วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จีนและฟิลิปปินส์เห็นพ้องที่จะแก้ไขปัญหาพิพาทด้านดินแดนโดยสันติวิธี

 เมื่อ ๙ ก.ค.๕๔ สนข.ซินหัว รายงานผลการหารือระหว่างนายหยาง เจี่ยฉือ รมว.กต.จีน และ นายอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รมว.กต.ฟิลิปปินส์ ที่กรุงปักกิ่ง ว่า จีนและฟิลิปปินส์เห็นพ้องที่จะร่วมกันรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และลดความตึงเครียดเกี่ยวกับปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ โดยจะยึดมั่นใน the Declaration on the Conduct of Parties on the South China Sea ที่ ASEAN และจีนให้การรับรองเมื่อ ปี ๒๕๔๕ และยืนยันที่จะไม่ให้กรณีดังกล่าวลุกลามจนกระทบต่อความสัมพันธ์และผลประโยชน์โดยรวมของทั้งสองประเทศ (ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)

สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนช่วยโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ยุติการยั่วยุในภูมิภาค

เมื่อ ๙ ก.ค.๕๔ พล.ร.อ.ไมค์ มูลเลน ประธานคณะเสนาธิการทหารสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือ โน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติการยั่วยุซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาค ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เกาหลีเหนือและผู้นำเกาหลีเหนือมีพฤติกรรมยั่วยุ และระยะหลังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น (ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)

นรม.อินเดียขอให้สมาชิก SAARC ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

เมื่อ ๑๐ ก.ค.๕๔ นายมานโมฮันห์ ซิงห์ นรม.อินเดีย แถลงระหว่างการประชุมสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้ (SAARC) ที่กรุงนิวเดลี อินเดีย ว่า ประเทศในเอเชียใต้ควรร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายที่กำลังเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก ทั้งนี้ประเทศในเอเชียใต้สามารถเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมกันได้แต่ต้องให้ความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาการก่อการร้ายดังกล่าว (ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)

สหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ปากีสถานมูลค่า ๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เมื่อ ๑๐ ก.ค.๕๔ มีรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ระงับความช่วยเหลือด้านการทหารประจำปีแก่ปากีสถานเป็นเงิน ๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ ๑ ใน ๓ ของความช่วยเหลือด้านความมั่นคงทั้งหมด ๒,๗๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว หลังจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ บุกสังหารนายอุซามะห์ บินลาดิน ในปากีสถานเมื่อ ๒ พ.ค.๕๔ ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน (ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์)

สภาสังคมสงเคราะห์ ฯ ขอเชิญส่งเรียงความเทิดพระคุณของแม่เข้าประกวดในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ปี ๒๕๕๔

ในโอกาสวันแม่แห่งชาติปี ๒๕๕๔ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเชิญชวนผู้สนใจส่งเรียงความเทิดพระคุณของแม่เข้าประกวด การประกวดแบ่งเป็น ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
เรียงความที่ส่งเข้าประกวดมีหลักเกณฑ์มี ระดับประถมศึกษาเขียนเรียงความในหัวข้อเรื่อง "แม่ดีครอบครัวมีสุข" ความยาว ๑ - ๒ หน้ากระดาษ (เอ ๔) ระดับมัธยมศึกษาหัวข้อเรื่อง "อนาคตของชาติฝากไว้ในมือแม่" ความยาว ๒ - ๓ หน้ากระดาษ (เอ ๔) ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไปหัวข้อเรื่อง "แม่ลูกผูกพันสร้างสรรค์ประชาธิปไตย" ความยาว ๓ - ๔ หน้ากระดาษ (เอ ๔) ซึ่งเรียงความที่ส่งเข้าประกวดทุกระดับต้องเรียบเรียงขึ้นด้วยตนเอง โดยส่งได้ระดับละ ๑ สำนวน แจ้งชื่อ - สกุล สถานที่ติดต่อพร้อมหมายเลขโทรศัพท์และโทรสารให้ชัดเจน โดยผู้ที่ส่งเรียงความเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลที่ ๑ จากการประกวดเรียงความของสภาสังคมสงเคราะห์ ฯ ในปี ๒๕๕๓ มาก่อน
สนใจสอบถามข้อมูลและส่งเรียงความเข้าประกวดได้ที่ สภาสังคมสงเคราะห์ ฯ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพ ฯ ๑๐๔๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๓๕๔ ๗๕๓๓ - ๓๗ และโทรสาร ๐ ๒๓๕๔ ๗๕๘๕ ภายในวันที่ ๒๐ กรกฎาคม นี้ (ที่มา : สภาสังคมสงเคราะห์ ฯ)

พิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่คู่สมรสข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่และผู้กระทำความดีความชอบ

 วันนี้ (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่าสายสะพายให้แก่คู่สมรสข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ และผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร
ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ให้แก่คู่สมรสข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ และผู้กระทำความดีความชอบ ในปีนี้มีคู่สมรสข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่าสายสะพาน จำนวน ๑๓ ราย และผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน จำนวน ๓ ราย (ที่มา : กพ.ทร.)

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปล่อยเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.๙๙๔ ลงน้ำ ณ กรมอู่ทหารเรือ

  วันนี้ (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เวลา ๑๖.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.๙๙๔ (เรือ ต.๙๙๔) ณ อู่แห้งหมายเลข ๑ อู่ทหารเรือ ธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมี พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ เฝ้ารับ ฯ เสด็จ
กองทัพเรือ ได้สนองแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงในโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.๙๙๔ เฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ และได้ดำเนินตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๕ ความตอนหนึ่งว่า "เมื่อสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด ต.๙๑ ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือให้ใหญ่ขึ้นและสร้างเพิ่มเติม" ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินโครงการจัดสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ชุด เรือ ต.๙๙๑ จำนวน ๓ ลำ ประสบความสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นในปีงบประมาณ ๒๕๕๒ กรมอู่ทหารเรือได้เตรียมการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเพิ่มอีก จำนวน ๓ ลำ คือ เรือ ต.๙๙๔, เรือ ต.๙๙๕ และ เรือ ต.๙๙๖ โดยดำเนินการพัฒนาแบบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด เรือ ต.๙๙๔ ให้มีคุณลักษณะที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยการพิจารณาจากปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ส่วน นำมาวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขจนสามารถทำให้การพัฒนาเรือนั้นมีคุณลักษณะที่เหมาะสมและตอบสนองต่อภารกิจได้ดีขึ้นคุณลักษณะทั่วไปของเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด เรือ ต.๙๙๔ มีความยาวตลอดลำ ๔๑.๗๐ เมตร ความกว้าง ๗.๒๐ เมตร กราบเรือสูง ๓.๘๐ เมตร กินน้ำลึก ๑.๘๐ เมตร ระวางขับน้ำเต็มที่ ๒๑๕ ตัน มีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า ๒๗ นอต ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า ๑,๕๐๐ ไมล์ทะเล ระยะเวลาปฏิบัติการในทะเลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า ๗ วัน และมีความทนทะเล ระดับ ๓ (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือ วางพวงมาลาถวายราชสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

 วันนี้ (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท นิรุทธ์ หงส์ประสิทธิ์ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะข้าราชการกองทัพเรือ ร่วมพิธีวางพวงมาลาในนามของกองทัพเรือ เพื่อถวายราชสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วงเวียนเทพสตรี จังหวัดลพบุรี
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒๗ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ทรงมีพระราชกรณียทรงธรรม ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญตลอดรัชกาลของพระองค์ ทั้งด้านการทหาร วรรณคดี และการทูต โดยเฉพาะการส่งคณะราชทูต นำโดยเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งราชวงศ์บูร์บง และพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปีพุทธศักราช ๒๒๓๑ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน กองทัพเรือได้ร่วมพิธีถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นประจำทุกปี (ที่มา : สบ.ทร.)