วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงการ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขด้วยหลักธรรม ในวันนี้นำเสนอเรื่อง "ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง" ด้วยหลักการดับร้อนด้วยเย็น เป็นทางเดียวที่นำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิตได้ทุกปัญหา
        เมื่อเกิดไฟไหม้ สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงและต้องการคือ น้ำดับไฟ ไม่ว่าจะไหม้ลุกลามใหญ่โตขนาดไหน ถ้ามีน้ำมากพอก็สามารถดับได้ เหตุผลที่ต้องใช้น้ำดับไฟก็คือ ร้อนต้องดับด้วยเย็น ในเมื่อไฟเป็นของร้อน น้ำเป็นของเย็น ไฟจึงต้องดับด้วยน้ำ ถ้าเรานำหลักการนี้มาใช้แก้ปัญหาชีวิตก็จะแก้ได้โดยวิธีเดียวกัน เมื่อความทุกข์หรือปัญหาชีวิตเป็นความทุกข์ร้อน ถ้าปล่อยให้คุกรุ่นอยู่ต่อไปอาจลุกไหม้ลามไปถึงคนอื่นด้วย ดังนั้น ไฟชีวิตจึงต้องดับด้วยน้ำคือ "ธรรมะ" เท่านั้น ในความเป็นจริงที่ชีวิตและสังคมมนุษย์ต้องเผชิญอยู่กับความทุกข์ร้อนต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เกิดจากไฟคือกิเลส ได้แก่ โลภ โกรธ หลง ที่ลุกโพลงขึ้นในใจของมนุษย์นี่เอง และแทนที่จะใช้น้ำคือ "ธรรมะ" เข้าดับ ก็กลับทำเหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ด้วยการกระทำในสิ่งที่เป็นไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาเหล่านั้นให้ลุกไหม้ไม่มี วันจบสิ้น เช่น แก้จนด้วยการกู้หนี้ยืมสิน คิดรวยทางลัดด้วยการประกอบมิจฉาชีพ แก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการกำจัดฝ่ายตรงกันข้าม แก้กลุ้มด้วยการดื่มเหล้าเข้าบาร์ หรือหาทางผ่อนคลายด้วยอบายมุข หรือแม้บางครั้งถึงทางตันก็คิดหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เพิ่มทวีความทุกข์ร้อนมากยิ่งขึ้น วิธีการดับทุกข์ที่ผิด ๆ เหล่านี้ท่านว่า เหมือนเอาน้ำเน่ามาล้างของเหม็น ซึ่งมีแต่จะเน่าเหม็นยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วที่เราควรหยุดคิดไตร่ตรองด้วยสติปัญญา แก้ปัญหาให้ถูกทาง มิฉะนั้นแล้วจะส่งผลให้เดือดร้อนกันไปไม่จบสิ้น
        หลักการดับร้อนด้วยเย็นนี้ เป็นทางเดียวที่นำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิตได้ทุกปัญหา กล่าวคือ นำความถูกต้องมาแก้สิ่งผิด เช่น แก้ความโลภด้วยการให้ แก้ความโกรธด้วยเมตตากรุณา แก้ความหลงด้วยสติปัญญา แก้ปัญหากลโกง โกหก หลอกลวง ด้วยสัจจะ สรุปได้ว่าต้องใช้ความเย็นแก้ความร้อน ใช้ความดีแก้ความชั่ว ใช้สิ่งถูกต้องแก้สิ่งผิด ข้อสำคัญอยู่ที่เราพร้อมจะแก้ความยุ่งยากทั้งหลายแล้วหรือยัง
(ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)

กิจการหอประชุมกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นลูกจ้างสวัสดิการกองทัพเรือ

กิจการหอประชุมกองทัพเรือ มีความประสงค์จะรับสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือนเข้าเป็นลูกจ้างสวัสดิการกองทัพเรือจำนวน ๓ ตำแหน่ง คือ เพศชาย ๒ ตำแหน่ง และเพศหญิง ๑ ตำแหน่ง โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการบัญชี สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี และมีอายุตั้งแต่ ๒๐ ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน ๓๐ ปีบริบูรณ์ เพศชายต้องผ่านการคัดเลือกทหารกองประจำการ และหมดข้อผูกพันตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช ๒๔๙๗ แล้ว
        หลักฐานการสมัคร ประกอบด้วย รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๔ รูป, บัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนบ้านของผู้สมัคร บิดาและมารดา, ใบทะเบียนสมรสบิดาและมารดา ใบมรณะบัตร บิดาและมารดา (ถ้ามี), หนังสือสำคัญเปลี่ยนชื่อ - สกุล ผู้สมัคร บิดาและมารดา (ถ้ามี), หลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้สมัครบิดา และมารดา มีสัญชาติไทย โดยกำเนิด, หลักฐานการศึกษา ได้แก่ ใบประกาศนียบัตรหรือระเบียนแสดงผลการศึกษาที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการ ศึกษา, หลักฐานทางทหารสำหรับผู้สมัครเพศชาย ได้แก่ ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.๙) และใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (สด.๔๓) หรือใบสำคัญทหารกองหนุน (สด.๘) และหลักฐานการได้รับการยกเว้น, ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งออกให้ไม่เกิน ๑ เดือน
         ผู้ประสงค์จะสมัคร สามารถขอรับใบสมัครและสมัครได้ที่ แผนกธุรการและกำลังพลหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ www.navyhall.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๔๙๑ (ที่มา : กิจการหอประชุม ทร.)

พิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและมอบประกาศนียบัตรฯ

วันนี้ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท ณะ อารีนิจ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและรับประกาศนีย บัตรกำกับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก พร้อมกับมอบโล่เกียรติยศประจำปี ๒๕๕๖ ณ อาคารอเนกประสงค์ ๑๐๐ ปี กรมสรรพาวุธทหารเรือ (แยกเจ) ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
        กองทัพเรือ โดย กรมสรรพาวุธทหารเรือ จัดให้มีการฝึกยิงเป้าปืนพกประจำปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการใช้อาวุธให้แก่กำลังพล เสริมสร้างให้ผู้ยิงปืนมีประสบการณ์ เกิดความคุ้นเคยกับการใช้อาวุธปืนได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนมีความสามารถยิงปืนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัวเองและทางราชการ และการประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกให้แก่ผู้ที่ถือว่าเป็นนักแม่นปืนชั้นยอดเยี่ยม นักแม่นปืนชั้นเชี่ยวชาญ นักแม่นปืนชั้นสูง และนักแม่นปืน พร้อมทั้งมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ที่ทำคะแนนได้สูงสุด ประจำปี ๒๕๕๖ ของกองทัพเรือ ในครั้งนี้ มีผู้ผ่านเกณฑ์และมีสิทธิประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก รวมทั้งสิ้น ๕๗๘ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ทำคะแนนสูงสุดได้รับการจารึกชื่อลงบนโล่เกียรติยศ คือ พันจ่าเอก ผจญ บุญรอด สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน คะแนนรวม ๒๘๘ คะแนน จาก คะแนนเต็ม ๓๐๐ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๙๖ (ที่มา : สพ.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ ณ กองพลนาวิกโยธิน

วันนี้ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๗.๑๕ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมอำลาหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ ในโอกาสที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลในพื้นที่ โดยมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ ณ กองบังคับการกรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จังหวัดนราธิวาส ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวอำลาแสดงความยกย่อง ชื่นชม และขอบคุณกำลังพลที่ได้เสียสละและร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ความสามารถมาโดยตลอด พร้อมกับส่งความปรารถนาดีและความระลึกถึงไปยังกำลังพลที่กำลังปฏิบัติ หน้าที่อยู่ในขณะนี้
        จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ โดยมี พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ และ พลเรือตรี สมศักดิ์ วาณิชย์เจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสงขลา ให้การต้อนรับ ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวอำลาแสดงความชื่นชมและขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบ หมายอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความเสียสละโดยมิได้ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ เกิดขึ้นส่งผลให้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ สร้างความประทับใจและได้รับความเชื่อถือจากประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและ เอกชนเป็นอย่างดียิ่งตลอดมา (ที่มา : สลก.ทร.)

อินเดียจะขายเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งให้แก่กองทัพเรือศรีลังกา

 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (๖ กันยายน ๒๕๕๖) มีรายงานว่า อินเดียมีแผนจะขายเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง จำนวน ๒ ลำ ให้แก่ศรีลังกา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยแนวรอยต่อน่านน้ำระหว่างปะรเทศ ทั้งนี้ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งทั้ง ๒ ลำ จะดำเนินการต่อที่อู่ต่อเรือ Goa Shipyard Ltd. ของอินเดีย กำหนดส่งมอบได้ในห้วงปี ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ อนึ่ง อินเดียจะจัดการฝึกทางทหารระหว่างรัฐทางตอนใต้ของอินเดีย ๔ รัฐ กับศรีลังกา ตามข้อเสนอของรัฐทมิฬนาฑูเพื่อกระชับความร่วมมือทางทหาร เนื่องจากมักเกิดกรณีกองทัพเรือศรีลังกา จับเรือประมงอินเดียบ่อยครั้ง (ที่มา : ขว.ทร.)

พิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและมอบประกาศนียบัตร

วันนี้ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท ณะ อารีนิจ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและรับประกาศนีย บัตรกำกับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก พร้อมกับมอบโล่เกียรติยศประจำปี ๒๕๕๖ ณ อาคารอเนกประสงค์ ๑๐๐ ปี กรมสรรพาวุธทหารเรือ (แยกเจ) ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         กองทัพเรือ โดย กรมสรรพาวุธทหารเรือ จัดให้มีการฝึกยิงเป้าปืนพกประจำปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการใช้อาวุธให้แก่กำลังพล เสริมสร้างให้ผู้ยิงปืนมีประสบการณ์ เกิดความคุ้นเคยกับการใช้อาวุธปืนได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนมีความสามารถยิงปืนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัวเองและทางราชการ และการประดับเครื่องหมายสามารถยิงเป้าปืนพกให้แก่ผู้ที่ถือว่าเป็นนักแม่นปืนชั้นยอดเยี่ยม นักแม่นปืนชั้นเชี่ยวชาญ นักแม่นปืนชั้นสูง และนักแม่นปืน พร้อมทั้งมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ที่ทำคะแนนได้สูงสุด ประจำปี ๒๕๕๖ ของกองทัพเรือ ในครั้งนี้ มีผู้ผ่านเกณฑ์และมีประสิทธิประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก รวมทั้งสิ้น ๕๗๘ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ทำคะแนนสูงสุดได้รับการจารึกชื่อลงบนโล่เกียรติยศ คือ พันจ่าเอก ผจญ บุญรอด สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน คะแนนรวม ๒๘๘ คะแนน จาก คะแนนเต็ม ๓๐๐ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๙๖ (ที่มา : สพ.ทร.)

ประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ

วันนี้ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๘.๓๐ น. พลเรือเอก อภิชาย ฟุ้งลัดดา ประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ และคณะ เยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมทักษะ หลักสูตรนิวไดร์ฟเวอร์ การขับรถหัวลาก ณ กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี การฝึกอบรมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทหารกองประจำการที่ครบกำหนดปลดประการ เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ จะได้รับประกาศนียบัตรจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และ บริษัทเอสซีจี สกิลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด พร้อมจะรับเข้าเป็นพนักงานประจำรถขนส่ง โลจิสติกส์ ภายหลังปลดจากประจำการ ซึ่งทหารกองประจำการที่จะเข้ารับการฝึกอบรมจะต้องเป็นผู้ที่สามารถขับรถยนต์ ได้ หากไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์จากกรมการขนส่งทางบก ทางบริษัท ฯ จะพาไปสอบใบขับขี่รถยนต์ภายหลังจากเข้าทำงานกับบริษัท ฯ (ที่มา : คพท.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้

วันนี้ (๑๒ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๗.๑๕ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมอำลาหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้ ในโอกาสที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลในพื้นที่ โดยมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ ณ กองบังคับการกรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จังหวัดนราธิวาส ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวอำลาแสดงความยกย่อง ชื่นชม และขอบคุณกำลังพลที่ได้เสียสละและร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด พร้อมกับส่งความปรารถนาดีและความระลึกถึงไปยังกำลังพลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้
          จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ โดยมี พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ และ พลเรือตรี สมศักดิ์ วาณิชย์เจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสงขลา ให้การต้อนรับ ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวอำลาแสดงความชื่นชมและขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบ หมายอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความเสียสละโดยมิได้ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ เกิดขึ้นส่งผลให้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ สร้างความประทับใจและได้รับความเชื่อถือจากประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและ เอกชนเป็นอย่างดียิ่งตลอดมา (ที่มา : สลก.ทร.)