วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"ชีวิตของแต่ละคนจะต้องประกอบด้วย สิ่งใดสำหรับให้มีชีวิตอยู่ได้ ถ้าเราคิดสักหน่อยว่าเรามีร่างกายที่จะต้องอุ้มชูตนเอง คือหมายความว่าทุกวันนี้เราจะต้องหาอาหารมาเลี้ยง ถ้าไม่มีอาหารเลี้ยงร่างกายนี้เป็นเวลาหนึ่ง ก็ทำให้ ร่างกายซูบผอมและอ่อนเพลียลงไป ไม่มีทางที่จะทำงานทำการใดๆ หรือแม้จะทำงานที่ไม่ใช่เป็นงานคือเล่นสนุกอะไรก็ตาม ก็ไม่ได้ทั้งนั้น คิดอะไรก็ไม่ออก ดำเนินชีวิตไม่ได้ ถ้าไม่มีอาหาร ถ้ามองดูในแง่นี้เพียงอาหารที่มาใส่ท้อง ก็เป็นกิจการที่กว้างขวางอย่างมากมาย ทีนี้พูดกันว่าคนเราต้องทำมาหากิน ดูเป็นของที่สำคัญที่สุด เพราะว่าถ้าไม่ทำมาหากินก็ไม่มีชีวิตอยู่ได้ หรือมีชีวิตก็แร้นแค้น และทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารใจอีก ถ้าคนเราไม่มีอาหารใจไม่ขวนขวายหาความรู้ จะไม่สบายใจ และจะไม่เป็นคนที่เจริญ ฉะนั้น ทุกคนที่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ และมีชีวิตอยู่อย่างดี ก็ต้องอุ้มชูให้อาหารแก่ตาและหาทางที่จะมีอาหารของใจด้วย"
        พระราชดำรัสพระราชทานเนื่องในการฉลองครบรอบ ๕๐ ปี ของสโมสรโรตารี่ในประเทศไทย ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจันทร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๒๓

พิธีปิดงานสัปดาห์กีฬานาวี ประจำปี ๒๕๕๗

วันนี้ (๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เวลา ๑๖.๓๐ น. พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬา "สัปดาห์กีฬานาวี" ประจำปี ๒๕๕๗ ณ สนามกีฬาราชนาวีสัตหีบ กิโลเมตร ๕ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         กองทัพเรือ จัดการแข่งขันกีฬาสัปดาห์กีฬานาวีขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างให้กำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่นกีฬาและได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อความสามัคคี นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะสนับสนุนผู้ที่มีความสามารถในกีฬาแต่ละประเภทให้เป็นนักกีฬาระดับชาติ สร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือและประเทศชาติต่อไป ซึ่งการแข่งขันกีฬาในปีนี้ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ ๑๒ ถึงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ สนามกีฬาราชนาวีสัตหีบ สำหรับพิธีปิดการแข่งขัน ฯ มีการแข่งขันกรีฑาและกีฬาทหารเรือ การประกอบกองเชียร์ การแข่งขันฟุตบอลประเภททั่วไปคู่ชิงชนะเลิศ พิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยกีฬาที่ได้รับรางวัลในประเภทต่าง ๆ และพิธีปิดการแข่งขัน โดยการแข่งขันกีฬาสัปดาห์กีฬานาวี ประจำปี ๒๕๕๘ มี กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยเจ้าภาพ (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือประกอบพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการและลูกจ้างกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗

วันนี้ (๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการและลูกจ้างกองทัพเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ นันทอุทยานสโมสร เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยมี พลเรือตรี ภัฎ เพียรเกาะ เจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือ, คุณโสภณ กล้วยไม้ ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน),ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ อัมภารัชฏ์ วิเศษสมิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ รองเจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือ ร่วมมอบทุนการศึกษาฯ
         กองทัพเรือประกอบพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการและลูกจ้างกองทัพเรือ ณ พื้นที่ต่าง ๆ พร้อมกัน ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพมหานคร มี พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน, พื้นที่ สัตหีบ มี พลเรือโท วิพากษ์ น้อยจินดา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นประธาน, พื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๒ มี พลเรือตรี สุรพล คุปตะพันธ์ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ เป็นประธาน และ ทัพเรือภาคที่ ๓ มี พลเรือตรี
ไชยณรงค์ ขาววิเศษ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา เป็นประธาน สำหรับพื้นที่กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จะจัดพิธีมอบทุนการศึกษาในวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ มี นาวาเอก นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธาน
           การมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการและลูกจ้างกองทัพเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ นี้ มีผู้เสนอขอรับทุน จำนวนทั้งสิ้น ๑,๕๑๕ ราย มีผู้สมควรได้รับทุนจำนวนทั้งสิ้น ๗๖๘ ทุน ประกอบด้วยทุนการศึกษาทั่วไป จำนวน ๗๔๖ ทุน ทุนการศึกษาสำหรับบุตรของข้าราชการที่ประสบภัยพิบัติสึนามิ จำนวน ๕ ทุน และทุน การศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการที่เป็นผู้พิการ จำนวน ๑๗ ทุน ทั้งนี้ ทุนการศึกษาในปี ๒๕๕๗ กองทัพเรือ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กองทุนสวัสดิการกองทัพเรือ จำนวน ๑,๔๒๒,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านสี่แสนสองหมื่นสองพันบาทถ้วน), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน), กองทุนการศึกษาและสวัสดิการกระทรวงกลาโหม หน่วยกองทัพเรือ จำนวน ๒๕,๐๐๐ บาท (สองหมื่นพันบาทถ้วน), กองทุนสวัสดิการพิเศษสงเคราะห์ข้าราชการกลาโหม จำนวน ๒๓,๐๐๐ บาท (สองหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) และมูลนิธิมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาทถ้วน)
          สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ที่ได้รับทุน จำนวน ๒๕๓ ทุน แบ่งเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ทุนการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการทั่วไป ประกอบด้วย ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา และทุนการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการที่เป็นผู้พิการ ประกอบด้วย ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา (ที่มา : สก.ทร.)

๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ วันกองทัพเรือ ครบ ๑๐๘ ปี

กองทัพเรือ กำหนดจัดพิธีทำบุญเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๖.๓๐ น. - ๑๐.๐๐ น. โดยในช่วงเช้าประกอบพิธีทางศาสนาทำบุญตักบาตร พิธีถวายสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และปลูกต้นไม้ ณ บริเวณพระราชวังเดิม และฐานทัพเรือกรุงเทพ จากนั้น จะเป็นพิธีสงฆ์ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม และพิธีปล่อยปลา ณ ท่าเทียบเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือโดยมี พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน และมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมกำลังพลในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร่วมพิธี และในโอกาสนี้ กองทัพเรือได้จัดงานเลี้ยงรับรองระดับกองทัพเรือ ณ หอประชุมกองทัพเรือ โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในงาน
         นอกจากนี้ กองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันกองทัพเรือ โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทำความสะอาดวัด ๕ แห่ง และมัสยิด บริเวณใกล้เคียงกองทัพเรือ ร่วมกับชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วย วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดเครือวัลย์วรวิหาร, วัดนาคกลาง, วัดชิโนรสารามวรวิหาร, วัดโมลีโลกยารามและมัสยิดต้นสน และกิจกรรมรณรงค์ให้ข้าราชการ ครอบครัว และร้านค้าสวัสดิการในกองทัพเรือใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน นี้ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ลานหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน
           กองทัพเรือ ได้ถือเอาวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ สืบเนื่องจากเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม เขตธนบุรี ซึ่งพระองค์ได้ทรงวางรากฐานที่สำคัญแก่กองทัพเรือ ซึ่งได้พัฒนาและมีความเจริญก้าวหน้าตราบจนปัจจุบัน สมกับพระราชปณิธานที่ได้พระราชทานไว้ในพระราชหัตถเลขาในสมุดเยี่ยมโรงเรียน นายเรือ ความว่า "วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจซึ่งได้เหนการทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบไปในภายน่า"
          กองทัพเรือ มีภารกิจหลักในการเตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักร เพื่อดำรงไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุข อีกภารกิจหนึ่งที่มีความสำคัญ และกองทัพเรือได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในยามสงบคือ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และรวมไปถึงการรักษากฎหมายในทะเล อาทิ การป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางทะเล การลักลอบนำน้ำมันเข้าประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบสาธารณภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดำเนินการสนับสนุนโครงการตามแนวพระราชดำริ
         ในรอบปีที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติภารกิจหลักอย่างเต็มกำลังความสามารถ นอกจากนั้น ยังได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประสบภัยพิบัติ ต่างๆ และสนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ และได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและความเข้าใจระหว่างกันในระดับกองทัพเรือแต่ละ ประเทศ ก่อให้เกิดความร่วมมือและการพัฒนาแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ นอกจากนี้ กองทัพเรือได้ร่วมมือกับกองทัพเรืออินเดียในการจัดการลาดตระเวนร่วมทางทะ ลอันดามัน รวมทั้งจัดกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ กองกำลังผสมทางทะเล ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นครั้งที่ ๒ ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สร้างชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
         สำหรับการดำเนินงานในปี ๒๕๕๘ กองทัพเรือจะเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเล มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล ทั้งภายในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยจะปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการฝึก ให้สามารถรองรับขีดความสามารถตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ช่วยเหลือประชาชน และการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ฯ ได้อย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมทั้งปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและได้รับสิทธิที่พึงมีพึงได้
          เนื่องในวันกองทัพเรือ นอกจากจัดกิจกรรมทางศาสนาแล้ว กำลังพลทุกนายจะแถวฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๓๐ น. (ที่มา : สลก.ทร.)