วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย"
          พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒

พิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนจ่าและนักเรียนดุริยางค์ ที่สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗

วันนี้ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๘) เวลา ๑๕.๐๐ น. พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรนักเรียนจ่าทหารเรือ และนักเรียนดุริยางค์ทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมประดับเครื่องหมายยศ ฯ
        การประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นจ่าใหม่ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ มีผู้สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ, โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน, โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์, โรงเรียนพลาธิการ, โรงเรียนนาวิกเวชกิจ, โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ และโรงเรียนดุริยางค์ จำนวน ๗๙๓ นาย ซึ่งจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ จำนวน ๗๖๐ นาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๓๐ นาย และกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน ๓ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับประกาศนียบัตรคะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม จำนวน ๑๖ นาย ได้แก่
       - โรงเรียนชุมพลทหารเรือ
       - คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วิทยา ศรีหล้า
       - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนจ่า นุติ คำอดุลย์
       - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า เศวต อยู่ในวงศ์
       - โรงเรียนสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
           - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ศิวกร เคียมเส็ง
       - โรงเรียนทหารนาวิกโยธิน
           - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า ภูมิพัฒน์ เขตอนันท์
           - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า กนกพล ชะเอมเทศ
        - โรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์
            - คะแนนรวมภาคทฤษฎีและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สันติชัย มาสีปา
            - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า วรัญชิต บุญเอียด
          - โรงเรียนพลาธิการ
             - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติและคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า สุทธิพงษ์ โวหาร
            - โรงเรียนนาวิกเวชกิจ
              - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า วรพรต อภิลักขิตการ
              - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า จักรพันธ์ โมรา
           - โรงเรียนการขนส่งทหารเรือ
              - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี และคะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนจ่า อนุรักษ์ หงษ์สำโรง
              - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนจ่า ธัชชพงษ์ รุ่งสว่าง
            - โรงเรียนดุริยางค์
              - คะแนนรวมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเป็นเยี่ยม นักเรียนดุริยางค์ ไพสิฐ ภู่ประไพ
              - คะแนนเยี่ยมภาคทฤษฎี นักเรียนดุริยางค์ นิธิพงษ์ สิรสุนทร
              - คะแนนเยี่ยมภาคปฏิบัติ นักเรียนดุริยางค์ หิรัณย์ บงกชมาศ (ที่มา : ยศ.ทร.)

พิธีเปิดการสัมมนาระดับภูมิภาค หัวข้อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล ณ โรงแรม Swiss Hotel Nai Lert Park

วันนี้ (๒๗ เมษายน ๒๕๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาระดับภูมิภาคเรื่องกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล (Law of Armed Conflict at Sea) ณ โรงแรม Swiss Hotel Nai Lert Park กรุงเทพ ฯ โดยมี ข้าราชการกองทัพเรือเข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย
         กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (The International Committee of the Red Cross : ICRC) จัดการสัมมนาระดับภูมิภาค หัวข้อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธทางทะเล (Law of Armed Conflict at Sea) เป็นการดำเนินการพันธกรณีอนุสัญญาเจนีวา คริสตศักราช ๑๙๔๙ ที่ประเทศร่วมลงนามต้องเผยแพร่หลักเกณฑ์และความรู้ให้หน่วยทหารของตนได้รับ ทราบ เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม และการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ นับเป็นโอกาสที่กองทัพเรือจะได้แสดงบทบาทนำในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์กองทัพเรือ "เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการ บริหารจัดการ" รวมทั้งจะทำให้กำลังพลกองทัพเรือได้เพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยตรงกับการใช้กำลังทางเรือของกองทัพเรือ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในอนาคต
           การสัมมนาในหัวข้อดังกล่าวในส่วนของกองทัพเรือ จัดบรรยายพิเศษ จำนวน ๒ หัวข้อ ได้แก่ ประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่กองกำลังเฉพาะกิจผสม ๑๕๑" และ "ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" ซึ่งเป็นเรื่องที่กองทัพเรือมีบทบาทเกี่ยวข้องโดยตรง และเพื่อประชาสัมพันธ์ประสบการณ์และผลการปฏิบัติงานระดับนานาชาติของกองทัพ เรือให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบ รวมทั้งเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์บทบาทของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ได้ทราบถึงกลไกการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพเรือโดยรวม
           สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย ประเทศบรูไนดารุสซาลาม, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน, เครือรัฐออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์,ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ, สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, สาธารณรัฐเกาหลี, มาเลเซีย, สาธารณรัฐสิงคโปร์, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, ปาปัวนิวกินี, ผู้แทนจากกองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) และผู้แทนกองทัพเรือ เข้าร่วมสัมมนา ฯ (ที่มา : ยก.ทร.)

ขอเชิญฟังการอภิปราย เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ"

ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กำหนดจัดการสัมมนาในลักษณะการอภิปรายเป็นคณะ เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ณ ห้องประชุม ๕๐๔ อาคารสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น.
        การอภิปรายเป็นคณะ เรื่อง "สงครามไซเบอร์ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของภัยคุกคามของไซ เบอร์ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ รวมไปถึงเพื่อเป็นการเตรียมการรับมือกับภัยของไซเบอร์ในทุกรูปแบบ ทั้งปฏิบัติการเชิงรุกและเชิงรับอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้แทนหน่วยต่าง ๆ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับกำลังพลในหน่วยให้สามารถปฏิบัติการร่วมด้านไซเบอร์ใน อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิทยากรจากผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายนรินทร์ฤทธิ์ เปรมอภิวัฒโนกุล กรรมการสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ, พันเอก ชาติชาย ชัยเกษม ผู้อำนวยการกองสงครามเครือข่าย กรมยุทธการทหาร, นาวาเอก นิรินธน์ ธานีรัตน์ รองผู้อำนวยการกองระบบควบคุมและบังคับบัญชา สำนักปฏิบัติการกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ และ นาวาเอก ยศภาค โชติกพงศ์ อาจารย์ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ           ขอเชิญข้าราชการที่สนใจเข้าฟังการอภิปรายเป็นคณะในหัวข้อเรื่อง "สงครามไซเบอร์
ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและกองทัพเรือ" ได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ศยร.ยศ.ทร.)

ขอเชิญสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำนาลันทา สวดมนต์ ฝึกสมาธิ ๒๙ - ๓๐ เมษายน นี้ ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จัดโครงการ "PINKLAO เสริมพลัง สร้างสุข ปลุกหัวใจ" ร่วมกับเสถียรธรรมสถาน เคลื่อนขบวนธรรมยาตรามีพระพุทธชยันตีองค์ดำนาลันทา พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยาและปัญญาไปสู่ทุกชุมชน ณ ลานหน้าตึกอุบัติเหตุเก่า (ลานหน้าศูนย์กู้ชีพ) โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยในวันที่ ๒๙ เมษายน ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๒๐.๐๐ น. มีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย พิธีกราบสักการะพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมพลังสร้างใจด้วยธรรมะ โดยทีมแม่ชี จากเสถียรธรรมสถาน, เยี่ยมผู้ป่วยในห้อง ICU การเสริมพลัง สร้างสุข ด้วยการปลุกหัวใจในการทำงาน และการเยียวยา การแก้ปัญหาการเจ็บป่วย ช่วยได้ ด้วยธรรมะ, ฟังการบรรยายธรรม โดยแม่ชีศันสนีย์ "ครอบครัวหัวใจของการเยียวยา" และปิดท้ายด้วยการสวดมนต์ ฝึกสมาธิ
         สำหรับกิจกรรมในวันที่ ๓๐ เมษายน ระหว่างเวลา ๐๖.๓๐ น. - ๒๐.๐๐ น. ร่วมตักบาตรบริเวณหน้าพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, กราบไหว้บูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา, การนำนวัตกรรมทางจิตวิญญาณของเสถียรธรรมสถานสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้, การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ธรรมะกับชีวิต, กิจกรรมธรรมะปลุกหัวใจสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสวดมนต์ ฝึกสมาธ
          โครงการ "PINKLAO เสริมพลังสร้างสุข ปลุกหัวใจ" เป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งความสุข บุคลากรในองค์กรหลักเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับองค์กร พร้อมที่จะผลักดันให้องค์กรก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อให้มีการสื่อสารแบบเอื้ออาทร มุ่งเน้นให้มีความเอื้อความสุขกับผู้ใช้บริการ และผู้ร่วมงานมีความผูกพัน เข้าใจกัน รู้จักให้อภัยกันได้ โดยมีแรงจูงใจในการทำงานมาจากความสุขที่อยู่ภายในของบุคคล รวมทั้งบุคลากรที่มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีความสามารถในการปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง จะช่วยให้การทำงานมีความราบรื่น ลดความขัดแย้งภายในองค์กร และสามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกระดับของโรงพยาบาล ผู้ที่สนใจทั่วไป ผู้ป่วยวิกฤติ เรื้อรัง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย และญาติ เข้าร่วมกิจกรรม
           สนใจร่วมกิจกรรมในโครงการ "PINKLAO เสริมพลัง สร้างสุข ปลุกหัวใจ" ติดต่อสอบถามได้ที่ นาวาโทหญิง พรทิพย์ ไตรภัทร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๒๘๙๔ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๒๕๓๒ (ที่มา : พร.)