"การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น
จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า
การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น
ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย"
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒
วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558
พิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนจ่าและนักเรียนดุริยางค์ ที่สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗
วันนี้ (๒๗ เมษายน
๒๕๕๘) เวลา ๑๕.๐๐ น. พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ
เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรนักเรียนจ่าทหารเรือ
และนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ ณ หอประชุมกองทัพเรือ
เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมประดับเครื่องหมายยศ
ฯ
การประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นจ่าใหม่ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ มีผู้สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ, โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน, โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์, โรงเรียนพลาธิการ, โรงเรียนนาวิกเวชกิจ, โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ และโรงเรียนดุริยางค์ จำนวน ๗๙๓ นาย ซึ่งจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ จำนวน ๗๖๐ นาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๓๐ นาย และกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน ๓ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับประกาศนียบัตรคะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม จำนวน ๑๖ นาย ได้แก่
- โรงเรียนชุมพลทหารเรือ
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วิทยา ศรีหล้า
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนจ่า นุติ คำอดุลย์
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า เศวต อยู่ในวงศ์
- โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ศิวกร เคียมเส็ง
- โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ภูมิพัฒน์ เขตอนันท์
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า กนกพล ชะเอมเทศ
- โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สันติชัย มาสีปา
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า วรัญชิต บุญเอียด
- โรงเรียนพลาธิการ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สุทธิพงษ์ โวหาร
- โรงเรียนนาวิกเวชกิจ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วรพรต อภิลักขิตการ
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า จักรพันธ์ โมรา
- โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า อนุรักษ์ หงษ์สำโรง
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า ธัชชพงษ์ รุ่งสว่าง
- โรงเรียนดุริยางค์
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนดุริยางค์ ไพสิฐ ภู่ประไพ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนดุริยางค์ นิธิพงษ์ สิรสุนทร
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนดุริยางค์ หิรัณย์ บงกชมาศ (ที่มา : ยศ.ทร.)
การประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นจ่าใหม่ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ มีผู้สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ, โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน, โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์, โรงเรียนพลาธิการ, โรงเรียนนาวิกเวชกิจ, โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ และโรงเรียนดุริยางค์ จำนวน ๗๙๓ นาย ซึ่งจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ จำนวน ๗๖๐ นาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๓๐ นาย และกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน ๓ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับประกาศนียบัตรคะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม จำนวน ๑๖ นาย ได้แก่
- โรงเรียนชุมพลทหารเรือ
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วิทยา ศรีหล้า
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนจ่า นุติ คำอดุลย์
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า เศวต อยู่ในวงศ์
- โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ศิวกร เคียมเส็ง
- โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ภูมิพัฒน์ เขตอนันท์
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า กนกพล ชะเอมเทศ
- โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สันติชัย มาสีปา
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า วรัญชิต บุญเอียด
- โรงเรียนพลาธิการ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สุทธิพงษ์ โวหาร
- โรงเรียนนาวิกเวชกิจ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วรพรต อภิลักขิตการ
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า จักรพันธ์ โมรา
- โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า อนุรักษ์ หงษ์สำโรง
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า ธัชชพงษ์ รุ่งสว่าง
- โรงเรียนดุริยางค์
- คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนดุริยางค์ ไพสิฐ ภู่ประไพ
- คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนดุริยางค์ นิธิพงษ์ สิรสุนทร
- คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนดุริยางค์ หิรัณย์ บงกชมาศ (ที่มา : ยศ.ทร.)
พิธีเปิดการสัมมนาระดับภูมิภาค หัวข้อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล ณ โรงแรม Swiss Hotel Nai Lert Park
วันนี้
(๒๗ เมษายน ๒๕๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ
เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาระดับภูมิภาคเรื่องกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล
(Law of Armed Conflict at Sea) ณ โรงแรม Swiss Hotel Nai Lert
Park กรุงเทพ ฯ โดยมี ข้าราชการกองทัพเรือเข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย
กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (The International Committee of the Red Cross : ICRC) จัดการสัมมนาระดับภูมิภาค หัวข้อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล (Law of Armed Conflict at Sea) เป็นการดำเนินการพันธกรณีอนุสัญญาเจนีวา คริสตศักราช ๑๙๔๙ ที่ประเทศร่วมลงนามต้องเผยแพร่หลักเกณฑ์และความรู้ให้หน่วยทหารของตนได้รับ ทราบ เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม และการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ นับเป็นโอกาสที่กองทัพเรือจะได้แสดงบทบาทนำในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์กองทัพเรือ "เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการ บริหารจัดการ" รวมทั้งจะทำให้กำลังพลกองทัพเรือได้เพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยตรงกับการใช้กำลังทางเรือของกองทัพเรือ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในอนาคต
การสัมมนาในหัวข้อดังกล่าวในส่วนของกองทัพเรือ จัดบรรยายพิเศษ จำนวน ๒ หัวข้อ ได้แก่ ประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่กองกำลังเฉพาะกิจผสม ๑๕๑" และ "ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" ซึ่งเป็นเรื่องที่กองทัพเรือมีบทบาทเกี่ยวข้องโดยตรง และเพื่อประชาสัมพันธ์ประสบการณ์และผลการปฏิบัติงานระดับนานาชาติของกองทัพ เรือให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบ รวมทั้งเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์บทบาทของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ได้ทราบถึงกลไกการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพเรือโดยรวม
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย ประเทศบรูไนดารุสซาลาม, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน, เครือรัฐออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์,ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ, สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, สาธารณรัฐเกาหลี, มาเลเซีย, สาธารณรัฐสิงคโปร์, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, ปาปัวนิวกินี, ผู้แทนจากกองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) และผู้แทนกองทัพเรือ เข้าร่วมสัมมนา ฯ (ที่มา : ยก.ทร.)
กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (The International Committee of the Red Cross : ICRC) จัดการสัมมนาระดับภูมิภาค หัวข้อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล (Law of Armed Conflict at Sea) เป็นการดำเนินการพันธกรณีอนุสัญญาเจนีวา คริสตศักราช ๑๙๔๙ ที่ประเทศร่วมลงนามต้องเผยแพร่หลักเกณฑ์และความรู้ให้หน่วยทหารของตนได้รับ ทราบ เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม และการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ นับเป็นโอกาสที่กองทัพเรือจะได้แสดงบทบาทนำในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์กองทัพเรือ "เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการ บริหารจัดการ" รวมทั้งจะทำให้กำลังพลกองทัพเรือได้เพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยตรงกับการใช้กำลังทางเรือของกองทัพเรือ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในอนาคต
การสัมมนาในหัวข้อดังกล่าวในส่วนของกองทัพเรือ จัดบรรยายพิเศษ จำนวน ๒ หัวข้อ ได้แก่ ประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่กองกำลังเฉพาะกิจผสม ๑๕๑" และ "ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" ซึ่งเป็นเรื่องที่กองทัพเรือมีบทบาทเกี่ยวข้องโดยตรง และเพื่อประชาสัมพันธ์ประสบการณ์และผลการปฏิบัติงานระดับนานาชาติของกองทัพ เรือให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบ รวมทั้งเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์บทบาทของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ได้ทราบถึงกลไกการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพเรือโดยรวม
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย ประเทศบรูไนดารุสซาลาม, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน, เครือรัฐออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์,ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ, สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, สาธารณรัฐเกาหลี, มาเลเซีย, สาธารณรัฐสิงคโปร์, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, ปาปัวนิวกินี, ผู้แทนจากกองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) และผู้แทนกองทัพเรือ เข้าร่วมสัมมนา ฯ (ที่มา : ยก.ทร.)
ขอเชิญฟังการอภิปราย เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ"
ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กำหนดจัดการสัมมนาในลักษณะการอภิปรายเป็นคณะ
เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ"
ณ ห้องประชุม ๕๐๔ อาคารสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น.
การอภิปรายเป็นคณะ เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของภัยคุกคามของไซ เบอร์ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ รวมไปถึงเพื่อเป็นการเตรียมการรับมือกับภัยของไซเบอร์ในทุกรูปแบบ ทั้งปฏิบัติการเชิงรุกและเชิงรับอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้แทนหน่วยต่าง ๆ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับกำลังพลในหน่วยให้สามารถปฏิบัติการร่วมด้านไซเบอร์ใน อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิทยากรจากผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายนรินทร์ฤทธิ์ เปรมอภิวัฒโนกุล กรรมการสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ, พันเอก ชาติชาย ชัยเกษม ผู้อำนวยการกองสงครามเครือข่าย กรมยุทธการทหาร, นาวาเอก นิรินธน์ ธานีรัตน์ รองผู้อำนวยการกองระบบควบคุมและบังคับบัญชา สำนักปฏิบัติการกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ และ นาวาเอก ยศภาค โชติกพงศ์ อาจารย์ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ ขอเชิญข้าราชการที่สนใจเข้าฟังการอภิปรายเป็นคณะในหัวข้อเรื่อง "สงครามไซเบอร์
ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ศยร.ยศ.ทร.)
การอภิปรายเป็นคณะ เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของภัยคุกคามของไซ เบอร์ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ รวมไปถึงเพื่อเป็นการเตรียมการรับมือกับภัยของไซเบอร์ในทุกรูปแบบ ทั้งปฏิบัติการเชิงรุกและเชิงรับอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้แทนหน่วยต่าง ๆ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับกำลังพลในหน่วยให้สามารถปฏิบัติการร่วมด้านไซเบอร์ใน อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิทยากรจากผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายนรินทร์ฤทธิ์ เปรมอภิวัฒโนกุล กรรมการสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ, พันเอก ชาติชาย ชัยเกษม ผู้อำนวยการกองสงครามเครือข่าย กรมยุทธการทหาร, นาวาเอก นิรินธน์ ธานีรัตน์ รองผู้อำนวยการกองระบบควบคุมและบังคับบัญชา สำนักปฏิบัติการกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ และ นาวาเอก ยศภาค โชติกพงศ์ อาจารย์ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ ขอเชิญข้าราชการที่สนใจเข้าฟังการอภิปรายเป็นคณะในหัวข้อเรื่อง "สงครามไซเบอร์
ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ศยร.ยศ.ทร.)
ขอเชิญสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำนาลันทา สวดมนต์ ฝึกสมาธิ ๒๙ - ๓๐ เมษายน นี้ ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
กรมแพทย์ทหารเรือ จัดโครงการ "PINKLAO เสริมพลัง สร้างสุข
ปลุกหัวใจ" ร่วมกับเสถียรธรรมสถาน เคลื่อนขบวนธรรมยาตรามีพระพุทธชยันตีองค์ดำนาลันทา
พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยาและปัญญาไปสู่ทุกชุมชน ณ ลานหน้าตึกอุบัติเหตุเก่า
(ลานหน้าศูนย์กู้ชีพ) โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ
เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยในวันที่ ๒๙ เมษายน ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น.
- ๒๐.๐๐ น. มีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย พิธีกราบสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำ
นาลันทา, การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมพลังสร้างใจด้วยธรรมะ โดยทีมแม่ชี
จากเสถียรธรรมสถาน, เยี่ยมผู้ป่วยในห้อง ICU การเสริมพลัง สร้างสุข
ด้วยการปลุกหัวใจในการทำงาน และการเยียวยา การแก้ปัญหาการเจ็บป่วย
ช่วยได้ ด้วยธรรมะ, ฟังการบรรยายธรรม โดยแม่ชีศันสนีย์ "ครอบครัวหัวใจของการเยียวยา"
และปิดท้ายด้วยการสวดมนต์ ฝึกสมาธิ
สำหรับกิจกรรมในวันที่ ๓๐ เมษายน ระหว่างเวลา ๐๖.๓๐ น. - ๒๐.๐๐ น. ร่วมตักบาตรบริเวณหน้าพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, กราบไหว้บูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, การนำนวัตกรรมทางจิตวิญญาณของเสถียรธรรมสถานสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้, การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ธรรมะกับชีวิต, กิจกรรมธรรมะปลุกหัวใจสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสวดมนต์ ฝึกสมาธ
โครงการ "PINKLAO เสริมพลังสร้างสุข ปลุกหัวใจ" เป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งความสุข บุคลากรในองค์กรหลักเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับองค์กร พร้อมที่จะผลักดันให้องค์กรก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อให้มีการสื่อสารแบบเอื้ออาทร มุ่งเน้นให้มีความเอื้อความสุขกับผู้ใช้บริการ และผู้ร่วมงานมีความผูกพัน เข้าใจกัน รู้จักให้อภัยกันได้ โดยมีแรงจูงใจในการทำงานมาจากความสุขที่อยู่ภายในของบุคคล รวมทั้งบุคลากรที่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีความสามารถในการปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง จะช่วยให้การทำงานมีความราบรื่น ลดความขัดแย้งภายในองค์กร และสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกระดับของโรงพยาบาล ผู้ที่สนใจทั่วไป ผู้ป่วยวิกฤติ เรื้อรัง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย และญาติ เข้าร่วมกิจกรรม
สนใจร่วมกิจกรรมในโครงการ "PINKLAO เสริมพลัง สร้างสุข ปลุกหัวใจ" ติดต่อสอบถามได้ที่ นาวาโทหญิง พรทิพย์ ไตรภัทร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๒๘๙๔ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๒๕๓๒ (ที่มา : พร.)
สำหรับกิจกรรมในวันที่ ๓๐ เมษายน ระหว่างเวลา ๐๖.๓๐ น. - ๒๐.๐๐ น. ร่วมตักบาตรบริเวณหน้าพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, กราบไหว้บูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, การนำนวัตกรรมทางจิตวิญญาณของเสถียรธรรมสถานสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้, การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ธรรมะกับชีวิต, กิจกรรมธรรมะปลุกหัวใจสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสวดมนต์ ฝึกสมาธ
โครงการ "PINKLAO เสริมพลังสร้างสุข ปลุกหัวใจ" เป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งความสุข บุคลากรในองค์กรหลักเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับองค์กร พร้อมที่จะผลักดันให้องค์กรก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อให้มีการสื่อสารแบบเอื้ออาทร มุ่งเน้นให้มีความเอื้อความสุขกับผู้ใช้บริการ และผู้ร่วมงานมีความผูกพัน เข้าใจกัน รู้จักให้อภัยกันได้ โดยมีแรงจูงใจในการทำงานมาจากความสุขที่อยู่ภายในของบุคคล รวมทั้งบุคลากรที่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีความสามารถในการปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง จะช่วยให้การทำงานมีความราบรื่น ลดความขัดแย้งภายในองค์กร และสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกระดับของโรงพยาบาล ผู้ที่สนใจทั่วไป ผู้ป่วยวิกฤติ เรื้อรัง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย และญาติ เข้าร่วมกิจกรรม
สนใจร่วมกิจกรรมในโครงการ "PINKLAO เสริมพลัง สร้างสุข ปลุกหัวใจ" ติดต่อสอบถามได้ที่ นาวาโทหญิง พรทิพย์ ไตรภัทร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๒๘๙๔ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๒๕๓๒ (ที่มา : พร.)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)