"ความสามัคคี
เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทยที่ได้อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดยไม่ขาดสาย
ทั้งนี้เพราะคนไทย ทราบตระหนักว่า หมู่คณะที่มีความสามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์
ย่อมมีกำลังกล้าแข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ"
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานในการประชุมใหญ่
สามัคคีสมาคม ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๓๔
วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558
ขอเชิญร่วมโครงการต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ ฯ เพื่อได้รับความรู้ในการเฝ้าระวังการเกิดเซลล์เนื้อร้ายในระยะเริ่มต้นและลดอัตราการเกิดโรคระยะลุกลาม
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
กรมแพทย์
ทหารเรือ ขอเชิญชวนกำลังพลเข้าร่วมโครงการต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ ฯ ณ บริเวณห้องโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น. โดยมี พลเรือโท พันเลิศ แกล้วทนงค์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิด ฯ
กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จัดโครงการต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ ฯ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคอันตรายของมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม รวมทั้งสามารถเฝ้าระวังและป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจตรวจพบในระยะลุกลาม สังเกตอาการที่ผิดปกติของตนเอง และเข้าร่วมตรวจคัดกรอง ฯ ให้แก่กำลังพลกองทัพเรือ ภายในงานจัดให้มีการบรรยายเรื่อง "มะเร็งลำไส้ใหญ่ รู้ไว้ป้องกันได้" บรรยายโดย นาวาเอก ต้น คงเป็นสุข, เรื่อง "มะเร็งเต้านม รู้ไว้ป้องกันได้" บรรยายโดย นาวาเอก วิทู กลิ่นอวย และโครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดย นาวาโทหญิง สุภัทรา แก้วเกรียงไกร นอกจากนี้ มีการจัดนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และบริการตรวจเช็คสุขภาพ คัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมเบื้องต้น พร้อมกับรับนัดส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ในครั้งนี้ด้วย (ที่มา : พร.)
ทหารเรือ ขอเชิญชวนกำลังพลเข้าร่วมโครงการต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ ฯ ณ บริเวณห้องโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น. โดยมี พลเรือโท พันเลิศ แกล้วทนงค์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิด ฯ
กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จัดโครงการต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ ฯ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคอันตรายของมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม รวมทั้งสามารถเฝ้าระวังและป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจตรวจพบในระยะลุกลาม สังเกตอาการที่ผิดปกติของตนเอง และเข้าร่วมตรวจคัดกรอง ฯ ให้แก่กำลังพลกองทัพเรือ ภายในงานจัดให้มีการบรรยายเรื่อง "มะเร็งลำไส้ใหญ่ รู้ไว้ป้องกันได้" บรรยายโดย นาวาเอก ต้น คงเป็นสุข, เรื่อง "มะเร็งเต้านม รู้ไว้ป้องกันได้" บรรยายโดย นาวาเอก วิทู กลิ่นอวย และโครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดย นาวาโทหญิง สุภัทรา แก้วเกรียงไกร นอกจากนี้ มีการจัดนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และบริการตรวจเช็คสุขภาพ คัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมเบื้องต้น พร้อมกับรับนัดส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ในครั้งนี้ด้วย (ที่มา : พร.)
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองทัพเรือ รับแจ้งเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบ
กองทัพเรือ
จัดตั้งศูนย์ประสานราชการใสสะอาดกองทัพเรือ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการป้องกันการทุจริต
คอร์รัปชัน การประพฤติมิชอบ การร้องเรียน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือ
สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน ได้ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
กองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๗๘๙ หรือทาง www.navy.mi.th/rongtook
(ที่มา : สลก.ทร.)
ขอเชิญร่วมบริจาคเงินสมทบทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้
กองทัพเรือ
ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละใน
จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ
ในกิจกรรมคอนเสิร์ต "Giving Love Giving Life 2" ณ
หอประชุมกองทัพเรือ
แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๕
มีนาคม ๒๕๕๘
เวลา ๑๗.๐๐ น. โดยบริจาคได้ที่ กรมการเงินทหารเรือ
กองบัญชาการกองทัพเรือ
แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕
๔๘๘๒ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๕๕๕๗
หรือโอนเงินเข้าธนาคารทหารไทย
จำกัด (มหาชน) สาขา กองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี
"Giving
Love Giving Life 2" หมายเลขบัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๙๙๙๙ - ๖
และขอความกรุณาส่งสำเนาใบโอนเงิน
พร้อมหนังสือแสดงความจำนงบริจาคไปยังหมายเลขโทรสาร ๐
๒๔๗๕ ๕๕๕๗
เขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ในการรับบัตรเข้าชมคอนเสิร์ต จำนวน ๒ ใบ ในกรณีบริจาคตั้งแต่ ๕,๐๐๐ บาท ขึ้นไป, บัตรชมคอนเสิร์ต จำนวน ๒ ใบ พร้อมเหรียญที่ระลึก กรณีบริจาคตั้งแต่ ๕๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป และบัตรชมคอนเสิร์ต จำนวน ๔ ใบ พร้อมของที่ระลึก กรณีบริจาคตั้งแต่ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป สามารถ ติดต่อฝ่ายหารายได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๘๑ และ ๐ ๒๘๙๑ ๑๘๒๖ (ที่มา : กพร.ทร.)
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ในการรับบัตรเข้าชมคอนเสิร์ต จำนวน ๒ ใบ ในกรณีบริจาคตั้งแต่ ๕,๐๐๐ บาท ขึ้นไป, บัตรชมคอนเสิร์ต จำนวน ๒ ใบ พร้อมเหรียญที่ระลึก กรณีบริจาคตั้งแต่ ๕๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป และบัตรชมคอนเสิร์ต จำนวน ๔ ใบ พร้อมของที่ระลึก กรณีบริจาคตั้งแต่ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป สามารถ ติดต่อฝ่ายหารายได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๘๑ และ ๐ ๒๘๙๑ ๑๘๒๖ (ที่มา : กพร.ทร.)
กรมประมง เชิญชวนติดตั้งระบบ VMS บนเรือประมง หนุนแก้ปัญหาการประมง IUU
จากการที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ติดตามตรวจสอบการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย
ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือการประมง IUU ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว
เพื่อลดผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดอุปสรรคทางการค้า และส่งผลกระทบต่อรายได้และเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU เป็นประเด็นเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้กรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา การทำประมง IUU ของไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานที่ชัดเจนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
การจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) โดยใช้ระบบดาวเทียม เป็นอีกหนึ่งในแผนปฏิบัติการที่กรมประมงกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้สอดคล้อง กับมาตรฐานสากล และเป็นไปตามหลักการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรทางทะเลรวมถึงเป็นการป้องกัน ปราบปรามผู้กระทำผิด ควบคุมไม่ให้มีการประมงผิดกฎหมาย และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU อีกด้วย โดยในระยะแรกได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเรือประมงขนาดใหญ่ที่ชักธงไทย ของไทยติดตั้งอุปกรณ์ VMS ภายใต้ความสมัครใจและรายงานตำแหน่งเรือมายังศูนย์ควบคุม VMS กรมประมง โดยมีจำนวนเรือเป้าหมายรวมประมาณ ๕๙ ลำ ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้แล้วกว่า ๔๕ ลำ สำหรับในระยะต่อไปจะมีการกำหนดให้เรือประมงติดตั้ง VMS ภายใต้พระราชบัญญัติการประมงฉบับใหม่ ของกรมประมง และ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๕๕๖ ของกรมเจ้าท่า ในเรือจำนวน ๒ กลุ่ม ประกอบด้วย
๑. เรือประมงขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสส์ขึ้นไป ให้ดำเนินการติดตั้ง VMS ภายใต้กฎหมายของกรมเจ้าท่า ซึ่งมีจำนวนเรือเป้าหมาย ๒,๐๗๐ ลำ ซึ่งขณะนี้กรมเจ้าท่าเตรียมที่จะออกกฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือ เพื่อใช้บังคับกับเรือประมงและเรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็นที่มีขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสส์ขึ้นไปต้องติดตั้ง VMS ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป
๒. เรือประมงขนาด ๓๐ - ๖๐ ตันกรอสส์ให้ดำเนินการติดตั้ง VMS ภายใต้กฎหมายกรมประมง ซึ่งมีจำนวนเรือเป้าหมายประมาณ ๔,๒๔๐ ลำ หลังจาก พระราชบัญญัติ การประมงฉบับใหม่มีผลบังคับใช้
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฏระเบียบดังกล่าวข้างต้น กรมประมงจึงขอเชิญชวนให้เจ้าของเรือประมงเร่งติดตั้งอุปกรณ์ VMS ทั้งนี้ กรมประมงและกรมเจ้าท่าจะมีการประกาศมาตรฐานกลางของอุปกรณ์ VMS ที่เจ้าของเรือจะสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดต่อไป โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๕๖๑ ๓๑๓๒, ๐ ๒๕๕๘ ๐๒๐๙ หรือ อีเมลล์ vms_staff@hotmail.com (ที่มา : กรมประมง)
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU เป็นประเด็นเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้กรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา การทำประมง IUU ของไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานที่ชัดเจนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
การจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) โดยใช้ระบบดาวเทียม เป็นอีกหนึ่งในแผนปฏิบัติการที่กรมประมงกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้สอดคล้อง กับมาตรฐานสากล และเป็นไปตามหลักการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรทางทะเลรวมถึงเป็นการป้องกัน ปราบปรามผู้กระทำผิด ควบคุมไม่ให้มีการประมงผิดกฎหมาย และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU อีกด้วย โดยในระยะแรกได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเรือประมงขนาดใหญ่ที่ชักธงไทย ของไทยติดตั้งอุปกรณ์ VMS ภายใต้ความสมัครใจและรายงานตำแหน่งเรือมายังศูนย์ควบคุม VMS กรมประมง โดยมีจำนวนเรือเป้าหมายรวมประมาณ ๕๙ ลำ ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้แล้วกว่า ๔๕ ลำ สำหรับในระยะต่อไปจะมีการกำหนดให้เรือประมงติดตั้ง VMS ภายใต้พระราชบัญญัติการประมงฉบับใหม่ ของกรมประมง และ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๕๕๖ ของกรมเจ้าท่า ในเรือจำนวน ๒ กลุ่ม ประกอบด้วย
๑. เรือประมงขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสส์ขึ้นไป ให้ดำเนินการติดตั้ง VMS ภายใต้กฎหมายของกรมเจ้าท่า ซึ่งมีจำนวนเรือเป้าหมาย ๒,๐๗๐ ลำ ซึ่งขณะนี้กรมเจ้าท่าเตรียมที่จะออกกฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือ เพื่อใช้บังคับกับเรือประมงและเรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็นที่มีขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสส์ขึ้นไปต้องติดตั้ง VMS ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป
๒. เรือประมงขนาด ๓๐ - ๖๐ ตันกรอสส์ให้ดำเนินการติดตั้ง VMS ภายใต้กฎหมายกรมประมง ซึ่งมีจำนวนเรือเป้าหมายประมาณ ๔,๒๔๐ ลำ หลังจาก พระราชบัญญัติ การประมงฉบับใหม่มีผลบังคับใช้
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฏระเบียบดังกล่าวข้างต้น กรมประมงจึงขอเชิญชวนให้เจ้าของเรือประมงเร่งติดตั้งอุปกรณ์ VMS ทั้งนี้ กรมประมงและกรมเจ้าท่าจะมีการประกาศมาตรฐานกลางของอุปกรณ์ VMS ที่เจ้าของเรือจะสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดต่อไป โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๕๖๑ ๓๑๓๒, ๐ ๒๕๕๘ ๐๒๐๙ หรือ อีเมลล์ vms_staff@hotmail.com (ที่มา : กรมประมง)
นิทรรศการ LIMA 2015 มีเรือรบจากต่างประเทศร่วมจัดแสดงมากกว่า ๖๕ ลำ ระหว่าง ๑๗ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘
เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม
๒๕๕๘ พลเรือเอก ตัน ศรี อับดุล อาซิส บิน ฮัจญี จาฟาร์ ผู้บัญชาการทหารเรือมาเลเซีย
เปิดเผยว่า นิทรรศการกำลังทางเรือและการบินนานาชาติ ปี ๒๐๑๕ (Langkawi
International Maritime and Aerospace Exhibition 2015 - LIMA
2015) ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘ นั้น จะมีผู้บัญชาการทหารเรือจาก
๑๗ ประเทศ และผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ จาก ๑๕ ประเทศ ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมงาน
โดยมีเรือรบจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า ๖๕ ลำ โดยกองทัพเรือมาเลเซีย
จะนำเรือดำน้ำ KD Tunku Abdul Rahman และเรือรบอื่น ๆ ร่วมจัดแสดง
๑๒ ลำ หน่วย Malaysian Maritime Enforcement Agency (MMEA) จะนำเรือร่วมจัดแสดง
๓๖ ลำ ขณะที่กองทัพเรือรัสเซียจะจัดเรือพิฆาต Admiral Panteleyev
เรือน้ำมัน Pechenega เรือลากจูงสำหรับกู้ภัย SB - 522 และกองทัพเรือสิงคโปร์
จะจัดเรือฟริเกต RSS Stalwart เข้าร่วมแสดงในงาน KIMA 2015 ด้วย
(ที่มา : ขว.ทร.)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)