ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้
ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆ คน หลายๆ ทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางและบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558
พิธีเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ และพิธีเปิดพลับพลาที่ประทับ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (๑๔ กันยายน
๒๕๕๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์
ผู้บัญชาการทหารเรือ
เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่ภาคใต้
เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ
ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
โดยมี
พลเรือโท สายันต์ ประสงค์สำเร็จ
ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ให้การรับรองและกล่าวรายงานตนเอง
ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ
ประกอบพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ
วางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
และกล่าวให้โอวาทแสดงความขอบคุณแก่กำลังพลที่ได้เสียสละและร่วมมือกัน
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
พร้อมทั้งมอบของบำรุงขวัญให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดพลับพลาที่ประทับ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ สวนสาธารณะสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน และนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือเข้าร่วมพิธี
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดพลับพลาที่ประทับ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ สวนสาธารณะสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน และนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือเข้าร่วมพิธี
บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "คิดบวก"
กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "คิดบวก"
ในโลกปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่นี้ มนุษย์ทุกคนต้องทำงานและดำรงชีพอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่มากระทบ เป็นผลทำให้เกิดความเครียดขึ้น และความเครียดนี้เองที่ส่งผลต่อทั้งความคิด สมอง ร่างกาย และจิตใจของเราในทุกด้าน ส่วนใหญ่เป็นผลในแง่ลบ การที่เราสามารถมองโลกในแง่ดี คิดดี ในสภาวะที่มีแต่ความวุ่นวายแบบนี้ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ทั้งสุขภาพกายและใจ
การปรับสภาพใจด้วยการมองโลกในแง่ดีนี้ก็คือ การคิดเชิงบวกนั่นเอง การคิดเชิงบวกหมายถึง การพยายามหามุมมองที่แตกต่างออกไปจากมุมมองปกติที่เราเคยมองให้เป็นบวก ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของเราเอง และผู้อื่นซึ่งตรงกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาสอนให้ใช้สติและปัญญาพินิจ อย่างรู้เท่าทัน เช่น บางคนเคยคิดว่าทำไมตัวเราต้องทำงานหนักแทบทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาช่างแสนสบาย ไม่เห็นทำงานหนักเหมือนตัวเราเลย เป็นต้น การคิดในลักษณะนี้ก็จะเกิดการท้อแท้ ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า การที่เราทำงานหนักกว่าคนอื่นแสดงว่าเรามีความสามารถเป็นคนที่มีคุณค่า ด้วยการทำงานหนักนี้เองจะช่วยให้เรามีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น เพราะเมื่อไรที่เราคิดบวกได้ งานที่ยากก็จะกลายเป็นง่ายไปด้วย เพราะได้กำลังใจที่ดีนั่นเอง
เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือให้เข้ากับทิศทางลมได้ ดังนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี จึงแนะนำว่า "เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ" การคิดบวกได้อย่างนี้จะเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์
ในโลกปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่นี้ มนุษย์ทุกคนต้องทำงานและดำรงชีพอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่มากระทบ เป็นผลทำให้เกิดความเครียดขึ้น และความเครียดนี้เองที่ส่งผลต่อทั้งความคิด สมอง ร่างกาย และจิตใจของเราในทุกด้าน ส่วนใหญ่เป็นผลในแง่ลบ การที่เราสามารถมองโลกในแง่ดี คิดดี ในสภาวะที่มีแต่ความวุ่นวายแบบนี้ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ทั้งสุขภาพกายและใจ
การปรับสภาพใจด้วยการมองโลกในแง่ดีนี้ก็คือ การคิดเชิงบวกนั่นเอง การคิดเชิงบวกหมายถึง การพยายามหามุมมองที่แตกต่างออกไปจากมุมมองปกติที่เราเคยมองให้เป็นบวก ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของเราเอง และผู้อื่นซึ่งตรงกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาสอนให้ใช้สติและปัญญาพินิจ อย่างรู้เท่าทัน เช่น บางคนเคยคิดว่าทำไมตัวเราต้องทำงานหนักแทบทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาช่างแสนสบาย ไม่เห็นทำงานหนักเหมือนตัวเราเลย เป็นต้น การคิดในลักษณะนี้ก็จะเกิดการท้อแท้ ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า การที่เราทำงานหนักกว่าคนอื่นแสดงว่าเรามีความสามารถเป็นคนที่มีคุณค่า ด้วยการทำงานหนักนี้เองจะช่วยให้เรามีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น เพราะเมื่อไรที่เราคิดบวกได้ งานที่ยากก็จะกลายเป็นง่ายไปด้วย เพราะได้กำลังใจที่ดีนั่นเอง
เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือให้เข้ากับทิศทางลมได้ ดังนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี จึงแนะนำว่า "เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ" การคิดบวกได้อย่างนี้จะเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ จะทำลายเอกสารเวชระเบียนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่ครบอายุการเก็บเอกสาร ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ และ ๒๕๔๘
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
กรมแพทย์ทหารเรือ
จะขออนุมัติทำลายเอกสารเวชระเบียนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่ครบอายุการเก็บ
เอกสารตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
พุทธศักราช ๒๕๒๖ โดยมีเวชระเบียนผู้ป่วยนอก (OPD card)
ปีพุทธศักราช
๒๕๔๘ หมายเลข HN ๑ - ๗๔๓๒๓ ส่วนเวชระเบียนผู้ป่วยใน
ปีพุทธศักราช
๒๕๔๗ หมายเลข AN ตั้งแต่ ๑ - ๑๙๙๔๔ และ ปีพุทธศักราช
๒๕๔๘ หมายเลข
AN ตั้งแต่ ๑ - ๑๙๓๙๗
จึงขอแจ้งให้ข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ตลอดจนประชาชนทั่วไปทราบ หากผู้ใดเป็นเจ้าของหมายเลขทะเบียนผู้ป่วยตามปีและหมายเลขดังกล่าว มีความประสงค์จะขอเก็บเวชระเบียนของตนเอง ให้ติดต่อขอรับได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ (ที่มา : พร.)
จึงขอแจ้งให้ข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ตลอดจนประชาชนทั่วไปทราบ หากผู้ใดเป็นเจ้าของหมายเลขทะเบียนผู้ป่วยตามปีและหมายเลขดังกล่าว มีความประสงค์จะขอเก็บเวชระเบียนของตนเอง ให้ติดต่อขอรับได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ (ที่มา : พร.)
จีนและไต้หวันจัดการฝึกทางทะเลในช่องแคบไต้หวัน
ระหว่างวันที่ ๑๑ -
๑๓ กันยายน ๒๕๕๘กองทัพจีนจัดการฝึกทางทะเลด้วยกระสุนจริง
บริเวณช่องแคบไต้หวัน
นอกชายฝั่งเมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน
โดยออกประกาศแจ้งเตือนมิให้เรือผ่านเข้าใกล้ในห้วงเวลา
ดังกล่าว ขณะที่กองทัพไต้หวันจัดการฝึกทางทะเลประจำปี
Han Kuang
ระหว่างวันที่ ๗ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘
ซึ่งเป็นการฝึกต่อจากโครงการเมื่อปีที่แล้วเพื่อรับมือภัยคุกคามจากจีนตรวจ
สอบแผนการรบและทดสอบขีดความที่มา
: สามารถในการป้องกันประเทศของกองทัพไต้หวัน
หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางทหาร
อย่างไรก็ตาม
กลาโหมไต้หวันระบุว่าการฝึกของกองทัพจีนเป็นการฝึกประจำปี
และไม่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย
(ที่มา : ขว.ทร.)
(ที่มา : ขว.ทร.)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)