วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สหรัฐอเมริกาเผยจีนและอาเซียนควรทำให้ข้อตกลงหมู่เกาะสแปรตลีย์มีผลผูกพันทางกฎหมาย

       นายแฮร์รี โธมัส จูเนียร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา เปิดเผย จีนและบรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีกรณีพิพาทเรื่องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะ สแปรตลีย์ จำเป็นต้องเปลี่ยนข้อตกลงเมื่อปี ๒๕๔๕ ให้มีผลผูกพันทางกฎหมายเพื่อ ป้องกันการเกิดเหตุปะทะและยังเป็นการรักษาตลาดการค้าของภูมิภาคดังกล่าว แต่ไม่ไดระบุถึงรายละเอียดของข้อตกลงว่าด้วยหมู่เกาะสแปรตลีย์ฉบับใหม่ที่ทางการสหรัฐอเมริกาต้องการให้เป็นไป ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเต็มใจที่จะเพิ่มความช่วยเหลือทุกด้าน เมื่อเริ่มมีการเจรจาร่างข้อตกลง และว่าข้อตกลงฉบับใหม่จะช่วยรับประกันเสถียรภาพของภูมิภาคและเสรีภาพของการเดินเรือสำหรับการค้าระหว่างประเทศ
       จีนและอาเซียนได้ร่วมลงนามในข้อตกลงที่ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมายเมื่อ ๘ ปีก่อน ซึ่งเรียกร้องให้แก้ปัญหาความขัดแย้งกรณีกล่าวอ้างอธิปไตยเหนือหมู่เกาะ สแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้อย่างสันติและยุติการกระทำที่อาจก่อให้เกิดการปะทะกัน ด้านสหรัฐอเมริกาวิตกว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อหนึ่งในเส้นทาง การเดินเรือเพื่อการพาณิชย์ที่สำคัญของโลก และเมื่อไม่นานมานี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และบรรดาผู้นำอาเซียนได้ออกมากล่าวย้ำถึงการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างสันติ แต่ทางการจีนเผยว่าสหรัฐอเมริกากำลังแทรกแซงปัญหาในภูมิภาค (ที่มา : สำนักข่าวไทย)

น้ำท่วมเพชรบุรีขยายวงกว้างต่อเนื่อง

       สถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดเพชรบุรี ยังคงขยายวงกว้าง ส่วนถนนเพชรเกษมถูกน้ำท่วมทั้งขาขึ้นและขาล่อง ทำให้เส้นทางการจราจรใช้ได้เพียง ๑ ช่องทาง เท่านั้น ตำรวจเร่งระบายรถและนำป้ายเตือนน้ำท่วมมาตั้งไว้ เพื่อเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง
       ขณะที่นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ออกสำรวจน้ำท่วมพื้นที่อำเภอท่ายาง พบว่ามีน้ำท่วมขังหลายแห่งและถนนบางช่วงชำรุด จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปซ่อมแซม ขณะที่เขื่อนเพชรมีปริมาณน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เกินปริมาณการกักเก็บ
       สำหรับพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีถูกน้ำท่วมทุกอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่เหนือและอยู่ด้านล่างเขื่อนเพชร โดยปริมาณน้ำมีแนวโน้มขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ส่วนการช่วยเหลือเหล่ากาชาดจังหวัดได้นำน้ำและอาหารไปมอบให้ชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น รวมทั้งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกอำเภอด้วย (ที่มา : สำนักข่าวไทย)

จัดใหญ่บวชทะเลแห่งเดียวในไทย ชุมพรปลูกฝังจิตอนุรักษ์ - ฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง

       นายวัชรินทร์ แสวงการ ประธานคณะกรรมการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเลบริเวณอ่าวท้องตมใหญ่ หมู่ที่ ๑ ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร และบริเวณใกล้เคียงลดลงไปมาก ชาวบ้านจึงต้องออกไปหากินไกลฝั่งมากขึ้น ทำให้รายได้ลดลง คณะกรรมการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญกลุ่มโฮมสเตย์ ท้องตมใหญ่ และกลุ่มอนุรักษ์วัดท้องตมใหญ่ เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยการสร้างความอุดมสมบูรณ์กลับคืนสู่อ่าวท้องตมและทะเลใกล้เคียง จึงร่วมกันจัดโครงการ "บวชทะเลท้องตมใหญ่ สงวนรักษาร้อยล้านชีวิต ปีที่ ๒" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ ท่าเทียบเรือประมงบ้านท้องตมใหญ่
       นายวัชรินทร์ กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าวเพื่อต้องการกำหนดแนวเขตอนุรักษ์ ห้ามทำการประมง เพื่อสงวนไว้เป็นพื้นที่วางไข่ และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำซั้ง หรือบ้านปลา ซึ่งเป็นปะการังเทียมแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เป็นที่อยู่อาศัยของกุ้งหอยปูปลาในเขตที่กำหนด สร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านและเยาวชน เสริมศักยภาพชุมชน ในการอนุรักษ์และพื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้นแบบในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้กลับคืนมาสู่ท้องทะเล ขยายแนวความคิดให้เป็นตัวอย่างแก่ชุมชนชายฝั่งอื่น ๆ และสร้างการมีส่วนร่วมกันในทุก ๆ ภาคส่วน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการบวชทะเลแห่งเดียวในไทย ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ ๒ โดยได้เตรียมเรือ ๒๐ ลำ สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงาน ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ พร้อมรับเสื้อยืด อาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก (ที่มา : มติชน)

เรือใบฝึกนักเรียนนายเรือสาธารณรัฐโปรตุเกส เข้าเยี่ยมประเทศไทย

       กองทัพเรือ อนุญาตให้เรือใบฝึกนักเรียนนายเรือสาธารณรัฐโปรตุเกส ชื่อเรือ SAGRES (A520) เดินทางเข้าเยี่ยมประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยจอดเรือเทียบท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย (ท่าโอบี) ทั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และร่วมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ ๕๐๐ ปี และรับการส่งกำลังบำรุง ตลอดจนให้กำลังพลประจำเรือพักผ่อนภายหลังจากการปฏิบัติภารกิจในทะเล (ที่มา : ขว.ทร.)

กองทัพเรือ ขอเชิญร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและภัยหนาว

       กองทัพเรือ เปิดศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและภัยหนาว โดย กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ และฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นหน่วยรับบริจาค
       ซึ่งการรับบริจาคนั้น เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในปัจจุบัน และเป็นการเตรียมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยหนาวเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที โดยจะนำเงินบริจาคไปจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็นให้ตรงตามความต้องการของผู้ประสบภัยจริง ๆ ผู้มี จิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเงินได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ได้ที่
       - กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๙๖๐ ในเวลาราชการ และ ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๒๒ นอกเวลาราชการ
       - ฐานทัพเรือกรุงเทพ ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร (ตรงข้ามวัดชิโนรส) หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๙๔๓ และ ๐ ๒๔๑๑ ๒๑๔๗ ในเวลาราชการ และ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๓๒๗ และ ๐ ๒๔๗๕ ๕๒๖๙ นอกเวลาราชการ (ที่มา : กพร.ทร.)

การขอมีบัตรอนุญาตติดยานพาหนะผ่านเข้า - ออก หน่วยราชการกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕

       กรมข่าวทหารเรือ แจ้งสิทธิการขอมีบัตรอนุญาตติดยานพาหนะผ่านเข้า - ออก หน่วยราชการกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ โดยผู้มีสิทธิขออนุญาตมีบัตร ฯ ดังนี้
       - นายทหารสัญญาบัตรชั้นยศ นายพลเรือ สามารถขอมีบัตร ฯ รถยนต์ได้ไม่เกิน ๔ ใบ/ คน และรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน ๒ ใบ/คน
       - นายทหารสัญญาบัตร ชั้นยศ เรือตรี - นาวาเอก สามารถขอมีบัตร ฯ รถยนต์ได้ไม่เกิน ๒ ใบ/คน และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน ๑ ใบ/คน
       - นายทหารประทวน ลูกจ้างสังกัดกองทัพเรือ และพนักงานราชการ สามารถขอมีบัตร ฯ รถยนต์และพนักงานราชการ สามารถขอมีบัตร ฯ รถยนต์และหรือรถจักรยานยนต์ได้ไม่เกิน ๒ ใบ/คน
       - บุคคลภายนอกและหน่วยราชการภายนอกกองทัพเรือที่ติดต่อราชการกับส่วนราชการ กองทัพเรือเป็นประจำ สามารถขอมีบัตร ฯ รถยนต์ได้ไม่เกิน ๑ ใบ/คน และรถจักรยานยนต์ได้ไม่เกิน ๑ ใบ/คน
       สำหรับหลักฐานประกอบการขอมีบัตร ฯ ประกอบด้วยแบบรายงานการขอมีบัตรอนุญาต ฯ, สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ บัตรลูกจ้างสังกัดกองทัพเรือ และบัตรพนักงานราชการ, สำเนาเอกสารแสดงสิทธิการครอบครองรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตาม กฎหมาย ทั้งนี้ ให้ใช้หลักฐานการครอบครอง ฯ ที่เป็นชื่อของบิดา มารดา คู่สมรส ที่ตนนำมาใช้ปฏิบัติงานเป็นประจำได้ โดยจะต้องแนบหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านผู้ครอบครอง ฯ และรับรองโดยผู้บังคับบัญชา ฯ กำหนดส่งหลักฐานให้ กรมข่าวทหารเรือ พิจารณาภายในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกต่อต้านการข่าวกรอง กองรักษาความปลอดภัย กรมข่าวทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๔๖๘๔ หรือดูได้ที่ http://www.nid.navy.mi.th/admin/misnid/secure/mainsecure.htm (ที่มา : ขว.ทร.)

ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองทัพเรือ

       พบเห็นการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ แจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๗๘๙ หรือทาง www.navy.mi.th/rongtook

กิจการให้กู้เงิน เปิดให้กู้เงินเพื่อการศึกษา

       กิจการให้กู้เงิน ได้เปิดให้กู้เงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในด้านการเงินที่เกี่ยวกับค่าใช้ จ่ายในการศึกษาของตนเองและบุตร เป็นข้าราชการประจำการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ สังกัดกองทัพเรือ ในวงเงินกู้ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑ ต่อปี ลดต้นทุกเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน ๑๒ เดือน
       สนใจจะขอกู้เงินยื่นแบบคำขอกู้เงิน พร้อมหลักฐานประกอบด้วย ใบจ่ายเงินเดือนของผู้กู้, ผู้ค้ำประกันเดือนปัจจุบัน, สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน, สำเนาใบหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีชื่อเจ้าของบัญชีและหมายเลขบัญชีของผู้กู้ และหลักฐานแสดงการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ หนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในการศึกษา, สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าใช้จ่ายในการศึกษา, หนังสือรับรองการเข้ารับการศึกษาจากสถาบัน การศึกษา หรืออื่น ๆ ที่แสดงการศึกษา เป็นต้น สามารถยื่นแบบคำขอกู้เงินได้ที่ สำนักงาน กิจการให้กู้เงิน แผนกสังคมสงเคราะห์ กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารเรือ ได้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ ในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๕๓๒๗๙, ๕๕๒๕๑, ๕๕๒๕๒ (ที่มา : สก.ทร.)

ขอเชิญผู้ที่สนใจซื้อหนังสือ "สมุดภาพเหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒"

       ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า ขอเชิญผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ซื้อหนังสือ "สมุดภาพ เหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒" ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมเอกสารทางด้านประวัติศาสตร์พร้อมบทวิเคราะห์จาก อาจารย์ ไกรฤกษ์ นานา นักประวัติศาสตร์อิสระที่มีชื่อเสียงได้เก็บสะสมรวบรวมไว้กว่า ๒๐ ปี ประกอบด้วยรูปภาพจากหนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างประเทศ ประมาณ ๑๐๐ ภาพ ซึ่งหาดูได้ยากที่ลงบทความวิเคราะห์เหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒ มีความหนา ๓๐๐ หน้า ในราคาเล่มละ ๙๙๙ บาท โดยเงินที่ได้จากการจำหน่ายจะนำไปช่วยพัฒนาป้อมพระจุลจอมเกล้าให้เป็นสถาน ที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้กับเยาวชนในบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้ารวมทั้ง เป็นค่าบำรุงใช้จ่าย เช่น ค่าไฟฟ้า และค่าวิทยากรในวันเสาร์ - อาทิตย์ เพื่อเปิดห้องนิทรรศการใต้พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ซึ่งแสดงเหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ให้ประชาชนและเยาวชนเข้าเยี่ยมชม
       สั่งซื้อหนังสือ "สมุดภาพเหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒" ได้ที่ ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๖๒๖๐ หรือที่ ร้านสมาคมภริยาทหารเรือ บริเวณราชนาวีสโมสร (ท่าช้าง) หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๔๔ หรือที่ ร้าน Sunshine หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (แยกปทุมวัน) หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๔ ๕๙๙ ๔๕๘๘
       สำหรับการขอรับหนังสือเพื่อเข้าห้องสมุดโรงเรียนระดับมัธยม ติดต่อได้ที่ คุณสงวน รักการโกวิท ประธานชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙ ๒๐๐ ๘๗๖๖ หรือ พลเรือตรี ประพฤติพร อักษรมัต หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙ ๔๘๘ ๕๗๗๓ (ที่มา : ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า)