วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 "ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญ ไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย"
          พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

พิธีเปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘

 วันนี้ (๒๓ เมษายน ๒๕๕๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ รุ่นที่ ๑๒ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ ฯ โดยมี พลเรือโท จุมพล ลุมพิกานนท์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กล่าวรายงาน
         กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ จัดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (พสบ.ทร.รุ่นที่ ๑๒) ระหว่างวันที่ ๒๓ เมษายน ถึง ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ ห้องประชุม ๑ กรมสวัสดิการทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านความมั่นคงของชาติทางทะเล และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยมี ข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้ารับการอบรม จำนวน ๕๔ คน ได้แก่ ข้าราชการกองทัพเรือ ข้าราชการจากเหล่าทัพ ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคคลระดับผู้บริหารจากภาคเอกชน (ที่มา : กพร.ทร.)

พิธีเปิดการฝึกอบรมอาชีพทหารกองประจำการ รุ่นที่ ๓/๕๘

วันนี้ (๒๓ เมษายน ๒๕๕๘) เวลา ๐๙.๒๐ น. พลเรือเอก สมศักดิ์ พยัคคง รองประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมอาชีพทหารกองประจำการ รุ่นที่ ๓/๕๘ ณ สโมสรสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         กองทัพเรือ โดย คณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองทัพเรือ จัดให้มีการฝึกอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการ เพื่อส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในวิชาชีพสาขาต่าง ๆ ให้แก่ทหารกองประจำการของกองทัพเรือ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพเมื่อปลดประจำการไปแล้ว โดยได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กรมเจ้าท่า และสมาคมเจ้าของเรือไทย
         การฝึกอบรมอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการในครั้งนี้ เป็นการอบรมในรุ่นที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ มีทหารกองประจำการจากหน่วยต่าง ๆ เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพในหลักสูตรต่าง ๆ ได้แก่ หลักสูตรอาชีพช่างทั่วไปและหลักสูตรกำลังพลประจำเรือพาณิชย์ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อจบการฝึกอบรมแล้ว ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับวุฒิบัตร เพื่อใช้ประกอบในการสมัครงานทุกนาย (ที่มา : คพท.)

กองทัพเรือสนับสนุนการจัดพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี ๒๕๕๘

กองทัพเรือ ร่วมสนับสนุนการจัดพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี ๒๕๕๘ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองบัญชาการ กองทัพไทย แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๐๗.๐๐ น. - ๑๑.๓๐ น. โดยมี พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ฯ และมี นายทหารชั้นนายพลเรือ พร้อมคณะ เข้าร่วมพิธี
         ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ กำหนดให้วันที่ ๒๕ เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และให้ประกอบพิธี เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เชิดชูเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบเท่าทุกวันนี้ กำหนดให้ส่วนราชการทั้งส่วนราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พร้อมใจกันทั่วประเทศ
           สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พุทธศักราช ๒๐๙๘ ที่ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลกมีพระเชษฐภคินีคือ พระสุพรรณกัลยา มีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) และเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับ เช่น พระนเรศ วรราชาธิราช, พระนเรสส, องค์ดำ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพระนาม นเรศวรได้มาจากที่ใด สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพี้ยนมาจาก สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช มาเป็น สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชเมื่อ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๑๓๓ สิริรวมการครองราชสมบัติ ๑๕ ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๑๔๘ รวมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา
          ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือ จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทใหญ่บางรัฐ
           ดังนั้น กองบัญชาการกองทัพไทย จึงได้จัดการจัดงานวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขึ้น เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ, เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวร มหาราช ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ, เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระ นเรศวรมหาราช ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ (ที่มา : กพ.ทร., วิกิพีเดีย)