วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

๓๐ กรกฎาคม วันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน


หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กำหนดจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินโดยภายในงานประกอบด้วยพิธีทางศาสนา, พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแด่ผู้กล้าหาญและเสียสละ,ประกาศนียบัตรบุคคลดีเด่น, พิธีมอบทุนการศึกษา, พิธีฟังสารผู้บังคับบัญชา และพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธี
         ในการนี้ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้เกียรติร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และเป็นประธานในพิธีบรรจุอัฐิผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ อาสาสมัครทหารพราน วุฒินันท์ ศรีประสิทธิ์ และวางพวงมาลา เพื่อน้อมรำลึกและคารวะแด่ดวงวิญญาณของเหล่านักรบผู้กล้าที่ได้เสียสละเลือด เนื้อและชีวิต ซึ่งถือเป็นการประกอบวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่น่ายกย่องสรรเสริญ ณ ศาสนสถาน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และอนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน โดยผู้บัญชาการทหารเรือ โดยมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ และญาติผู้เสียชีวิต เข้าร่วมพิธี ฯ
         หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน มีความเป็นมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๓๖๗ แบ่งเป็น ๓ ยุค คือ ยุคเริ่มต้น ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ ยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้มีการปรับปรุงอัตรากำลัง พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้ตั้งเป็นกรมนาวิกโยธินขึ้นที่สัตหีบ ขึ้นตรงต่อสถานีทหารเรือสัตหีบ และยุคใหม่ เป็นยุคที่รัฐบาลได้อนุมัติให้สถาปนากรมนาวิกโยธินขึ้นในวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๔๙๘ โดยมีการจัดตามหลักนิยมของนาวิกโยธินสหรัฐ ฯ ทหารนาวิกโยธินจึงได้ถือเอาวันก่อตั้งในยุคใหม่ คือ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย ต่อมากรมนาวิกโยธินได้ปรับอัตรากำลังเป็นหน่วยขนาดใหญ่และได้เปลี่ยนชื่อ หน่วยเป็น "หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน" ซึ่งในปี ๒๕๕๗ นี้ ครบรอบ ๕๙ ปี ปัจจุบันมี พลเรือโท สนธยา น้อยฉายา เป็น ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
         ทหารนาวิกโยธิน เป็นกำลังรบของกองทัพเรือที่มีขีดความสามารถในการยุทธการสะเทินน้ำสะเทินบก มีสมรรถภาพพร้อมที่จะทำการรบได้ทุกรูปแบบ ทุกโอกาส และทุกสถานที่ โดยมีการรบที่เป็นเอกลักษณ์ของทหารนาวิกโยธินที่ไม่มีโอกาสและพื้นที่จะถอยกลับเป็นอันขาด ทำให้กำลังทหารนาวิกโยธิน ต้องมีการวางรากฐานทางวินัยที่เข้มแข็ง ฝึกทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งสมบูรณ์พร้อมที่จะปฏิบัติการรบได้ทุกรูปแบบ กำลังทหารนาวิกโยธินมักจะเป็นหน่วยที่ถูกส่งออกไป แก้ปัญหาวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สมกับคำว่า "เมื่อ นย.เหยียบฝั่งพลัน เหตุคับขันจักคลี่คลาย"
          ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทหารนาวิกโยธินได้ปฏิบัติการสู้รบเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ อาทิ กรณีพิพาท อินโดจีน - ฝรั่งเศส, ยุทธการบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด, ยุทธการบ้านชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด, ยุทธการสามชัย, ยุทธการผาภูมิ, ยุทธการกรุงชิง, จัดกำลังทหารช่าง ไปปฏิบัติการเพื่อนมนุษยธรรม ไทย-อิรัก, จัดกำลังพลไปปฏิบัติภารกิจสันติภาพร่วมกับกองกำลังสหประชาชาติ ณ ประเทศสาธารณรัฐบุรุนดี ทวีปอาฟริกา, จัดกำลังพลไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ
          สำหรับการปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญในปัจจุบันที่ได้รับมอบหมาย จากกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินได้จัดส่งกำลังไปร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ภาคตะวัน ออกจากกรณีเขาพระวิหาร ปีพุทธศักราช ๒๕๐๕, ในพื้นที่ภาคใต้ จากความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เกี่ยวกับขบวนการโจรก่อการร้าย โจรจีนคอมมิวนิสต์ และ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ และในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดกำลังไปสนับสนุนหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตรับผิดชอบจังหวัดเชียงราย จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการจิตวิทยา ๔ ชุดปฏิบัติการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ทหารนาวิกโยธินมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชนให้มีความอยู่ ดีกินดีประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวเป็นสุข เป็นสิ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กับการป้องกันประเทศ
           จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทหารนาวิกโยธิน กองทัพเรือ มีความสำนึกในพระคุณแห่งแผ่นดินเกิด มีความซาบซึ้งในน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ให้การสนับสนุน และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารนาวิกโยธินด้วยดีมาตลอด ดังนั้น จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าทหารนาวิกโยธินพร้อมที่จะสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อ พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติ ราชบัลลังก์ ตลอดจนนำมาซึ่งความสันติสุขแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ เพื่อให้สมดังบทเพลงพระราชนิพนธ์ "ราชนาวิกโยธิน" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานให้แก่ทหารนาวิกโยธิน ความตอนหนึ่งว่า "กาย ใจ ชีวิต มอบเป็นราชพลี" (ที่มา : นย.)

สำนักข่าวญี่ปุ่นระบุ ASEAN มีความกังวลต่อปัญหาความขัดแย้งทางทะเลในภูมิภาค

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ASEAN ครั้งที่ ๔๗ ที่เนปยีดอ เมียนมา ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ จะหยิบยกประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกขึ้นหารือ ทั้งนี้ เพื่อความร่วมมือในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางทะเล รวมถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคด้วยการเจรจาบนพื้นฐานของกฎหมาย ระหว่างประเทศ และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS 1982) (ที่มา : ขว.ทร.)

ขอเชิญเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ฯ เสด็จแทนพระองค์ทอดพระเนตรการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ ๔๑ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

วันนี้ (๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๙.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ทอดพระเนตรการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ ๔๑ ณ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดย พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และคุณอัจฉรา พิพัฒนาศัย นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เฝ้ารับเสด็จ
         กองทัพเรือ ร่วมกับ สภากาชาดไทยจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตขึ้น เพื่อนำรายได้ทั้งหมด โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน การแสดงกาชาดคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นครั้งที่ ๔๑
         การแสดงกาชาดคอนเสิร์ตแบ่งออกเป็น สองภาค โดย ภาคแรกจะเป็นการบรรเลงเพลงคลาสสิก จากวงซิมโฟนีออเคสตร้า ดุริยางค์ราชนาวี ตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิก เริ่มด้วย บทเพลง La Forza del Destino (Overture) ของ Verdi ต่อด้วยเพลง Symphony NO.5 ของ Beethoven ซึ่งในภาคแรกนี้ อำนวยเพลงโดย นาวาโท ประกอบ มกรพงศ์ และในภาคที่สอง เป็นการบรรเลงเพลงยอดนิยม เพลงสากล และเพลงทหารเรือที่นำมาผูกเป็น เนื้อเรื่อง "ด้วยรักจากใจนาวี" โดยใช้กลอนที่ประพันธ์ขึ้นเกี่ยวกับความรักของทหารเรือต่อคนรอบข้าง และสรรพสิ่งต่าง ๆ มาบรรเลงขับร้องโดยนักร้องรับเชิญ
         กองทัพเรือได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และบุคคลต่าง ๆ ให้การสนับสนุนและร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย และในการนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินบริเวณหน้าการจัดงาน หรือจะร่วมบริจาคได้ที่
         - สำนักงานฝ่ายหารายได้ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๘๑, ๐ ๒๘๙๑ ๑๘๒๖
         - สำนักงานคณะกรรมการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ ๔๑ กรมข่าวทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๒ ๗๖๖๐ และ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๒ ๗๖๖๑
         - กรมการเงินทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๖๘๓, ๐ ๒๔๗๕ ๔๘๘๒ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๕๕๕๗ (อัตโนมัติ)
        - ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "กาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ ๔๑" เลขบัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๗๙๘๖ - ๕
        - ธนาณัติสั่งจ่าย "กรมการเงินทหารเรือ" ปณ.บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐
(ที่มา : สลก.ทร.)

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  "ความคิดนั้นสำคัญมาก ถือได้ว่าเป็นแม่บทใหญ่ของคำพูดและการกระทำทั้งปวง กล่าวคือ ถ้าคนเราคิดดี คิดถูกต้อง ทั้งตามหลักวิชาและคุณธรรม คำพูดและการกระทำก็เป็นไปในทางที่ดีที่เจริญ แต่ถ้าคิดไม่ดีไม่ถูกต้องคำพูดและการกระทำก็อาจก่อความเสียหาย ทั้งแก่ตัวเองและส่วนรวมได้ ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่บุคคลจะพูดจะทำสิ่งใด จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนว่า กิจที่จะทำ คำที่จะพูด ผิดหรือถูก เป็นคุณประโยชน์หรือเป็นโทษเสียหาย เป็นสิ่งที่ควรพูด ควรกระทำ หรือควรงดเว้น เมื่อคิดพิจารณาได้ดังนี้ ก็จะสามารถยับยั้งคำพูดที่สมควรหยุดยั้ง การกระทำที่ไม่ถูกต้อง พูดและทำแต่สิ่งที่จะสัมฤทธิ์ผลเป็นคุณ เป็นประโยชน์ และเป็นความเจริญ"
         พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๐