วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เวียดนามจะได้รับเรือดำน้ำ Project 636 ลำที่ ๓ ในปลายปี ๒๕๕๗

 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า กองทัพเรือเวียดนามจะได้รับเรือดำน้ำ Project 636 ลำที่ ๓ ในปลายปี ๒๕๕๗ ส่วนเรือลำที่ ๔ กำลังอยู่ในขั้นการทดสอบในโรงงาน โดยเรือดำน้ำ HQ-182 Hanoi และ HQ-183 Ho Chi Minh City ซึ่งเป็น เรือชุดเดียวกัน เข้าประจำการแล้วที่ กองพลน้อย เรือดำน้ำ ๑๘๙ ฐานทัพเรือคัมรานห์ เมื่อเดือนเมษายน๒๕๕๗ และกำลังพลของเรือดำน้ำได้ผ่านการฝึกในเรือระยะที่ ๑ เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ บริเวณน่านน้ำเกาะ Hogland อ่าวฟินแลนด์ โดยทำการฝึกขณะดำเป็นเวลา ๕๗ ชั่วโมง (ที่มา : ขว.ทร.)

ขอเชิญสมาชิกสามสมอสมาคม ร่วมงาน "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" ใน ๒๔ สิงหาคม นี้ ที่ โรงเรียนนายเรือ

 สามสมอสมาคม กำหนดจัดกิจกรรม "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" ให้กับสมาชิกสามสมอสมาคม ณ โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ น. - ๒๐.๓๐ น. โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การเยี่ยมชมหอดาราศาสตร์ เครื่องฝึกจำลองการเดินเรือ, ห้องนอนนักเรียนนายเรือ, ชมการแสดงแฟนซีดริล, ชมพิธีย่ำพระสุริย์ศรี
        สมาชิกสามสมอสมาคมท่านใดประสงค์จะเข้าร่วมงาน "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ นาวาเอกหญิง พามีล่า จันทมาศ ประจำแผนกฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๘๔๓ หรือ ๐๘๑ ๖๓๖ ๑๙๖๒ (ที่มา : สามสมอสมาคม)

กิจการร้านสวัสดิการกองทัพเรือ จำหน่ายสินค้าราคาถูก ใน ๒๐ สิงหาคม นี้


 กิจการร้านสวัสดิการกองทัพเรือ จัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับกำลังพลกองทัพเรือ ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ณ บริเวณลานจอดรถยนต์ ร้านสวัสดิการกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป โดยสินค้าจำหน่ายเป็น ชุด ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ ๒ ถุง และน้ำมันพืชมรกต ๒ ขวด ราคาชุดละ ๓๐๐ บาท นอกจากนี้มีสินค้าจากร้านเกษตรนาวี และท็อปส์ ซูเปอร์ มาร่วมจำหน่ายด้วย
         ผู้ที่สนใจซื้อสินค้าราคาถูก กรุณานำบัตรประจำตัวมาเพื่อรับบัตรคิว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๕๔๑๐, ๕๕๔๒๙ (ที่มา : สก.ทร.)

พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันนี้ (๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๔.๐๐ น. กองทัพเรือ โดย สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ ห้องสมุดราชนาวิกสภา อาคารราชนาวิกสภา ชั้น ๒ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยมี พลเรือตรี ไพฑูรย์ ประสพสิน ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ผู้แทนกองทัพเรือ และ ดอกเตอร์ ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นผู้ลงนาม
         การจัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์ร่วมกัน
        ความเป็นมาเริ่มจากเมื่อ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๐ กองทัพเรือโดย สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ กับ ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ศทอ.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี และสิ้นสุดลงเมื่อ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ในการดำเนินงานที่ผ่านมา ศทอ. ได้ทำการตรวจวัดการรบกวนกันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากระบบเรดาร์ วิทยุสื่อสารต่าง ๆ บนดาดฟ้าเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงรัตนโกสินทร์ และเรือหลวงสุโขทัย ตลอดจนให้การสนับสนุนในการตรวจวัดความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ให้กับโครงการวิจัยและพัฒนาของกองทัพเรือ เช่น ต้นแบบเครื่องบินทะเล เป็นต้น ตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างต่อเนื่องจึงได้จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมืออีกครั้งใน ครั้งนี้ โดยมีเนื้อหาพอสังเขป ดังนี้
         เป้าหมายและขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ประกอบด้วย
            ๑ การจัดให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี ระหว่าง สวทช. กับกองทัพเรือ ด้วยการจัดให้มีการบรรยายทางวิชาการ การฝึกอบรม การฝึกงานและศึกษาวิจัยในหัวข้อและโอกาสที่เหมาะสม
            ๒ การจัดทำโครงการศึกษาวิจัยโดยเน้นกิจกรรมที่ส่งผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่ปฏิบัติงานจริงในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการใช้ทรัพยากรในรูปแบบที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อผลประโยชน์ของชาติ
            ๓ การสนับสนุนความร่วมมือเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) ในการจัดทำเป็นสนามเครือข่าย Wi-Fi ประยุกต์ใช้งานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
            ๔ การสนับสนุนความร่วมมือเทคโนโลยีพลังงานทดแทนแสงอาทิตย์ (Solar cell) ในการนำไปใช้งานตามหน่วยปฏิบัติการของกองทัพเรือบนเกาะต่างๆ
           ๕ การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาสถานะอุปกรณ์ เครื่องมือวัดทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีใช้งานในกองทัพเรือให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
           ๖ การร่วมดำเนินโครงการวิจัยตามแผนยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีกองทัพเรือ พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๖๐
          ประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน ครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองหน่วยงานพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ร่วมกัน เพื่อให้ผลงานวิจัยสามารถนำไปใช้งานได้ ทั้งนี้ข้อตกลงความร่วมมือมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา ๕ ปี นับตั้งแต่สองฝ่ายลงนามร่วมกัน
(ที่มา : สวพ.ทร.)

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดกิจกรรม "โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐ ล้านกล้า ๘๐ พรรษา มหาราชินี"

วันนี้ (๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐ ล้านกล้า ๘๐ พรรษา มหาราชินี" ณ บริเวณเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ คิรีธาร อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ให้การต้อนรับ
         โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐ ล้านกล้า ๘๐ พรรษา มหาราชินี เป็นโครงการที่คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพในการปลูกป่าเพื่อน้อมเกล้าน้อม กระหม่อมถวาย ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ในพื้นที่เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ คิรีธาร ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำอเนกประสงค์ขนาดกลาง เป็นประโยชน์ทั้งด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า การเกษตร การป้องกันน้ำเค็ม และเป็นแหล่งน้ำจืดสำหรับอุปโภคและบริโภค โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๕๕ จนถึงปัจจุบัน
         การรณรงค์ปลูกป่าจะสร้างเสริมความรู้และจิตสำนึกของประชาชนให้ ตระหนักถึงผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อรองรับและบรรเทาปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรต่อไปในอนาคต การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการนำร่องเพื่อการฟื้นฟูคืนผืนป่าให้กับธรรมชาติ โดยเลือกพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนคิรีธาร ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นน้ำอเนกประสงค์ สำหรับพื้นที่ในการจัดกิจกรรมปลูกป่ามีจำนวน ๔๐ ไร่ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ ๑๘ ชนิด จำนวน ๔,๐๐๐ ต้น โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากกรมราชองครักษ์, ภาคประชาชน และส่วนราชการต่าง ๆ ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี, องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี, อำเภอขลุง, อำเภอมะขาม, เทศบาลตำบลบ่อเวฬุ, เทศบาลตำบลปัถวี, เทศบาลตำบลมะขาม, กำนันตำบลบ่อเวฬุ, เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร, ศูนย์ประสานงานป่าไม้จันทบุรี, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดจันทบุรี, นักเรียน, กลุ่มพลังมวลชน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าในครั้งนี้ รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ ๑,๒๐๐ คน (ที่มา : กปช.จต.)

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  
"ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็กเพราะว่าต่อไป ถ้ามีชีวิตที่ลำบากไปประสบอุปสรรคใด ๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็ง ในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ นั้นได้"
         พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต ๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๘