วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

รับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ ทางอินเตอร์เน็ตช่องทางเดียว

ฐานทัพเรือกรุงเทพ เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ โดยรับสมัครผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๓) มีพื้นความรู้ทางดนตรีด้านทฤษฎีมาแล้ว มีความสามารถปฏิบัติเครื่องดนตรีสากลไม่ต่ำกว่าระดับเกรด ๔ มาตรฐานสากล และได้ผลคะแนน O-Net ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ จากคะแนนรวม, เป็นหญิง - ชาย โสด อายุระหว่าง ๑๕ - ๑๘ ปี (เกิดระหว่าง ๑ มกราคม ๒๕๓๙ - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๒), มีสัญชาติไทย บิดา - มารดา ผู้ให้กำเนิด ต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้ และมีร่างกายแข็งแรง
        หลักฐานการสมัครพร้อมต้นฉบับและสำเนา ประกอบด้วย สูติบัตรของผู้สมัคร, บัตรประจำตัวประชาชน, ใบประกาศนียบัตรหรือใบสุทธิ หรือใบรับรองคุณวุฒิ แสดงว่าสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ, รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด ๓ x ๔ เซนติเมตร จำนวน ๕ รูป, สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครและบิดา - มารดาผู้ให้กำเนิด, ใบทะเบียนสมรสหรือใบหย่าของบิดา-มารดา, หนังสือ จดทะเบียนรับรองบุตร กรณีบิดา มารดา มิได้จดทะเบียนสมรส และเอกสารขอรับสิทธิ์คะแนนเพิ่มพิเศษ ตามระเบียบของกองทัพเรือ
        ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้าศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการดุริยางค์ ประเภทวิชาศิลปกรรม ระยะเวลา ๓ ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในกองดุริยางค์ทหาร เรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ แต่งตั้งยศเป็นจ่าตรี ได้รับเงินเดือน ในระดับ ป.๑ ชั้น ๑๑.๕ (๗,๙๖๐ บาท) พร้อมรับค่าครองชีพเพิ่มอีก ๑,๕๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๙,๔๖๐ บาท
         ผู้ที่สนใจสมัครเพื่อสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ สามารถสมัครได้ทางอินเตอร์เน็ตช่องทางเดียว ที่เว็บไซต์ www.rtnsm.com หรือ www.royalthainavyschoolofmusic.com ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือสมัครที่ โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ (ที่มา : ดย.ทร.ฐท.กท.)

ที่ปรึกษากองทัพเรือ เยี่ยมทหารป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า

วันนี้ (๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท บงสุช สิงห์ณรงค์ ที่ปรึกษากองทัพเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ เดินทางไปเยี่ยมทหารที่เจ็บป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่ที่พักรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบเงินบำรุงขวัญในโอกาสนี้ด้วย (ที่มา : กพ.ทร.)

ขอเชิญรับฟังการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายเรื่อง "โครงการจำนำข้าวกับเกษตรกร : กรณีศึกษา นโยบาย ปัญหาอุปสรรค์ และแนวทางแก้ไข"

 สำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้ารับฟังการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย เรื่อง "โครงการจำนำข้าวกับเกษตรกร : กรณีศึกษา นโยบาย ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข" ณ โรงแรม เอส.ดี. อเวนิว ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพมหานคร ใน วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์และโทรสารหมายเลข ๐ ๒๘๘๗ ๖๘๑๑ หรือที่อีเมล์ suwannabut_bow@hotmail.com ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๗ (ที่มา : เนติบัณฑิตยสภา)

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "ศีลแปดสำหรับทหาร"


กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "ศีลแปดสำหรับทหาร"
         พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ทรงนิพนธ์บทเพลง เพลงหนึ่งที่ไม่ค่อยจะได้ยินกันบ่อยนัก บทเพลงนั้น คือ ศีลแปดสำหรับทหาร ซึ่งมีเนื้อหาสาระแฝงไว้ด้วยหลักคำสอนทางศาสนาที่ทหารเรือควรจะได้ประพฤติ ปฏิบัติที่สำคัญ ๘ ประการ ได้แก่
        ๑. มีความกล้าหาญ คือ กล้าหาญในทางที่ชอบ ในทางที่ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ไม่ก่อให้เกิดความความเดือดร้อนแก่ใคร ๆ
        ๒. มีความรับผิดชอบ คือ รับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำ แม้จะเป็นสิ่งผิดก็ไม่พยายามปัดหรือโยนความผิดนั้นให้ผู้อื่น
        ๓. ไม่ละโมบ คือ ไม่โลภจนต้องทำผิดกฎหมายหรือทำการทุจริตคอร์รัปชัน
        ๔. มีความกตัญญู คือ รู้คุณของผู้ที่มีคุณต่อตนและหาทางตอบแทนเมื่อมีโอกาส
        ๕. มีความอดทน คือ อดทนอดกลั้นต่อความลำบากตรากตรำ อดทนต่อความเจ็บป่วย อดทนต่อความเจ็บใจ และอดทนต่ออำนาจกิเลสของตนเอง
        ๖. มีความสุภาพอ่อนโยน คือ อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่แข็งกระด้างอวดดี
        ๗. ไม่ละเมิดในทรัพย์สินและลูกเมียของคนอื่น ได้แก่ ไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้และไม่ประพฤติผิดลูกเมียของใคร ๆ
        ๘. มีเมตตา คือ จิตใจรักใคร่ปรารถนาดีต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่คิดริษยาอาฆาตมุ่งร้ายใคร
        บทเพลง "ศีลแปดสำหรับทหาร" ดังกล่าว หากใครสามารถน้อมนำเนื้อหาสาระในเนื้อเพลงที่ทรงนิพนธ์ไว้ไปประพฤติปฏิบัติได้ ก็เชื่อว่าจะมิใช่เป็นเพียงแค่เพลงที่ขับกล่อมเพื่อความเพลิดเพลินใจเท่านั้น แต่จะเป็นหลักปฏิบัติที่ทำให้ทหารทุกคนเป็นทหารที่มีทั้งคุณภาพและจริยธรรม ซึ่งถือเป็นหัวใจของ "ขีดสมรรถนะหลักของข้าราชการกองทัพเรือ" และ "ค่านิยมของกองทัพเรือ" อย่างแท้จริง (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)

กรมการขนส่งทหารเรือ เชิญชวนตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๓๑ มีนาคม - ๔ เมษายน ๒๕๕๗

 กรมการขนส่งทหารเรือ จัดทำโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม - ๔ เมษายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. ณ บริเวณลานจอดรถ นันทอุทยานสโมสร ฐานทัพเรือกรุงเทพ ทั้งนี้ เพื่อบริการให้แก่กำลังพลในกองทัพเรือและประชาชนทั่วไป จำนวน ๒๔ รายการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลวัน สงกรานต์
         ขอเชิญข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลวันสงกรานต์ และรับบริการตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ขส.ทร.)

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  "ความเจริญนั้นจะเกิดขึ้นได้ ย่อมต้องอาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันหลายอย่าง นอกจากวิทยาการที่ดีแล้ว อย่างหนึ่ง จะต้องอาศัยความยุติธรรม เที่ยงตรง และความสะอาดสุจริต ซึ่งต้องเป็นไปด้วยความพร้อมทั้งในความคิดและการกระทำ อย่างหนึ่ง จะต้องอาศัยความมีปัญญาคือ มีความขยันหมั่นปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่และความเพ่งพินิจ ไม่ประกอบกิจการงานด้วยความประมาทหละหลวม มีทิฎฐิ และอคติ และอีกประการสำคัญจะต้องอาศัยความเสร็จสมบูรณ์พอเหมาะพอดีในการปฏิบัติงาน ทั้งปวง"
         พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๘ กรกฎาคม ๒๕๑๙