วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เวียดนามจะปล่อยนักโทษจำนวนมาก

เมื่อ ๒๙ ส.ค.๕๔ ประธานาธิบดีเวียดนามมีคำสั่งอภัยโทษนักโทษเนื่องในวันชาติ ๒ ก.ย.๕๔ กว่า ๑๐,๐๐๐ คน เป็นชาวต่างชาติ ๗ คนจากสหรัฐฯ แคนาดาและออสเตรเลีย เป็นนักโทษมีความผิดในข้อหาด้านความมั่นคง ๕ คน แต่นักเคลื่อนไหวระดับแกนนำไม่ได้รับการปล่อยตัว และอีก ๓ คนเป็นชนกลุ่มน้อยทางภาคกลางของเวียดนาม ทั้งนี้ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปมักวิจารณ์เวียดนามที่คุมขังผู้ที่มีแนวความคิดต่อต้านรัฐบาลและผู้นำศาสนา ซึ่งทางการเวียดนามมักปราบปรามพวกต่อต้านและใช้กฎหมายด้านความมั่นคงต่อกลุ่มคนที่เป็นภัยคุกคามรัฐบาล (ที่มา : สำนักข่าวไทย)

BIFF ในฟิลิปปินส์ขอความช่วยเหลือจาก UN

เมื่อ ๒๙ ส.ค.๕๔ สนข.ซินหัว รายงานว่า นายอเมอร์ริล อัมบรา กาโต อดีต ผบ.กกล.๑๐๕ ของ MILF/ผบ.กกล.นักรบเสรีภาพอิสลามโมโร (Bangsamoro Islamic Freedom Fighter - BIFF) บอกกับผู้สื่อข่าวภายในค่ายที่เมืองดาตูอันซาย จ.มากินดาเนา ว่า อยากให้ UN เข้ามาช่วยยุติความเดือดร้อนของชาวฟิลิปปินส์มุสลิม แต่ไม่ต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามาก้าวก่าย โดยเตือนว่า BIFF จะตอบโต้ ทั้งนี้ มีทหารสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์เข้ามาในพื้นที่ของ BIFF เมื่อ ก.ค.๕๔ และปีที่ผ่านมา (ที่มา : สำนักข่าวไทย)

กองทัพมาเลเซียส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังโซมาเลีย

เมื่อ ๒๘ ส.ค.๕๔ มีรายงานจากการเปิดเผยของ ดาโต๊ะ ศรี ดร.อาหมัด ซาฮิด ฮามิดิ รมว.กห.มาเลเซีย ว่า กองทัพมาเลเซียไม่เคยปฏิเสธคำร้องขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะทางด้านมนุษยธรรม ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาด้านงบประมาณ ทั้งนี้ ดาโต๊ะ ศรี นาจิบ ตุน ราซัก นรม.มาเลเซีย ได้มีคำสั่งตรงถึง กห.มาเลเซีย ให้สนับสนุน 1Malaysia Putera Club ในการปฏิบัติการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมในโซมาเลีย โดยได้ส่ง บ. C-130 บรรทุกอาหารน้ำหนัก ๘ ตัน น้ำ ยารักษาโรค พร้อมอาสาสมัคร สื่อมวลชน ทีมแพทย์ และกำลังพล ทอ.มาเลเซีย รวม ๗๖ คน ไปปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว (ที่มา : www.bernama.com)

คมนาคมประกาศลดค่าโดยสาร ตั้งแต่ ๑ กันยายน ๕๔ เป็นต้นไป

          กระทรวงคมนาคม ประกาศ ลดอัตราค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะในสังกัดให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ลดลง ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายนนี้เป็นต้นไป
พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการลดอัตราค่าโดยสารหลังราคาน้ำมันดีเซลลดลง ๓ บาท ต่อลิตร ว่า ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔ ได้ให้บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส.ลดอัตราค่าโดยสาร ๒ สตางค์ ต่อกิโลเมตร และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ในส่วนของรถเมล์ปรับอากาศลดลง ๑ บาท จาก ๑๒ - ๒๔ บาท เป็น ๑๑ - ๒๓ บาท รถเมล์ไม่ปรับอากาศ ลด ๕๐ สตางค์ จาก ๗ บาท เป็น ๖.๕๐ บาท ส่วนรถร่วมเอกชนทั้งของ บขส. และ ขสมก. ต้องหารือกับเอกชน เนื่องจากต้องเป็นไปตามมติของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง รวมถึงเรือด่วนเจ้าพระยาอีก ๑ บาท และเรือข้ามฟาก ๕๐ สตางค์ ส่วนมาตรการรถเมล์ฟรีและรถไฟฟรี ยังคงให้บริการเช่นเดิม แต่จะพิจารณาปรับลดเที่ยววิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารใช้บริการน้อย
ขณะที่นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า บขส.จะนำร่องลดราคาค่าโดยสารรถ บขส.รถ ๙๙ ทุกเส้นทาง อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน และแม้ราคาน้ำมันดีเซลจะลดลง ก็ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ทำให้ บขส.ต้องแบกรับต้นทุนด้านน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถร่วม ให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ส่วนความชัดเจนในการกำหนด (ปรับปรุง) อัตราค่าโดยสารรถ หมวด ๒ และหมวด ๓ บขส.จะดำเนินการตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางอย่างเคร่งครัดต่อไป (ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)

เรือรบสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้าเยี่ยมประเทศไทย ๖ - ๑๑ กันยายน นี้

         เรือรบสหรัฐอเมริกา ชื่อเรือ USS KIDD (DDG 100) เข้าเยี่ยมประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๖ ถึงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อเข้ารับการส่งกำลังบำรุงและให้กำลังพลประจำเรือพักผ่อนภายหลังจากการปฏิบัติภารกิจในทะเล โดยจอดเรือทอดสมอที่บริเวณอ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต
กองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา มีความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านการทหารกันอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลาอันยาวนาน โดยมีการฝึกร่วมผสมเป็นประจำทุกปี เช่น COBRA GOLD และ CARAT และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของทั้งสองกองทัพเป็นครั้งคราว (ที่มา : ขว.ทร.)

ขอเชิญชมนิทรรศการประกวดพระเครื่อง ๓ - ๔ กันยายน นี้ ที่ หอประชุมกองทัพเรือ

        สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ จัดนิทรรศการประกวดพระเครื่องทุกประเภท ตามมาตรฐานความนิยมและเหรียญที่ระลึก ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๓ และ ๔ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เพื่อบูรณะวัดพระบรมธาตุวรวิหาร (พระอารามหลวง) จังหวัดชัยนาท และเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนบำรุงพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ แขวงศาลาธรรมสพ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยมีรางวัลต่าง ๆ มากมาย จำนวน ๖ รางวัล อาทิ รางวัลชนะเลิศโล่รวมยอดเยี่ยม ได้รับ รถจักรยานยนต์ ตราอักษรยามาฮ่า มูลค่า ๔๕,๐๐๐ บาท จำนวน๑ รางวัล, รางวัลชนะเลิศรวมประเภทพระ
ยอดนิยมประเภทพระทั่วไป ได้รับสร้อยคอทองคำ จำนวน ๒ รางวัล, รางวัลชนะเลิศแต่ละโต๊ะ รับกล้องส่องพระ กว่า ๖๐ รางวัล, รางวัลชนะเลิศแต่ละรายการได้รับหนังสือปกแข็ง "พระสมเด็จหนึ่งในแผ่นดิน" กว่า ๒,๐๐๐ รางวัล, ซื้อคูปองส่งพระทุก ๆ ๓๐ ใบ รับรูปหล่อหลวงปู่ศุข ฯ และซื้อคูปองส่งพระทุก ๆ ๕ ใบ รับเหรียญ ข้าวหลามตัด กรมหลวงชุมพร ฯ ปี ๒๕๔๕ จำนวนจำกัด ๒,๕๐๐ องค์เท่านั้น
ขอเชิญผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการประกวดพระเครื่องกว่า ๒,๐๐๐ รายการ พร้อมรับรางวัลต่าง ๆ ในงานนิทรรศการ ฯ มากมาย พร้อมกับมีแผงพระบริการ ๒ วัน ราคา ๓๐๐ บาท สอบถามรายละเอียด หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๘๗๙ ๕๗๘๘, ๐๘๑ ๔๐๙ ๗๕๐๒ (ที่มา : สวพ.ทร.)

กองทัพเรือจัดงานวันที่ระลึกเรือดำน้ำ ประจำปี ๒๕๕๔

             กองทัพเรือ เตรียมจัดงานวันที่ระลึกเรือดำน้ำ ประจำปี ๒๕๕๔ ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๔ โดยมี พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธี ฯ
วันที่ ๔ กันยายน ของทุกปี บรรดาทหารเรือที่เคยประจำการในเรือดำน้ำ ได้ถือเอาวันนี้เป็นวันที่ระลึกเรือดำน้ำ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๘๐ เรือดำน้ำ ๒ ลำ จากจำนวน ๔ ลำ ซึ่งสั่งต่อจาก บริษัทมิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น คือ เรือหลวงมัจฉานุ และ เรือหลวงวิรุณ ได้สร้างแล้วเสร็จ ทางบริษัทพร้อมที่จะส่งมอบให้แก่ราชนาวีไทย ดังนั้น ทหารที่ถูกจัดให้อยู่ประจำเรือทั้งสองลำนี้
ได้กระทำพิธีรับมอบและลงประจำเรือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถึงแม้กองทัพเรือจะปลดระวางประจำการเรือดำน้ำ ชุดนี้ไปแล้วก็ตาม แต่ในอดีตนั้นเรือดำน้ำเหล่านี้ได้เป็นเขี้ยวเล็บที่เสริมสร้างนาวิกานุภาพของไทยให้เข้มแข็ง จนเป็นที่กล่าวขานและได้รับใช้ชาติอย่างสมบูรณ์ ในกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสและในสงครามมหาเอเชียบูรพา จนกระทั่งสงครามสงบ เรือดำน้ำทั้งหมดได้ปลดระวางประจำการไปเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๔ รวมเวลารับใช้กองทัพเรือเป็นเวลา ๑๒ ปีเศษ เรื่องเรือดำน้ำ จึงได้กลายเป็น "อดีต" ไปแล้ว เหลือเพียงแต่เรื่องราวที่อยู่ในความทรงจำของ "นักดำเรือดำน้ำ" ในยุคนั้นอีกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
กองทัพเรือ ได้จัดงานวันที่ระลึกเรือดำน้ำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สมาชิก อดีตทหารเรือ ที่เคยเป็นนักดำเรือดำน้ำ กลุ่มชมรมเรือดำน้ำ และนายทหารประจำการที่เคยศึกษาวิชาเรือดำน้ำยุคใหม่ได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งได้ร่วมทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนักดำเรือดำน้ำไทยในอดีตที่ล่วงลับไปแล้ว สำหรับปีนี้ตรงกับวันหยุดราชการ จึงได้กำหนดจัดงานในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๔ โดยภายในงานจัดนิทรรศการและพบปะสนทนากับสมาชิกชมรมนักดำเรือดำน้ำ (ที่มา : กพร.ทร.)