วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

จีนและอินเดียจะรื้อฟื้นการฝึกทางทหารระหว่างกัน

 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลาโหมจีนแถลงว่า จีนและอินเดียมีแผนจะรื้อฟื้นการฝึกต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกัน ระหว่างวันที่ ๔ - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่เขตภาคทหารเฉิงตู ซึ่งจะมีทหารเข้าร่วมการฝึกประมาณ ๑๐๐ - ๑๕๐ คน รวมทั้งเห็นพ้องที่จะริเริ่มการฝึกทางอากาศและทางทะเลร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกองทัพจีนและอินเดียหลังจากที่มีการฝึกร่วมกัน ครั้งล่าสุดเมื่อปี ๒๕๕๑ และยังมีปัญหาความขัดแย้งบริเวณพรมแดนอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง (ที่มา : ขว.ทร.)

กองการฝึก กองเรือยุทธการ จัดชุดฝึกทบทวน หมู่เรือลาดตระเวนชายแดน ฯ

กองการฝึก กองเรือยุทธการ จัดชุดฝึกทบทวน หมู่เรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.)/หมู่เรือรักษาฝั่งภาคใต้ (มรต.)/ทัพเรือภาคที่ ๒ (ทรภ.๒) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ โดยมีเรือเข้ารับการฝึกทบทวนฯ จำนวน ๗ ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงหัวหิน เรือหลวงสัตหีบ เรือ ต.๙๙๒ เรือ ต.๙๔ เรือ ต.๙๗ เรือ ต.๒๒๘ และ เรือ ต.๒๒๙ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๖ กันยายน ๒๕๕๖ ณ อ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ถึง จังหวัดระยอง และอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยมี นาวาเอก พูนศักดิ์ บัวแก้ว หัวหน้ากองพัฒนาและประเมินผลการฝึก กองการฝึก กองเรือยุทธการ เป็นผู้บังคับหมู่เรือฝึกฯ
         การฝึกทบทวนในครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อให้กำลังพลของเรือที่จะเดินทางไปผลัดเปลี่ยนการปฏิบัติราชการ ฯ ได้มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานเพียงพอที่จะปฏิบัติราชการและปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการฝึกเน้นหนักในหัวข้อการเดินเรือ - การเรือ การศูนย์ยุทธการและการสื่อสาร การทัศนสัญญาณและพลศึกษา การอาวุธ การช่างกล การป้องกันความเสียหาย กฎหมายทะเล การตรวจค้น/การตรวยเยี่ยมเรือ การยิงอาวุธประจำกาย และการฝึกยิงอาวุธประจำเรือในทะเล (ที่มา : กฝร.)

ประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ ฯ


วันนี้ (๔ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือเอก อภิชาย ฟุ้งลัดดา คณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ และคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกอบรมอาชีพทหารกองประจำการ รุ่นที่ ๓ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ณ กองการฝึก กองเรือยุทธการ และ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         การเยี่ยมชมการฝึกอบรมอาชีพทหารกองประจำการในสาขาต่าง ๆ ในครั้งนี้ มีการเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรกำลังพลประจำเรือพาณิชย์ฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกลเรือ และ เยี่ยมชมการฝึกป้องกันความเสียหายของผู้ฝึกอบรมหลักสูตรกำลังพลประจำเรือพาณิชย์ ที่ กองการฝึก กองเรือยุทธการ และ เยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรอาชีพช่างทั่วไป สาขาซ่อมรถจักรยานยนต์ สาขาเดินสายไฟฟ้าภายในอาคารที่ กรมโรงงานฐานทัพเรือสัตหีบ และเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรสาขาช่างก่ออิฐ - ฉาบปูน ที่ กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (ที่มา : คพท.)

รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในงานวันเรือดำน้ำ ที่ ห้องประชุมอาคารราชนาวิกสภา


วันนี้ (๔ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนักดำเรือดำน้ำไทยในอดีตที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องในวันเรือดำน้ำ ณ ห้องประชุมอาคารราชนาวิกสภา กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
        วันที่ ๔ กันยายน ของทุกปี บรรดาทหารเรือที่เคยประจำการในเรือดำน้ำ ได้ถือเอาวันนี้เป็นวันที่ระลึกเรือดำน้ำ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๔๘๐ เรือดำน้ำ จำนวน ๒ ลำ จากจำนวน ๔ ลำ ซึ่งสั่งต่อจากบริษัทมิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น คือ เรือหลวงมัจฉานุ และ เรือหลวงวิรุณ ได้สร้างแล้วเสร็จ ทางบริษัทพร้อมที่จะส่งมอบให้แก่ราชนาวีไทย ดังนั้น ทหารที่ถูกจัดให้อยู่ประจำเรือทั้งสองลำนี้ได้กระทำพิธีรับมอบและลงประจำเรือ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานับว่าเป็นครั้งแรกที่ราชนาวีไทยได้มีเรือดำน้ำ
         ส่วนเรือหลวงสินสมุทรและเรือหลวงพลายชุมพล ได้วางกระดูกงูเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๗๙ และทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๘๐ และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๘๑
         ถึงแม้กองทัพเรือจะปลดระวางประจำการเรือดำน้ำชุดนี้ไปแล้วก็ตาม แต่ในอดีตนั้น เรือดำน้ำทั้ง ๔ ลำนี้ ได้รับใช้กองทัพเรือมากกว่า ๑๒ ปี ได้แสดงแสนยานุภาพในการป้องปรามให้ประจักษ์โดยเฉพาะช่วงยุทธนาวีที่เกาะช้าง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ระหว่างการรับเรือชุด "แมนฮัตตัน" ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางภายในกองทัพเรือ ส่วนกำลังพลนักดำเรือดำน้ำนั้นเป็นกำลังที่มีความรักความสามัคคีกันเป็นอัน มาก แม้ว่าจะต้องแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่อื่น แต่ทุกวันที่ ๔ กันยายน จะมารวมตัวกัน จนเป็นที่มาของการจัดงานวันเรือดำน้ำในวันนี้ ซึ่งกองทัพเรือได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อให้สมาชิก อดีตทหารเรือที่เคยเป็นนักดำเรือดำน้ำ กลุ่มชมรมเรือดำน้ำ และนายทหารประจำการที่เคยศึกษาวิชาเรือดำน้ำยุคใหม่ได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งได้ร่วมทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนักดำเรือดำน้ำไทยในอดีตที่ ล่วงลับไปแล้ว
(ที่มา : กดน.กร.)