วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

สิทธิการขอรับคะแนนเพิ่มสำหรับบุตรข้าราชการที่สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ

สิทธิการขอรับคะแนนเพิ่มสำหรับบุตรข้าราชการที่สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ 
       กรมยุทธศึกษาทหารเรือ โดยคณะกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ แจ้งให้ข้าราชการสังกัดกองทัพเรือที่ได้รับราชการทวีคูณ หรือราชการชายแดน และบุตรประสงค์จะสมัครสอบคัดเลือก ฯ นักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๔ สามารถเพิ่มสิทธิของบุตรที่สมควรได้รับคะแนนเพิ่ม โดยทำหนังสือรับรองการปฏิบัติราชการทวีคูณหรือราชการชายแดน ให้ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการเรือชั้น ๑ ขึ้นไป ซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาประวัติ เป็นผู้รับรอง และให้บุตรนำหนังสือรับรอง ฯ ข้างต้นมายื่นในวันที่สมัครสอบคัดเลือก ฯ (ที่มา : ยศ.ทร.)

กรมพลาธิการทหารเรือ รับสมัครทหารกองประจำการเข้ารับราชการต่อจากเวลากองประจำการ

กรมพลาธิการทหารเรือ รับสมัครทหารกองประจำการเข้ารับราชการต่อจากเวลากองประจำการ อัตราจ่าเอก
       กรมพลาธิการทหารเรือ จะรับสมัครทหารกองประจำการเข้ารับราชการต่อจากเวลากองประจำการ ในตำแหน่งอัตราจ่าเอก พรรคพิเศษ เหล่าทหารพลาธิการ จำนวน ๕ อัตรา สายบริการ ๒ อัตรา และสายสหโภชน์ ๓ อัตรา โดยรับทหารกองประจำการทุกพรรค - เหล่า ที่จะครบกำหนดปลดกองหนุน ฯ ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และผ่านการอบรมหลักสูตรการบริการหรือการสหโภชน์ (ระยะยาว) จาก โรงเรียนพลาธิการ กรมพลาธิการทหารเรือ โดยมีใบประกาศนียบัตรจากโรงเรียนพลาธิการทหารเรือ ฯ รับรอง
      สำหรับเอกสารหลักฐานประกอบการขอสมัคร ประกอบด้วย สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร และบิดามารดาของผู้สมัคร หรือหลักฐานอื่นซึ่งแสดงว่าบิดามารดาของผู้สมัครเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และสัญญาของผู้สมัครและผู้ค้ำประกัน พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการผู้ค้ำประกัน
     สนใจสมัครเข้ารับราชการต่อ ฯ แจ้งความประสงค์ให้หน่วยรวบรวมเอกสารหลักฐานการขอสมัคร ฯ ส่งถึง กรมพลาธิการทหารเรือ ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ หากพ้นกำหนดเวลาที่กำหนดจะไม่รับพิจารณา (ที่มา : พธ.ทร.)

กำหนดแต่งกายเครื่องแบบหมายเลข ๒ ในเดือนกุมภาพันธ์

กำหนดแต่งกายเครื่องแบบหมายเลข ๒ และหมายเลข ๔ วันสำคัญในเดือนกุมภาพันธ์
       กองทัพเรือ กำหนดให้กำลังพลแต่งกายเครื่องแบบหมายเลข ๒ และหมายเลข ๔ ในวันสำคัญ ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ กำหนดให้แต่งเครื่องแบบหมายเลข ๒ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เนื่องเป็นวันทหารผ่านศึก จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน
(ที่มา : กพ.ทร.)

ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ ๓ ฝึกอบรมชาวประมง

ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ ๓ ฝึกอบรมชาวประมง หลักสูตร "การประมงกับความมั่นคงของชาติและ ไทยอาสาป้องกันชายในทะเล" ในพื้นที่อำเภอเกาะลันตา 
       กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ ๓ จะดำเนินการฝึกอบรมชาวประมง หลักสูตร "การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล (ทสปช.ในทะเล) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ ณ อาคารโรงเรียนชุมชนบ้านศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยเปิด รับสมัครในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔
      กองทัพเรือจัดอบรมชาวประมงหลักสูตร "การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล" ในครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ ๒๘๓ และเป็นรุ่นที่ ๗๔ ของ ศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขต ทัพเรือภาคที่ ๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้วิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่ออาชีพของชาวประมง ซึ่งจะทำให้ชาวประมงนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและประเทศชาติ โดยมีวิทยากรจากส่วนราชการต่าง ๆ จากกองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมการปกครอง กรมประมง สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ บริษัทการสื่อสารแห่งประเทศไทย โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มาเป็นผู้บรรยาย
       นอกจากนี้ การรวมชาวประมง ผู้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการประมง และผู้ประกอบกิจการทางทะเลให้เป็นกลุ่มพลังที่เรียกว่า "ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล" ทำหน้าที่ช่วยเหลือทางราชการในด้านการรักษาความมั่นคงของชาติในทะเล ด้านการช่วยป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบในเขตน่านน้ำไทย ตลอดจนไม่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ เสียเอง การร่วมมือระหว่างชาวประมงกับทางราชการอย่างแน่นแฟ้น และจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ชาติบ้านเมืองทางทะเลให้ดียิ่งขึ้น (ที่มา : ฐท.พง.ทรภ.๓)

กองทัพเรือ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการพิจารณาร่างยุทธศาตร์ความมั่นคงทางทะเล

กองทัพเรือ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการพิจารณาร่างยุทธศาตร์ความมั่นคงทางทะเล
       เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพเรือ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การพิจารณาร่างยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล" (๒๕๕๔ - ๒๕๕๙) เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ ฯ ให้มีความครอบคลุม และครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติต่อไป
       สำหรับเป้าหมายในการป้องกันและรักษาอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และสิทธิอธิปไตยทางทะเลคุ้มครองรวมถึงรักษาชีวิต สิทธิและทรัพย์สินของประชาชน สร้างความสงบเรียบร้อยในการดำเนินกิจกรรมทางทะเลของทุกภาคส่วน ในการปกป้องรักษาและฟื้นฟู ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล สร้างการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกในการรักษาทรัพยากร สร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่มีอยู่จำนวนมหาศาล รวมทั้งส่งเสริมการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการดูแลความมั่นคงทางทะเลของประเทศ
       นายอนุสิษฐ์ คุณาการ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของฝั่งทะเลอันดามัน กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ ๓ เป็นกลไกสำคัญ ในการที่จะลงไปช่วยดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยการบูรณาการในหลาย ๆ หน่วยงาน ส่วนหน่วยงานหลักที่เข้าร่วมทำหน้าที่ดังกล่าวกับทัพเรือภาคที่ ๓ เช่น กรมเจ้าท่า กรมประมง ศุลกากร กรมทรัพยากรแห่งชาติทางทะเล เป็นต้น
       หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติ เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จะทำหน้าที่ในเรื่องของการประสานงานการปฏิบัติ ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นเป็นเรื่องของความร่วมมือในเรื่องการ ประสานทางปัญญา กฎหมาย ที่มีอยู่ก็เป็นกฎหมายแต่ละหน่วย การทำหน้าที่นั้นต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องยากลำบากของกองทัพเรือ ฉะนั้น เอกสารหลักฉบับนี้ คือ ทำอย่างไรให้กลไกเหล่านี้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาจจะต้องมีกฎหมายเข้ามารองรับ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินโดยออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ทุกฝ่ายได้ตรวจสอบประเมินสภาวะแวดล้อม ตรวจสอบความต้องการในภาคประชาชนแล้วความต้องการที่สำคัญก็คือ ให้มีโครงสร้างของการทำงาน ที่มีความชัดเจนสามารถทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้จริง และในท้ายที่สุดผลประโยชน์เหล่านี้จะสะท้อนมายังประชาชน
(ที่มา : ทรภ.๓)

หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดพิธีสวนสนามยานยนต์

หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดพิธีสวนสนามยานยนต์ เนื่องในวันทหารผ่านศึก
       หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดพิธีสวนสนามยานยนต์ เนื่องในวันทหารผ่านศึก ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ลานสวนสนามหน้ากองบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และรำลึกถึงวีรชนของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะกระทำพิธีในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์
๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๑.๐๐ น. สำหรับการสวนสนามในครั้งนี้ จัดกำลังเป็น ๔ กองพัน มีกำลังพลรวม ๕๕๓ นาย ยานพาหนะจำนวน ๘๖ คัน และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ (ที่มา : สอ.รฝ.) 

อินโดนีเซียจะทำลายเรือ LST ที่มีอายุการใช้งานนานกว่า ๓๐ ปี

อินโดนีเซียจะทำลายเรือ LST ที่มีอายุการใช้งานนานกว่า ๓๐ ปี
     เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเรือเอก Seoparno Djasmin ผู้บัญชาการทหารเรือ อินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐ ฯ เห็นชอบกับการทำลายเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LST) ของอินโดนีเซียที่ต่อจากสหรัฐ ฯ และมีอายุการใช้งานนานกว่า ๓๐ ปี ได้แก่ KRI Teluk Langsa, KRI Teluk Bayur, KRI Teluk Kau, KRI Teluk Tomini, KRI Teluk Ratal, KRI Teluk Saleh และ KRI Teluk Bone และจะจัดหาเรือเข้าประจำการทดแทนจากบริษัท PT PAL ซึ่งเป็นบริษัทที่ต่อเรือสนับสนุนยกพลขึ้นบก (LPD) ๒ ลำ ได้แก่ KRI Banjarmasin และ KRI Banda Aceh (ที่มา : ขว.ทร.)