วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดพิมพ์คู่มือกำจัดเชื้อในบ้านหลังน้ำท่วม

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดพิมพ์คู่มือกำจัดเชื้อในบ้านหลังน้ำท่วม แนะ ๔ ขั้นตอนทำความสะอาดบ้าน พร้อมเตือน ๓ สิ่งที่ไม่ควรทำ
         กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดพิมพ์คู่มือกำจัดเชื้อในบ้านหลังน้ำท่วม แนะวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด มี ๔ ขั้นตอน ในการทำความสะอาดบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายจากเชื้อโรค เชื้อราและอุบัติเหตุ ดังนี้
- เตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันตนเองด้วยการแต่งตัวมิดชิด อย่าสวมเครื่องประดับ จัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆได้แก่ ผ้าหรือกระดาษทิชชูหนา แปรงขัดพื้นทั้งด้ามสั้นและยาว ไม้ถูพื้น แปรงสีฟันเก่า ถุงขยะสีดำ ที่รัดปากถุงขยะ ถังน้ำ แผ่นพลาสติกใสขนาด 1 เมตร X 1 เมตร หนังสือพิมพ์เก่า แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค ๗๐% น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกผ้าขาว หรือไฮเปอร์คลอไรท์ ผงฟู หรือเบกกิ้งโซดา
- ก่อนลงมือทำความสะอาด ให้แน่ใจว่าไม่มีไฟฟ้ารั่ว เปิดหน้าต่าง ประตู บานเกร็ด ให้อากาศและลมถ่ายเทพัดพาเอาความชื้นออกไป สำรวจสภาพภายนอกบ้าน ระวังเศษกระจก เศษเหล็ก เก็บขยะรวมใส่ถุงดำ มัดปากถุง นำรวบรวมไว้ ในจุดเดียวกัน สำรวจสภาพในบ้านหากพบเชื้อราให้สำรวจอย่างระมัดระวัง อย่าสูดดม อย่าให้เข้าตา และปาก สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าเป็นส่วนประกอบ พรม ผ้าม่าน เสื้อผ้า หากพบเชื้อราให้ตัดใจทิ้ง
- ลงมือทำความสะอาดภายนอกบ้าน ใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ หรือน้ำยาล้างจานฉีดน้ำล้าง ขัดตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก แล้วทิ้งให้แห้ง สำหรับภายในบ้านใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดทำความสะอาด ขัดตะไคร่ หรือสิ่งสกปรกออก แล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาด ทำซ้ำจนสะอาด แล้วทิ้งให้แห้ง หากพบเชื้อราภายในบ้านให้ใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฟอกผ้าขาวผสมน้ำ (อัตราส่วน ๑ ถ้วย หรือ ๒๔๐ มิลลิลิตร ในน้ำประมาณ ๔ ลิตร) เช็ดคราบเชื้อราทิ้งไว้ ๑๕ นาที แล้วใช้น้ำล้างออก ส่วนที่เป็น พื้นพรม ให้รื้อพรมออก ส่งไปซักกับบริษัทที่รับซักพรม
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าเป็นส่วนประกอบ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ และเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดน้ำได้ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้ พลาสติก หรือหนัง ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ หรือน้ำยาล้างจาน ฉีดน้ำล้างออก เช็ดให้แห้ง นำไปผึ่งให้แห้ง ห้ามตากแดด เพราะอาจทำให้ไม้หรือพลาสติก เปลี่ยนรูปร่างได้ หากพบเชื้อราให้ใช้ผงฟูละลายน้ำเช็ดหรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดคราบเชื้อรา
ส่วนเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้นให้ซักล้างแล้วลวกด้วยน้ำร้อน เครื่องครัวต่าง ๆ ที่แช่น้ำ ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน และล้างในน้ำยาฟอกผ้าขาวที่ผสมน้ำในอัตราส่วน ๑ ต่อ ๔ ในน้ำ ๑๐ ลิตร และล้างด้วยน้ำร้อนอีกครั้ง ส่วนเครื่องปรับอากาศให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด ทำให้แห้ง หากพบเชื้อราให้เช็ดภายนอกด้วยแอลกอฮอล์ เมื่อแห้งแล้ว ถอดแผ่นกรองออก แล้วนำไปแยกเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แล้วให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด ทำให้แห้ง ยังไม่ควรเปิดใช้งาน โดยตรวจสอบและสังเกตว่ามีเชื้อรา หรือมีกลิ่นหรือไม่
- ปล่อยให้แห้ง พยายามระบายอากาศออกให้มากที่สุด วิธีทดสอบว่าภายในบ้านแห้งแล้ว ให้ใช้พลาสติกขนาด ๑ เมตร X ๑ เมตร ปิดทับบนพื้น ใช้เทปปิดโดยรอบ ทิ้งไว้ ๒๔ ชั่วโมง หากยังมีละอองน้ำเกาะที่พลาสติกด้านใน ให้ทำการทดสอบซ้ำจนกระทั่งไม่มีละอองน้ำ
นอกจากนี้ ยังมี ๓ สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ การใช้น้ำยาซักผ้าขาวผสมกับน้ำยาทำความสะอาด ชนิดที่เป็นกรดหรือด่าง เพราะทำให้เกิดไอที่เป็นอันตราย การนำทรายที่ใช้แล้วในการกั้นน้ำท่วมมาใช้ในสนามเด็กเล่น และการทำความสะอาดโดยไม่สวมถุงมือ รองเท้าบู๊ทยางและหน้ากาก
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับคู่มือกำจัดเชื้อในบ้านหลังน้ำท่วมได้ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๙๕๑ ๐๐๐๐ ต่อ ๙๙๐๑๗ (ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข)

ขอเชิญชมการสัมภาษณ์ผู้บัญชาการทหารเรือในรายการพิเศษ

ขอเชิญชมการสัมภาษณ์ผู้บัญชาการทหารเรือในรายการพิเศษ "หนึ่งในธุลี" ใน ๕ และ ๑๒ ธันวาคม ทางช่อง ๙
       กองทัพเรือ ขอเชิญชมรายการพิเศษ "หนึ่งในธุลี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดย พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ ในรายการ "สุริวิภาฮอลิเดย์" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (ช่อง ๙) จำนวน ๒ ตอน คือ ตอน "พระคือที่สุดแล้ว" ออกอากาศในวันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. และ ตอน "ร.เรือรวมใจ" ออกอากาศในวันจันทร์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. (ที่มา : สลก.ทร.)

เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนทดสอบในทะเล ครั้งที่ ๒

         เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลาโหมจีนแถลงว่า เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนออกจากท่าเรือต้าเหลี่ยน เพื่อทดสอบในทะเลครั้งที่ ๒ หลังจากนำออกทดสอบในทะเลครั้งแรกเป็นเวลา ๕ วัน เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ โดยจีนพยายามปกปิดการทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบิน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านวิตกว่าจีนเสริมสร้างความเข้มแข็งทางทหารและเพิ่มการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนที่เป็นข้อพิพาท แม้จีนยืนยันว่าการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินมีจุดประสงค์เพื่อการวิจัยและการฝึก แต่ก็คาดว่าจีนมีแผนสร้างเรือประเภทนี้ในอนาคต อนึ่ง รัฐบาลจีนประกาศเพิ่มงบประมาณทางทหารในปี ๒๕๕๔ อีกร้อยละ ๑๒.๗ เป็น ๖๐๑,๑๐๐ ล้านหยวน (ที่มา : ขว.ทร.)

การแข่งขันเรือใบ "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า"

การแข่งขันเรือใบ "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า" จัดยิ่งใหญ่ฉลองครบรอบ ๒๕ ปี ณ หาดกะตะ
         สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ จังหวัดภูเก็ต จัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า" ครั้งที่ ๒๕ ประจำปี ๒๕๕๔ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา จัดขึ้นบริเวณ หาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ ๓ ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๓๐ น.
การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน "ภูเก็ตคิงส์รีกัตต้า" ในปีนี้เป็นครั้งที่ ๒๕ และจากการจัดการแข่งขันที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับของนักแล่นเรือใบนานาประเทศ โดยมีผู้ที่สนใจจากชาติต่าง ๆ เข้าร่วมแข่งขันมากขึ้นทุกปี เช่น ฮ่องกง รัสเซีย ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ส่วนประเทศที่มีความนิยมในการแข่งขันเรือใบฯ รีกัตต้ามากที่สุดคือ ประเทศออสเตรเลีย สำหรับประเทศไทยมีทีมราชนาวีเข้าร่วมการแข่งขัน ในปีนี้คาดว่าจะมีเรือเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า ๓๐ ประเทศทั่วโลก นับเป็นประวัติการณ์ที่มีจำนวนเรือหลากหลายประเภทมาร่วมการแข่งขันมากกว่า ๑๗๐ ลำ มีทั้งเรือใบประเภท Catamaran, Keelboat, Kiteboard และ Dinghy ตลอดจนเรือแข่งระดับนานาชาติอีกมากมายทั้งในรุ่น Racing และ Cruising
ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าในปีนี้ นอกจากจะเป็นมหกรรมกีฬาที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจแล้ว ยังมีตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมงาน โดยสองวันแรกจะเป็นการลงทะเบียนสมัครเข้าแข่งขัน การบรรยายสรุปกฎกติกา และการฝึกซ้อม หลังจากนั้นจะเป็นการแข่งขัน และปิดฉากวันสุดท้ายในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๐๐ น. มีพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานแก่ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันแต่ละประเภท (ที่มา : สมาคมแข่งเรือใบฯ)

กองเรือทุ่นระเบิด บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

กองเรือทุ่นระเบิด บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวามหาราช
          วันนี้ (๒ ธันวาคม ๒๕๕๔) กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ นำกำลังพลไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ วัดใหม่สมุทรกิจ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีกำลังพล จำนวน ๕๒ นาย ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบพระอุโบสถ ศาลาปฏิบัติธรรม ตัดหญ้า และจัดเก็บขยะมูลฝอยบริเวณพื้นที่ภายในวัด
(ที่มา : กทบ.กร.)

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
         วันนี้ (๒ ธันวาคม ๒๕๕๔) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือโท ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕ ธันวามหาราช ณ หนองน้ำในหาน หมู่ ๑ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีข้าราชการทัพเรือภาคที่ ๓ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมพิธี ฯ
และในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓จะเป็นประธานในพิธีงานเฉลิมพระเกียรติ ฯ โดยในช่วงเช้า ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน ๘๔ รูป ณ สวนสาธารณะ เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา จังหวัดภูเก็ต พิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และในช่วงเย็นประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีข้าราชการจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมพิธี ฯ
ทัพเรือภาคที่ ๓ ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จัดงานเฉลิมพระเกียรติ ฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวามหาราช เป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย (ที่มา : ทรภ.๓)

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ลงน้ำ
         วันนี้ (๒ ธันวาคม ๒๕๕๔) เวลา ๑๔.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงประกอบพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ลงน้ำ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการกองทัพเรือ ร่วมพิธี ฯ
โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ได้รับพระราชทานชื่อว่า "เรือหลวงกระบี่" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนากำลังรบตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เพื่อรองรับกับบทบาทหน้าที่ของกองทัพเรือในด้านการปฏิบัติการทางทหาร ในการป้องกันประเทศ การรักษากฎหมาย และการช่วยเหลือประชาชน โดยมีขีดความสามารถในการลาดตระเวนตรวจการณ์รักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึมทางทะเล คุ้มครองเรือประมง ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ตลอดจนการรักษากฎหมายในทะเล ตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย โดยใช้งบประมาณผูกพันปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๕
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ และใช้พื้นที่ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช เป็นสถานที่ต่อเรือ ซึ่งการดำเนินการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งนี้เป็นการดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการพึ่งพาตนเอง กับเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกรมอู่ทหารเรือในการต่อเรือตรวจการณ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด เรือ ต.๙๙๑ และนำไปสู่การปรับปรุงเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด เรือ ต.๙๙๔ ที่ได้มีการขยายแบบเรือและรูปทรงตามพระบรมราชวินิจฉัย
สำหรับแบบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา เป็นแบบเรือของบริษัท BVT Surface Fleet จำกัด จาก ประเทศอังกฤษ ส่วนการบริการทางเทคนิคในการติดตั้ง การเชื่อมต่อการทดสอบ ทดลองอุปกรณ์ ตลอดจนการสร้างเรือในสาขาต่าง ๆ จากบริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด
คุณลักษณะเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ฯ มีความยาวตลอดลำ ๙๐.๕๐ เมตร กว้าง ๑๓.๕๐ เมตร ความสูงที่กราบเรือ ๗.๗๐ เมตร กินน้ำลึก ๓.๘๐ เมตร ระวางขับน้ำเต็มที่ ๑,๙๖๙ ตัน ความเร็วสูงสุด ๒๓ นอต รัศมีทำการที่ความเร็ว ๑๕ นอต ได้ถึงระยะ ๓,๕๐๐ ไมล์ทะเล ส่วนอาวุธประจำเรือ ที่สำคัญ คือ ปืนขนาด ๗๖ มิลลิเมตร แบบอัตโนมัติ จำนวน ๑ กระบอก และปืนขนาด ๓๐ มิลลิเมตร แท่นเดี่ยว จำนวน ๒ กระบอก ระบบควบคุมบังคับบัญชาและตรวจการณ์ จำนวน ๑ ระบบ มีกำลังพลประจำเรือ ๘๙ นาย ส่วนบริเวณดาดฟ้าเรือสามารถจอดเฮลิคอปเตอร์ แบบซูเปอร์ลิงค์ ซึ่งมีประจำการในกองการบินทหารเรือ ได้อีก ๑ ลำ ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะการตรวจการณ์ในทะเลให้ไกลขึ้นอีกระดับหนึ่ง (ที่มา : สลก.ทร.)