วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

IMB เผยเหตุปล้นเรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

เมื่อ ๑๕ ก.ค.๕๔ องค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMB) เปิดเผยว่าเกิดเหตุปล้นสะดมในทะเลทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๕๔ ประมาณ ๒๖๖ ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๓ ที่เกิดเหตุ ๑๙๖ ครั้ง โดยส่วนใหญ่เหตุที่เกิดเป็นการกระทำของโจรสลัดโซมาเลีย คิดเป็นร้อยละ ๖๐ ของเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งจนถึง ๓๐ มิ.ย.๕๔ พบว่าโจรสลัดโซมาเลียทำการยึดเรือเดินสมุทรอย่างน้อย ๒๐ ลำ และจับลูกเรือเป็นตัวประกันอีกประมาณ ๒๔๐ คน เพื่อเรียกค่าไถ่ ขณะที่น่านน้ำในพื้นที่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบการปล้นสะดมแล้วอย่างน้อย ๕๐ ครั้ง ในห้วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะในพื้นที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย ช่องแคบสิงคโปร์ และทะเลจีนใต้ (ที่มา : www.innnews.co.th)

จีนและอาเซียนจะบรรลุข้อตกลงในทะเลจีนใต้ภายในปี ๒๕๕๔

เมื่อ ๑๘ ก.ค.๕๔ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวกับ สนข.เกียวโด ของญี่ปุ่น ว่า จีนและสมาชิกอาเซียนจะประสบความสำเร็จในการกำหนดแนวทางปฏิบัติในทะเลจีนใต้ภายในปี ๒๕๕๔ และทันต่อการลงนามในการประชุมอาเซียนครั้งต่อไปที่กัมพูชาในปี ๒๕๕๕ เพราะจีนและอาเซียนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าข้อขัดแย้งต่างๆ เกี่ยวกับทะเลจีนใต้ จะต้องหาข้อยุติโดยผ่านการเจรจา เพราะเป็นที่จับตามองจากประชาคมโลก ทั้งนี้ กรอบข้อตกลงที่จะหารือ กำหนด ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันสำรวจหรือมีกิจกรรม เช่น การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งการปราบปรามการก่ออาชญากรรม โดยอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจอันจะนำมาซึ่งความเชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน (ที่มา : สำนักข่าวไทย)

สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ จะทำการซ้อมรบประจำปี Ulchi Freedom Guardian

สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ จะทำการซ้อมรบประจำปี ชื่อ Ulchi Freedom Guardian ระหว่าง ๑๖ - ๒๖ ส.ค.๕๔ โดย สหรัฐฯ ส่งกำลังพลประมาณ ๓,๐๐๐ นาย และเกาหลีใต้ส่งกำลังพลประมาณ ๕๖,๐๐๐ นาย เข้าร่วมการฝึกบัญชาการจากเครื่องจำลองยุทธ์ ฝึกบุคลากรด้านบริหารจัดการ และการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมทั้งได้แจ้งกำหนดการซ้อมรบไปยังกองทัพเกาหลีเหนือทราบแล้ว (ที่มา : news.xinhuanet.com)

ผลวิจัยชี้กิน "เต่ากระ" ถึงตาย

 น.ส.กุสุมา สว่างพันธุ์ นักวิชาการชำนาญการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต เปิดเผยภายในการสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๑ ภายใต้เรื่อง "ระบาดวิทยากับความท้าทายจากภัยสุขภาพโลกที่อุบัติใหม่" ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า จากการศึกษาเรื่อง "การรับประทานเต่ากระกับการป่วยและเสียชีวิตในชุมชนไทยใหม่ จังหวัดภูเก็ต ปี ๒๕๕๓" เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน๒๕๕๓ งานระบาดวิทยา สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเต่าทะเลจำนวน ๓ ราย และมีผู้ป่วยอีกหลายรายในหมู่บ้านไทยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จึงสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและศึกษาลักษณะการเกิดการกระจายของโรค โดยได้รวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลและสถานีอนามัย พร้อมทั้งสัมภาษณ์พฤติกรรม การบริโภคเต่ากระภายในชุมชน จำนวนทั้งสิ้น ๘๖๑ ราย
จากการสำรวจพบว่า ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยจะต้องมีอาการอย่างน้อย ๒ อาการ คือ แสบปาก ชาบริเวณปาก เจ็บคอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ซึม หมดสติ โดยต้องอยู่ในช่วงระหว่าง วันที่ ๔ - ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ ซึ่งผลการศึกษาพบผู้ป่วยจำนวน ๔๘ รายเสียชีวิต ๓ ราย ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดพบผู้ป่วย ๔๖ ราย มีประวัติรับประทานอาหารที่ปรุงจากเต่ากระตัวเดียวกัน เมื่อวันที่ ๔ - ๕ มิถุนายน อีกทั้งยังพบผู้ป่วยอีก ๒ ราย ดูดนมแม่ที่รับประทานเต่ากระอีกด้วย จากการประเมินพบว่า อัตราป่วยในกลุ่มผู้ที่รับประทานเต่ากระสูงถึงร้อยละ ๔๘.๔๘
และ จากการสัมภาษณ์พบว่า ชาวไทยใหม่บางส่วนถูกผู้ใหญ่สอนว่าไม่ให้กินเต่ากระ แต่กลุ่มบ้านนี้ไม่เชื่อจึงนำมารับประทานซึ่งเต่ากระเป็นสัตว์ทะเลที่มีสารพิษ เรียกว่าChelonitoxism ซึ่งไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน สามารถผ่านทางน้ำนมส่งผลต่อทารกที่ดูดนมแม่ได้ จึงควรประชาสัมพันธ์การห้ามจับสัตว์ทะเลอนุรักษ์ และป้ายแจ้งเตือนเต่าทะเลเป็นสัตว์มีพิษ ห้ามนำมารับประทานอาจทำให้เสียชีวิตได้
(ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน)

พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรอาชีพทหารกองประจำการ รุ่นที่ ๔/๕๔ ในพื้นที่สัตหีบ

วันนี้ (๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เวลา ๐๙.๓๐ น. พลเรือโท ผสมทรัพย์ เกื้อหนุน ประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรอาชีพทหารกองประจำการ รุ่นที่ ๔/๕๔ ณ สโมสรสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้แทนจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดระยองสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค ๓ ชลบุรี กรมเจ้าท่า และสมาคมเจ้าของเรือไทย ร่วมพิธี ฯ
การจัดให้มีการฝึกอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการ เป็นการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในวิชาชีพสาขาต่าง ๆ ให้แก่ทหารกองประจำการของกองทัพเรือ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพเมื่อปลดประจำการไปแล้ว โดยกองทัพเรือได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนด้วยดีจากหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดงาน ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค ๓ ชลบุรี ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดระยอง และสมาคมเจ้าของเรือไทย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกองทัพเรือที่ได้ดำเนินการจัดให้มีการฝึกอาชีพช่างทั่วไป และหลักสูตรกำลังพลประจำเรือพาณิชย์ขึ้น ซึ่งเมื่อจบการฝึกอบรมแล้วจะได้รับวุฒิบัตรเพื่อใช้ประกอบในการสมัครงาน (ที่มา : คพท.)

หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ฯ

เนื่องในโอกาสคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๙ พรรษา ใน ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ และวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในปี ๒๕๕๕ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับหน่วยงานกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ และเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ชื่อ "ภูมิใจภักดิ์ ชวนแม่ร่วมอนุรักษ์คืนชีวิตสู่ธรรมชาติ ถวายแม่ของแผ่นดิน" ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเป็นการเเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่านผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้หันมาใส่ใจอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ โดยชวนเชิญให้ประชาชนชาวไทยมีจิตสำนึกในการรักษ์และหวงแหนธรรมชาติอย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ได้แก่ กิจกรรมการเก็บขยะชายหาด, กิจกรรมปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน ๗๘๐ ตัว การปลูกป่าชายเลน จำนวน ๕๐๐ ต้น ปล่อยพันธุ์ปลา ปูทะเล, กิจกรรมค่ายเยาวชนเทิดไทองค์ราชินี, กิจกรรมฟื้นฟูธรรมชาติอ่าวเตยงาม และกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและคอนเสิร์ตเฉลิม พระเกียรติ ฯ
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำเว็บไซต์ให้ประชาชนทั่วไปร่วมปฏิญาณในการอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน และติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติจากหน่วยงานต่าง ๆ ของ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ http://www.navy.mi.th/acdc (ที่มา : สอ.รฝ.)

พิธีวางศิลาฤกษ์อาคารพักผู้โดยสารท่าอากาศยานอู่ตะเภา ระยอง

 วันนี้ (๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔) เวลา ๐๙.๔๕ น. พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารพักผู้โดยสารท่าอากาศยานอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
สนามบินอู่ตะเภาได้มีการพัฒนาให้เป็นสนามบินสากล และให้ใช้ชื่อว่า "สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา" ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี๒๕๑๙ โดยกองทัพเรือเป็นผู้บริหารสนามบินอู่ตะเภา และกองทัพเรือเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อใหม่จากเดิม "สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา พัทยา" เป็น "สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา"
การท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้เสนอแนวคิดการพัฒนาศักยภาพสนามบินในการให้บริการเครื่องบินและผู้โดยสาร ซึ่งมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งอาคารพักผู้โดยสารหลังเดิมแออัดมาก ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ทำให้ไม่สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยกรมช่างโยธาทหารเรือเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานหลังใหม่ จำนวน ๑ หลัง สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง ๑,๒๐๐ - ๑,๕๐๐ คน และเพิ่มพื้นที่ให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ เข้า - ออกได้พร้อมกัน ครั้งละ ๔ เครื่อง รวมระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง ๕๕๐ วัน (ที่มา : การท่าอากาศยานอู่ตะเภา)