วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"หลักที่ว่าทุกคนต้องทราบถึงกฎหมายและต้องทำตามกฎหมายนั้นรู้สึกว่าบางครั้งก็ใช้ไม่ได้ เพราะว่ากฎหมายไม่ถึงประชาชน ต้องนึกบ้างว่าเป็นความผิดทางราชการ ที่ไม่สามารถจะนำกฎหมายไปให้ถึงประชาชน"
          พระบรมราโชวาท ในโอกาสพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๑๓

พิธีเปิดการประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ ๗

วันนี้ (๑๔ มกราคม ๒๕๕๘) เวลา ๐๙.๓๐ น. พลเรือโท ดนัยศักดิ์ กาญจนะวสิต รองเสนาธิการทหารเรือ รับเยี่ยมคำนับจาก คณะผู้แทนกองทัพเรืออินเดีย ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ ๗ และประชุมคณะทำงานร่วมการจัดระเบียบทางทะเลระหว่างกองทัพเรือ - กองทัพเรืออินเดีย ครั้งที่ ๑๑ โดยกองทัพเรือเป็นเจ้าภาพ ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยานสโมสร เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และในวันเดียวกัน เวลา ๑๓.๐๐ น. พลเรือตรี นิกิตติ์ ฑีร์ฆะยศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ เป็นประธานพิธีเปิดการประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ ๗ และประชุมคณะทำงานร่วมการจัดระเบียบทางทะเลระหว่างกองทัพเรือ - กองทัพเรืออินเดีย ครั้งที่ ๑๑ ณ โรงแรมรอยัลออร์คิดเชอราตัน กรุงเทพมหานคร
         กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ ๗ และการประชุมคณะทำงานร่วมการจัดระเบียบทางทะเล ครั้งที่ ๑๑ ระหว่างกองทัพเรือ - กองทัพเรืออินเดีย เพื่อหาข้อยุติในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ ความร่วมมือทั่วไป การจัดการลาดตระเวนร่วมฯ การปรับปรุงแก้ไขระเบียบปฏิบัติประจำ และข้อกำหนดอื่น ๆ ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๗ มกราคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมรอยัลออร์คิดเชอราตัน กรุงเทพมหานคร โดยฝ่ายไทยมี พลเรือโท ลือชัย รุดดิษฐ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ฯ และฝ่ายอินเดีย มี พลเรือตรี RB Pandit ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศและการข่าว (Assistant Chief of Naval Staff Foreign Cooperation and Intelligence) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนกองทัพเรืออินเดีย
         การประชุม Navy to Navy Talks ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้มีความก้าว หน้ามากยิ่งขึ้น (ที่มา : ยก.ทร.)

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง เสาหลักของชีวิต

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "เสาหลักของชีวิต" ดังนี้
         ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จำเป็นต้องมีเสาเป็นหลักค้ำจุนตัวอาคารไว้ ฉันใด ในการสร้างความดีทุกชนิดก็จำเป็นต้องมีความไม่ประมาทเป็นแกนหลักรองรับ ฉันนั้น ความไม่ประมาทจึงนับว่าเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างยิ่งในการครองตน ครองคน และครองงานให้สำเร็จตามเป้าหมายในทุกด้าน ความไม่ประมาท คือ การมีสติกำกับตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะคิด จะพูด จะทำสิ่งใด ๆ ไม่ยอมถลำลงไปในทางที่เสื่อม และไม่ยอมพลาดโอกาสในการทำความดี ตระหนักดีถึงสิ่งที่ต้องทำ ถึงกรรมไม่ดีที่ต้องเว้น เอาใส่ใจ สำนึกอยู่ในหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่เสมอ ว่า "ถ้าประมาทในทุกเรื่อง ความรุ่งเรืองก็มิอาจเกิดขึ้นได้" ในปทสูตร สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค พระพุทธองค์ตรัสว่า
         "ดูกรภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลาย ผู้สัญจรไปบนแผ่นดิน ชนิดใดชนิดหนึ่ง ทั้งหมดนั้นย่อมถึงความประชุมลงในรอยเท้าช้าง รอยเท้าช้าง บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ารอยเท้าเหล่านั้น เพราะเป็นรอยใหญ่ แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งทั้งหมดนั้นมีความไม่ประมาทเป็นมูลย่อมรวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาทบัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกับผู้ประมาทมัวเมาในชีวิตนั้น บัณฑิตท่านอุปมาไว้ว่าเสมือนผู้ที่ตายแล้วทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่" ลักษณะของผู้ประมาทแบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ
         ๑. กุสีตะ คือ ไม่ทำเหตุแต่จะเอาผล เช่น เวลาเรียนไม่ตั้งใจเรียน แต่อยากสอบได้ ไม่ตั้งใจทำงานแต่จะเอาความดีความชอบ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ปฏิบัติ แต่อยากได้สวรรค์ นิพพาน เป็นต้น
         ๒. ทุจริตะ คือ ทำเหตุเสียแต่จะเอาผลดี เช่น ขี้เกียจทำงาน แต่อยากได้ผลของงาน พูดไม่ดีแต่อยากให้คนอื่นชื่นชอบ อยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีความพยายาม เป็นต้น
          ๓. สิถิละ คือ ทำเหตุเล็กน้อยแต่จะเอาผลมาก เข้าลักษณะค้ากำไรเกินควร เช่น อ่านหนังสือนิดหน่อย แต่หวังสอบได้อันดับที่ ๑ ให้ทานนิดหน่อยแต่หวังบุญหล่นทับหรือหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ เป็นต้น
        ผู้ประมาทในการทำเหตุ ๓ ประเภทดังกล่าว ย่อมพลาดโอกาสที่จะประสบผลความสำเร็จในเรื่องที่คิดในกิจที่ทำ และในคำที่พูดทั้งปวง ดังนั้น ผู้ฉลาดจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า ผู้ทำเหตุดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำเหตุเสียย่อมได้รับผลเสีย ผู้ทำเหตุแห่งความสำเร็จไว้มาก ย่อมประสบผลสำเร็จมาก ทั้งดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท แล้วชีวิตก็จะมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่หวั่นไหวได้ง่าย เมื่อยามที่ถูกโลกธรรมฝ่ายต่ำเข้ามากระทบ เพราะมีความไม่ประมาทเป็นเสาหลักของชีวิตนั่นเอง (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)

กิจกรรมทัวร์คนมีใจรักสุนัข "Mercy Tour" ครั้งที่ ๑ ในพื้นที่สัตหีบ

 วันนี้ (๑๔ มกราคม ๒๕๕๘) คณะกรรมการบริหารจัดการศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดของกองทัพเรือ จัดกิจกรรมทัวร์คนมีใจรักสุนัข "Mercy Tour" ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๑๔ ถึง ๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ในพื้นที่สัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายในกิจกรรมจัดให้มีการเยี่ยมชมอ่าวเตยงาม, มารีนรีสอร์ท, ศูนย์ดูแลสุนัขจรจัด และชมการแสดงสุนัข เป็นต้น
        พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีดำริให้ดำเนินโครงการ Doggy Home Stay Sattahip ขึ้น เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างมีเมตตาธรรม โดยการนำสุนัขจรจัดในพื้นที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ของกองทัพเรือมาดูแล รักษาโรค ทำหมัน และฝึกสุนัขให้ผู้มีใจรักสุนัขรับไปเลี้ยงดู โดยมีเป้าหมายดำเนินโครงการ ฯ เป็นเวลา ๗ ปี ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการดูแลสุนัขจรจัดพื้นที่ของกองทัพเรือเป็นไปอย่าง ยั่งยืน ลดจำนวนสุนัขจรจัดที่กระจายอยู่นอกบ้านเรือนและแพร่พันธุ์อย่างควบคุมไม่ได้ สุนัขมีสภาพอดอยาก เจ็บป่วย สร้างปัญหาด้านสุขอนามัยในชุมชน และพัฒนาการจัดการพื้นที่ศูนย์อภิบาลสุนัข กองเรือยุทธการ, ศูนย์อภิบาลสุนัข ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และศูนย์อภิบาลสุนัข หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้สามารถรับอุปการะสุนัขได้พื้นที่ละ ๕๐๐ ตัว และแมว ๑๐๐ ตัว นอกจากนี้ ยังได้จัดหาบ้านให้ลูกสุนัขและสุนัขโตที่มีความพร้อม รวมถึงการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังและมีทักษะพิเศษเพื่อใช้ในราชการ ตลอดจนส่งต่อให้ผู้มีอุปการะที่สามารถรับเลี้ยงดูต่อไปได้
         ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการระดมทุนเพื่อให้สามารถดำเนินการได้จริง ปัจจุบันศูนย์อภิบาลสุขนัขมีค่าใช้จ่ายเฉพาะอาหาร ประมาณ ๔ บาท ต่อวัน ต่อตัว, ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของสุนัขจรจัด ศูนย์อภิบาลสุนัข กองเรือยุทธการ และศูนย์ฝึกทหารใหม่ ฯ และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ศูนย์อภิบาลสุนัขแห่งใหม่ ณ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จึงเชิญชวนผู้มีจิตเมตตาร่วมสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ Doggy Home Stay Sattahip โดยการโอนเงินช่วยเหลือโครงการ ฯ ได้ที่ ธนาคารทหารไทย สาขา กองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี โครงการ Doggy Home Stay Sattahip เลขที่บัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๙๕๒๒ - ๖ และแจ้งการโอนเงินที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๔๙๗ หรือหมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๕๒๓๐
(ที่มา : สลก.ทร.)

จีนเปิดกองบัญชาการทหารในพื้นที่หมู่เกาะพาราเซล


 เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๘ มีรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นเมืองซานชาทำพิธีเปิด กองบัญชาการหน่วยทหารของกองทัพจีน เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ ที่เกาะ Woody ในหมู่เกาะพาราเซล โดยมีภารกิจในการเสริมสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ซึ่งยังคงมี ปัญหาเขตแดนทางทะเลระหว่างประเทศ จัดการฝึกและจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับกองกำลังท้องถิ่น และระดมกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อนึ่ง ภายหลังพิธีเปิดได้จัดการฝึกระหว่างหน่วยยามฝั่ง กองกำลังท้องถิ่น และ สำนักงานประมง ระยะเวลา ๗ วัน (ที่มา : ขว.ทร.)