วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

สหรัฐฯ-เกาหลีใต้-ออสเตรเลียจะฝึกยกพลขึ้นบก

เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ มีรายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ร่วมฝึกผสมยกพลขึ้นบก ซังยอง บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ ๒๗ มีนาคม - ๗ เมษายน ๒๕๕๗ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และประสานความร่วมมือในปฏิบัติการระหว่างกองทัพ โดยมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ๑๒ ลำ นาวิกโยธิน และ กองทัพเรือสหรัฐฯ ๙,๕๐๐ นาย นาวิกโยธินและกองทัพเรือเกาหลีใต้ ๔,๕๐๐ นาย ยุทโธปกรณ์และกำลังพลจากออสเตรเลียอีกจำนวนหนึ่งเข้าร่วม อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ เกาหลีเหนือยิงอาวุธนำวิถี ๒๕ ลูก ไปยังทะเลญี่ปุ่นเพื่อประท้วงการฝึกระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ (ที่มา : ขว.ทร.)

หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จัดสร้างเหรียญที่ระลึก พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำ แม่น้ำโขง จัดสร้างเหรียญที่ระลึก พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มีไว้สักการะ และหารายได้สมทบทุนในการจัดสร้างอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์หน่วยเรือรักษา ความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ในพื้นที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เกิดความภาคภูมิใจในชาติและระลึกถึงวีรกรรมของบรรพ ชนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการตามลำแม่น้ำโขง และ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง โดยจะมีพิธี ปลุกเสกในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (วันเสาร์ ๕) ที่บริเวณกลางแม่น้ำโขง หน้าลานพนมนาคา จังหวัดนครพนม และในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (วันอาภากร) ที่บริเวณด้านหน้าพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณหน้า กองบังคับการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จากเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดภาคอีสาน
          ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาสั่งจองเหรียญที่ระลึกได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่ นาวาเอก ยุทธพล สิงห์สถิตย์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒ ๕๑๑ ๒๐๕ ต่อ ๓๑๒๔๐ และ ๐๘๑ ๘๑๒ ๓๓๖๘ หรือ นาวาเอก กิตติพันธ์ กุลศิริปัญโญ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒ ๕๑๑ ๒๐๕ ต่อ ๓๑๒๒๐ และ ๐๘๖ ๓๖๓ ๑๕๒๖ หรือ นาวาโท วัชรา โสธรวงศ์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒ ๕๑๑ ๒๐๕ ต่อ ๓๑๒๔๑ - ๔๒ และ ๐๘๖ ๓๑๘ ๔๕๙๒ และโอนเงินเข้าบัญชีเลขที่ ๔๐๘ - ๐ - ๗๗๓๐๕ - ๖ ชื่อบัญชี "สร้างอนุสรณ์สถานีวีรชนและพิพิธภัณฑ์ นรข." กำหนดรับเหรียญที่ระลึกได้ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
(ที่มา : นรข.)

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "สองคนยลตามช่อง"

 กองอนุ ศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "สองคนยลตามช่อง"
        นักสอนศาสนาท่านหนึ่งเขียนไว้ว่า "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย" เพื่อจะไขปริศนาธรรมดังกล่าว โบราณาจารย์ท่านได้แนะนำสั่งสอนให้ใช้ปัญญาพินิจพิเคราะห์เลือกมองสิ่งต่าง ๆ เฉพาะแต่ในแง่ที่เป็นประโยชน์ หรือพินิจพิจารณาปรับเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหาให้เป็นปัญญาและปรับเปลี่ยน วิกฤตให้เป็นโอกาส โดยยกตัวอย่างบุคคล ๒ คน ที่ประสบปัญหาเหมือนกัน แต่มีวิธีคิดและมุมมองในการแก้ปัญหาต่างกันดังนี้
         ตัวอย่างที่ ๑ มีแก้ว ๑ ใบ มีน้ำเหลืออยู่ในแก้วครึ่งหนึ่ง คนที่ต้องการดื่มน้ำคนแรกมองเห็นแต่ในแง่ลบด้วยความโลภว่า มีน้ำเหลืออยู่แค่ครึ่งแก้ว คงไม่พอสำหรับดื่มดับกระหาย แต่อีกคนหนึ่งกลับมองแต่ในแง่บวกด้วยความมักน้อยสันโดษว่า มีน้ำเหลืออยู่ตั้งครึ่งแก้ว น่าจะเพียงพอสำหรับดื่มดับกระหายได้
          ตัวอย่างที่ ๒ ในใบจ่ายเงินเดือนข้าราชการกองทัพเรือ ๒ นาย แจ้งยอดเงินรายได้รวมจำนวน ๓ แสนบาท และเงินภาษีรวมหักถึงเดือนปัจจุบัน จำนวน ๘ พันบาท เท่ากัน ข้าราชการคนแรกมองเห็นแต่ในแง่เสียด้วยความเห็นแก่ตัวว่า ถูกหักภาษีรวมเป็นเงินถึง ๘ พันบาท แต่ข้าราชการอีกคนหนึ่งกลับมองแต่ในแง่ดีอย่างภูมิอกภูมิใจว่า แค่เดือนปัจจุบันนี้ เรามีเงินรายได้รวมถึง ๓ แสนบาท
         ตัวอย่างที่ ๓ พนักงานขายจาก ๒ บริษัท ได้ถูกส่งไปเปิดตลาดรองเท้าที่ประเทศแอฟริกา พร้อม ๆ กัน คนแรกเห็นคนพื้นเมืองแอฟริกาไม่ใส่รองเท้าเลยแม้แต่คนเดียว จึงรีบโทรศัพท์รายงานบริษัทด้วยน้ำเสียงท้อแท้สิ้นหวังว่า "อย่าส่งรองเท้ามาขายที่นี่ เพราะคนแอฟริกาไม่นิยมใส่รองเท้า" แต่อีกคนหนึ่งกลับรีบโทรศัพท์รายงานษริษัทอย่างดีใจเปี่ยมด้วยความหวังว่า "ให้รีบส่งรองเท้ามาทันที เพราะคนที่แอฟริกานี้ไม่มีรองเท้าใส่"
         จากเรื่องที่ยกมาเป็นตัวอย่างเหล่านี้ ชี้ให้เห็นสัจธรรมชีวิตว่า ทุกคนมีปัญหาและในทุกปัญหา ถ้าหากใช้ปัญญาก็มีโอกาสที่จะแก้ปัญหาได้เหมือนกัน ต่างกันแต่เพียงว่า "คนโง่เขามักมองเห็นปัญหาในทุกโอกาส แต่คนฉลาดมักมองเห็นโอกาสในทุกปัญหา" เท่านั้น
(ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)

ขอเชิญชมและร่วมเป็นกำลังใจทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี นัดที่ ๕ ในรายการฟุตบอลไทยลีกดิวิชั่น ๑

วันนี้ (๒๖ มีนาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๘.๐๐ น. ขอเชิญชมและร่วมเป็นกำลังใจให้กับทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวีในการแข่งขันฟุตบอล ไทยลีกดิวิชั่น ๑ (ยามาฮ่าลีกวัน) ประจำปี ๒๕๕๗ นัดที่ ๕ โดยทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี พบกับสโมสรตราด เอฟซี ณ สนามกีฬาราชนาวีสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (ที่มา : คณะอนุกรรมการฟุตบอล ทร.)

พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.๑๑๑ ณ ท่าเรือแหลมเทียน

วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๙ น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.๑๑๑ ตามโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ณ ท่าเรือหมายเลข ๕ (LST Ramp) ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พลเรือโท พัลลภ ตมิศานนท์ ประธานกรรมการร่วมกองทัพเรือ-บริษัทมาร์ซัน จำกัด และรองเสนาธิการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทมาร์ซัน จำกัด ให้การต้อนรับ
         พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.๑๑๑ ประกอบด้วย ในช่วงเช้าประกอบพิธีสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และพิธีสงฆ์ จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือขึ้นแท่นรับมอบเรือ ฯ มี ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัท มาร์ซัน จำกัด กล่าวรายงานมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.๑๑๑ และผู้บัญชาการทหารเรือมอบเอกสารการส่งมอบเรือ ฯ ให้แก่ พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เพื่อส่งมอบเรือให้ พลเรือตรี สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ ต่อไป กองทัพเรือได้ดำเนินโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ จำนวน ๓ ลำ พร้อมระบบสื่อสาร อาวุธ ระบบอื่น ๆ รวมทั้งการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมในทะเล คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยและทะเล อันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย และการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่ง โดยกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ออกแบบและต่อเรือ ซึ่งเรือทั้ง ๓ ลำ ตั้งชื่อว่า "เรือ ต.๑๑๑", "เรือ ต.๑๑๒" และ "เรือ ต.๑๑๓"        
        ลักษณะของเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือมีความยาวตลอดลำ ๓๖ เมตร, ความกว้างกลางลำ ๗.๖๐ เมตร, ความลึกกลางน้ำ (Molded Depth) ๓.๖๐ เมตร, เรือกินน้ำลึกเต็มที่ไม่เกิน (Molded Draught) ๑.๗๐ เมตร, ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่น้อยกว่า ๓๖,๐๐๐ ลิตร, ความจุถังน้ำจืด ไม่น้อยกว่า ๕,๖๐๐ ลิตร, มีถังน้ำจืดสำรองความจุ ไม่น้อยกว่า ๘,๐๐๐ ลิตร และมีระวางขับน้ำเต็มที่ ประมาณ ๑๕๐ ตัน
        ขีดความสามารถทั่วไปของเรือดังกล่าวมีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่ต่ำกว่า ๒๗ นอต, ระยะปฏิบัติการที่ความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ ๑๕ นอต ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ ไมล์ทะเล, สามารถปฏิบัติการในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 5 (ความสูงคลื่น ๒.๕ - ๔ เมตร), สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน, ปฏิบัติการทางเรือได้อย่างต่อเนื่องในทะเลได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน และสามารถตรวจจับ ติดตาม และพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ ได้ด้วยระบบตรวจการณ์ของเรือ นอกจากนี้ สามารถ หยุดยั้ง ขัดขวาง เรือผิวน้ำ และป้องกันตนเองจากข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ, ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ลาดตระเวนป้องกันการแทรกซึมและคุ้มครองเรือประมงและทรัพยากรธรรมชาติ, เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว
         เรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ นอกจากจะมีขีดความสามารถทั่วไปแล้ว ยังมีขีดความสามารถในการสนับสนุนการขนส่งทางธุรการชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) อย่างน้อย ๑ ชุด ปฏิบัติการพิเศษ, ลำเลียงอุปกรณ์สนับสนุนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตามพื้นที่ชายฝั่งและเกาะต่าง ๆ ลำเลียงอุปกรณ์ปรับความดันบรรยากาศของกองทัพเรือ สนับสนุนการปฏิบัติการด้านการแพทย์ให้กับกองเรือในทะเลตามขีดความสามารถของเรือ และสามารถบรรทุกและรองรับตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ขนาด ๒๐ ฟุต จำนวน ๒ ตู้ พร้อมกับบรรทุกถังน้ำมันแบบยางขนาด ๕๐๐ แกลลอน จำนวน ๑ ถัง (ที่มา : สยป.ทร.)

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 "การที่ได้เลื่อนยศขึ้นมาตามลำดับนั้น ก็นับว่าต้องถือเป็นเกรียติแก่ตัว แต่ก็ต้องนึกถึงว่าเป็นความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น เพราะว่าผู้ที่มียศสูงขึ้นไป มีผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือมีผู้ที่มียศต่ำกว่ามากขึ้น ฉะนั้นก็เป็นความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องตั้งตัวให้ดีว่าความรับผิดชอบยิ่งขึ้นนั้น จะต้องปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง แข็งแรงยิ่งขึ้น เวลาพูดถึงความรับผิดชอบอะไรสำคัญที่สุด สำหรับทหารก็จะต้องรับผิดชอบในความปลอดภัยและในความผาสุขของประเทศชาติ ซึ่งจะปฏิบัติได้ก็ด้วยความมีหลักวิชา ด้วยความมีความกล้าหาญ ด้วยความมีความซื่อสัตย์สุจริต และสำคัญมากก็คือ ด้วยความมีความสามัคคีปรองดองระหว่างกัน"
         พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในพิธีประดับยศและพระราชทานสัญญาบัตรยศแก่นายทหารชั้นสัญญาบัตร วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๘