา ๐๙.๓๐ น.
         ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล สมัครเป็นทีมกิตติมศักดิ์ ทีมละ ๑๐,๐๐๐ บาท และประเภททีม ๓ คน ทีมละ ๔,๐๐๐ บาท หรือจะร่วมบริจาคสมทบทุน สามารถชำระค่าสมัครหรือร่วมบริจาคโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพุทธมณฑล ชื่อบัญชี "ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ" หมายเลขบัญชี ๐๗๙ - ๒ - ๓๑๙๕๘ - ๔ โอนเงินแล้วกรุณาส่ง FAX ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๔๔๐ หรือทางอีเมล์ nsscthailand@hotmail.com สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://www.navedu.navy.mi.th/stg/activity/310157.pdf สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นาวาตรี ประมวล ศรีชำนาญ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๔๔๐ (ที่มา : ศยร.ยศ.ทร.)

การฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖

โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทำการฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของนักเรียนจ่าทหารเรือ ชั้นปีที่ ๑ ทุกพรรค - เหล่า และนักเรียนจ่าทหารเรือ ชั้นปีที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖ โดยหมู่เรือฝึกนักเรียนจ่า ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงปิ่นเกล้า และ เรือหลวงคีรีรัฐ เป็นเรือฝึก มี นาวาเอก กำจร เจริญเกียรติ ผู้บังคับการโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นผู้บังคับหมู่เรือฝึกนักเรียนจ่า และมีนักเรียนจ่าทหารเรือเข้ารับการฝึก จำนวน ๙๕๙ นาย ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ - ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณอ่าวไทย
         การฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของนักเรียนจ่าทหารเรือ มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมให้ นักเรียนจ่าทหารเรือชั้นปีที่ ๑ และปีที่ ๒ ได้มีความรู้ในวิชาชีพทหารเรือเบื้องต้น สามารถปฏิบัติตนเป็นชาวเรือที่ดี รู้ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารประจำเรือ สร้างความคุ้นเคยในการปฏิบัติงานภายในเรือขณะออกปฏิบัติการในทะเลสาขา วิชาชีพ ตลอดจนเพิ่มพูนประสบการณ์ในการศึกษาภูมิประเทศตามจังหวัดชายทะเลต่าง ๆ
(ที่มา : ยก.ทร.)

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพากรมาให้บริการรับยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี ๒๕๕๕


วันนี้ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗)ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๓๐ มาให้คำแนะนำและรับยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
        สำหรับการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.๙๐ และ ๙๑ ในปีนี้ สามี - ภรรยาสามารถยื่นแบบเสียภาษีแยกกันได้ หรือจะยื่นแบบภาษีรวมกันเหมือนเดิม หรือจะยื่นแบบภาษีรวมกันบางส่วน ก็ได้ ซึ่งการยื่นแบบภาษีแยกกันจะส่งผลดีหลายอย่าง อาทิ สามี - ภรรยาจะสามารถได้ค่าลดหย่อนการศึกษาของบุตรและ ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยกู้ยืมผู้ซื้อบ้านทั้ง ๒ คน จากเดิมที่จะได้ค่าลดหย่อนรวมกัน ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถ ยื่นแบบภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตได้ (ที่มา : กง.ทร.)

กรมการขนส่งทหารเรือ จัดงานวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ ๑๑๑ ปี ใน ๓ มีนาคม นี้

พลเรือตรี สมประสงค์ นิลสมัย เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทหารเรือ ครบรอบ ๑๑๑ ปี ในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ กองบังคับการกรมการขนส่งทหารเรือ โดยในช่วงเช้าประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์ในพื้นที่ พิธีปลูกต้นไม้ที่ระลึก และพิธีสงฆ์ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่กำลังพลของหน่วย
         กรมการขนส่งทหารเรือ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๔๔๖ ภายใต้ชื่อ "กองพาหนะ" มี หลวงพลพิฆาฎ ชื่อเดิมว่า แว ไวณุนาวิน เป็นผู้บังคับการกองพาหนะ ท่านแรก และได้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนากองพาหนะให้มีความเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ มีการเปลี่ยนชื่อหน่วยหลายครั้ง จาก "กองพาหนะ" เป็น "กองพันพาหนะ", "กองยานพาหนะทหารเรือ", "หมวดเรือเล็ก" จนกระทั่งเมื่อปี ๒๕๒๘ จึงใช้ชื่อว่า "กรมการขนส่งทหารเรือ" มาจนถึงปัจจุบัน และได้ถือเอาวันที่ ๓ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนา โดยในปีนี้ กรมการขนส่งทหารเรือ มีอายุครบรอบ ๑๑๑ ปี ปัจจุบันมี พลเรือตรี สมประสงค์ นิลสมัย เป็น เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ
          กรมการขนส่งทหารเรือ เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือที่มีอายุและประวัติความเป็นมายาวนาน มีส่วนในการขับเคลื่อนภารกิจของกองทัพเรือในทุกมิติให้สำเร็จลุล่วง โดยทหารขนส่งได้เข้าไปมีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องกับงานด้านยุทธการ กิจการพลเรือน สวัสดิการ การฝึกหัดศึกษา การรักษาความปลอดภัย การข่าว การแพทยการพลาธิการ การส่งกำลังบำรุงสายขนส่ง การจัดพาหนะ ทั้งยวดยานทางบกและเรือในแม่น้ำ เพื่อสนับสนุนกิจการพิเศษของกองทัพเรือ ตลอดจนองค์กรต่าง ๆ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทหารเรือ ได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทด้วยการจัดรถยนต์พระที่นั่งและเรือพระที่นั่ง เพื่อเป็นพระราชพาหนะในโอกาสที่มีการเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่กองทัพเรือมีส่วนเกี่ยวข้อง
          สำหรับ ด้านความมั่นคง กำลังพลทหารขนส่งได้เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกองบัญชาการป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง รวมทั้ง ๓ จังหวัดชายแดนใต้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วทุกภูมิภาค เมื่อประสบภัยพิบัติร้ายแรง และการที่กิจการขนส่งของกองทัพเรือดำเนินมาจนถึง ๑๑๑ ปี ด้วยความเสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถจน เป็นรากฐานอันมั่นคงแข็งแกร่ง (ที่มา : ขส.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗

 วันนี้ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๓๐ น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ ณ บริเวณหน้า กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้การรับรอง และมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมพิธี ฯ
         การฝึกกองทัพเรือ เป็นการฝึกที่สำคัญและทำการฝึกเป็นประจำทุกปี เป็นการฝึกภายในประเทศของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือจาก ส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา รวม ๒๑ หน่วย ประกอบด้วย กรมกำลังพลทหารเรือ, กรมข่าวทหารเรือ, กรมยุทธการทหารเรือ, กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ, กองเรือยุทธการ, ทัพเรือภาคที่ ๑, ทัพเรือภาคที่ ๒, ทัพเรือภาคที่ ๓, หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน, หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง, ฐานทัพเรือสัตหีบ, ฐานทัพเรือกรุงเทพ, กรมสารวัตรทหารเรือ, กรมสรรพาวุธทหารเรือ, กรมพลาธิการทหารเรือ, กรมแพทย์ทหารเรือ, การการขนส่งทหารเรือ, กรมอุทกศาสตร์, กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ, กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และ โรงเรียนนายเรือ สำหรับการฝึกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ เป็นการฝึกในลักษณะบูรณาการด้วยการนำการปฏิบัติการทางทหาร การปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ของส่วนกำลังรบ การปฏิบัติการและการสนับสนุนของส่วนอื่น ๆ มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์เดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน ระหว่างวันที่ ๓ มีนาคม ถึง ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ พื้นที่ฝึกบริเวณที่ตั้งหน่วย พื้นที่ปฏิบัติการ และพื้นที่ฝึกของกองทัพเรือ มี พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้อำนวยการฝึกฯ
          วัตถุประสงค์หลักของการฝึก เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหารของหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามแผนป้องกันประเทศ และเพื่อทดสอบการอำนวยการยุทธ์ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ และศูนย์บัญชาการทางทหารระดับต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ตามโครงสร้างและแนวทางใช้กำลังของกองทัพเรือในปัจจุบัน โดยทำการฝึกในลักษณะ "รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น" คือ หน่วยจะต้องปฏิบัติภารกิจหน้าที่ใดในสถานการณ์จริงให้ปฏิบัติภารกิจหน้าที่ นั้นในสถานการณ์ฝึก ทั้งนี้ ได้นำปัญหา อุปสรรค ขัดข้องและข้อเสนอแนะของการฝึกกองทัพเรือในปี ๒๕๕๖ มาพิจารณาให้สอดคล้องตามแผนการปฏิบัติงานของหน่วย
         การฝึกครั้งนี้จะใช้ข้อมูลจากแผนป้องกันประเทศด้านใต้ (แผนศรีวิชัย) มาใช้เป็นข้อมูลหลักในการจัดทำแผน/คำสั่งยุทธการในการฝึก โดยจะทำการฝึกในลักษณะที่ไม่มีแผนยุทธการไว้รองรับ ด้วยการสมมติเหตุการณ์ให้มีภัยคุกคามด้านใต้ หน่วยรับการฝึกจะปฏิบัติตามขั้นตอนและกระบวนการวางแผนเผชิญสถานการณ์วิกฤติ (Crisis Action Planning : CAP) จนได้เป็นคำสั่งยุทธการในชื่อ "คำสั่งพิทักษ์น้ำเงิน ๕๗ ระดับกองทัพเรือ" และ "คำสั่งพิทักษ์น้ำเงิน ๕๗ ระดับทัพเรือภาคที่ ๑ - ๓" ซึ่งจะนำไปใช้ทดสอบการควบคุมบังคับบัญชาและการอำนวยการยุทธ์ตามโครงสร้าง จริง รวมทั้งทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติต่าง ๆ ตลอดจนทดสอบขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงและหรือจัดทำหลักปฏิบัติเพิ่ม เติม มีขอบเขตการฝึกทั้งในด้านการส่งกำลัง การซ่อมบำรุง การขนส่ง และการบริการทางการแพทย์ โดยมีขั้นตอนการฝึกแบ่งออกเป็น ๓ ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการฝึกได้ดำเนินการ ขั้นการฝึก ประกอบด้วย การอบรมในห้องเรียน การฝึกปัญหาที่บังคับการ และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล และขั้นการสัมมนาสรุปผลการฝึก (ที่มา : ยก.ทร.)

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและของประชาชนทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องมาจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพะเรื่องการเป็นอยู่โดยประหยัด เพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปโดยสวัสดี"
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย โอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๒๒