"ความเจริญนั้น
ต้องพร้อมด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ประการหนึ่ง วิชาความรู้ประการหนึ่ง
และจิตใจสูงประการหนึ่งคือถ้าเราต้องการจะทำนุบำรุง ส่งเสริมกำลังของเราให้เข้มแข็ง
เมื่อเรามีเงิน ก็จะจัดซื้อหาเครื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ นานาชนิดที่มีคุณภาพดี
มาเพิ่มพูนให้มากยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ย่อมจะทำได้ หรือถ้าเราต้องการจะส่งเสริมสมรรถภาพในทางความรู้
วิทยาการ ใดๆ ให้ทันเทียมกับอารยะประเทศ เราก็จัดส่งคนของเราให้ออกไปศึกษาค้นคว้า
และหาอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบวิทยาการแผนใหม่ๆ ในต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงส่งเสริมสมรรถภาพของเรา
ให้เจริญเทียมทันเขาได้ ซึ่งความเจริญดั่งกล่าวมาแล้วนี้ เราสามารถจะซื้อหาด้วยเงินได้
แต่ความเจริญทางจิตใจนั้น เราจะซื้อด้วยเงิน เป็นจำนวนเท่าใดๆ
ไม่ได้ ความเจริญทางจิตใจนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละคน
ที่จะต้องทำตัวของตนเองให้ดี เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม"
พระบรมราโชวาทในวันพิธีสวนสนาม
และพระราชทานธงชัยประจำกองโรงเรียนตำรวจภูธร ภาค ๔ วันอังคารที่
๑๓ ตุลาคม ๒๔๙๖
วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
กองทัพเรือ ประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันกองทัพเรือ ครบ ๑๐๘ ปี
วันนี้ (๒๐ พฤศจิกายน
๒๕๕๗) เวลา ๐๖.๔๕ น. พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์
ผู้บัญชาการทหารเรือ
และ นางณุฉัตรา จันทร์สุวานิชย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ
พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือและข้าราชการกองทัพเรือ
ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์
จำนวน ๕๙ รูป
เนื่องในวันกองทัพเรือ ณ
บริเวณลานด้านหน้าอาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ
พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
และเวลา ๐๘.๒๕
น. ผู้บัญชาการทหารเรือ
ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ณ ท้องพระโรงชั้นใน ภายในพระราชวังเดิม และปลูกต้นไม้ ณ
บริเวณ
กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน
จากนั้น เวลา ๑๐.๓๐ น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญประจำปีเนื่องในวันกองทัพเรือ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม และพิธีปล่อยปลา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมปล่อยปลา ณ ท่าเทียบเรือกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ในช่วงเย็นกองทัพเรือได้จัดงานเลี้ยงรับรองระดับกองทัพเรือเนื่องในวันกอง ทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมงาน ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ
ในโอกาสวันกองทัพเรือได้เวียนมาถึงอีกครั้งในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เมื่อ ๑๐๘ ปี ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ทางราชการ จึงถือเป็นวันกองทัพเรือมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บรรพชนทหารเรือได้เสียสละและอุทิศตนอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในภาวะสงครามและยามสงบ สร้างความรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้าให้แก่กองทัพเรือจนมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง มาจนถึงปัจจุบัน
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีสารแสดงความขอบคุณ ความปรารถนาดี และส่งกำลังใจไปยังกำลังพลทุกนายให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะร่วมกันก้าวเข้าสู่ปีที่ ๑๐๙ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนแก่กองทัพเรืออันเป็นที่ รักยิ่งต่อไป โดยกำลังพลทุกนายจะแถวทหารเพื่อฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง กัน (ที่มา : สลก.ทร.)
จากนั้น เวลา ๑๐.๓๐ น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญประจำปีเนื่องในวันกองทัพเรือ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม และพิธีปล่อยปลา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมปล่อยปลา ณ ท่าเทียบเรือกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ในช่วงเย็นกองทัพเรือได้จัดงานเลี้ยงรับรองระดับกองทัพเรือเนื่องในวันกอง ทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมงาน ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ
ในโอกาสวันกองทัพเรือได้เวียนมาถึงอีกครั้งในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เมื่อ ๑๐๘ ปี ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ทางราชการ จึงถือเป็นวันกองทัพเรือมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บรรพชนทหารเรือได้เสียสละและอุทิศตนอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในภาวะสงครามและยามสงบ สร้างความรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้าให้แก่กองทัพเรือจนมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง มาจนถึงปัจจุบัน
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีสารแสดงความขอบคุณ ความปรารถนาดี และส่งกำลังใจไปยังกำลังพลทุกนายให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะร่วมกันก้าวเข้าสู่ปีที่ ๑๐๙ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนแก่กองทัพเรืออันเป็นที่ รักยิ่งต่อไป โดยกำลังพลทุกนายจะแถวทหารเพื่อฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง กัน (ที่มา : สลก.ทร.)
ขอเชิญชมภาพยนตร์สารคดีวันกองทัพเรือ
วันนี้ (๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) ขอเชิญชมตัวอย่างภาพยนตร์สารคดีวันกองทัพเรือ ทางเว็บไซต์ www.navychannel.ty หรือ NavyChannel Thailand ทาง youtube และสามารถติดตามได้ทาง Facebook Fanpage : Navy Channel (https://th-th.facebook.com/navychannel.th)
(ที่มา : กพร.ทร.)
บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "สุขตลอดปีด้วยวิถีธรรม"
กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "สุขตลอดปีด้วยวิถีธรรม"
ดังนี้
เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ของแต่ละปี จะสังเกตเห็นว่า มนุษย์กลุ่มหนึ่งมักจะแสวงหาความสุขในชีวิตแตกต่างกันออกไป ตามความต้องการ เช่นบางกลุ่มอาศัยการไปเที่ยวเตร่ยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จัดงานเฉลิมฉลองรื่นเริง ดื่มกินและพาลูกหลานไปไหว้พระยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น ด้วยเชื่อว่า นั่นคือ ความสุข แต่ก็ปรากฏว่า นั่นเป็นความสุขเพียงชั่วคราวเดี๋ยวเดียว ไม่กี่วัน อีกทั้งบางครั้งก็นำมาซึ่งความพินาศเป็นพิษเป็นภัยแก่ชีวิต เช่น ความสิ้นเปลืองเสียเวลาและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นต้นได้
มุมมองในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่า หากใครต้องการความสุขความสวัสดีแก่ชีวิตแบบยั่งยืน ตลอดปีและตลอดไป ให้ดำเนินชีวิตไปตามวิถีธรรม ๔ ประการ คือ
๑. ปัญญา คือ ความรอบรู้ ความเข้าใจ ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา เพราะการใฝ่หาความรู้โดยการฟัง ที่เรียกว่า สุตมยปัญญา เป็นต้น จะนำพาให้ตนรู้จักว่าอะไรดี ไม่ดี อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรควรเว้น อะไรคือสิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์แก่ชีวิต
๒. ตบะ คือ เพียรละชั่ว ต่อสู้ปัญหาและอุปสรรค รักษาและพัฒนาความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ เพราะการไม่ท้อแท้ ท้อถอย ต่อสู้ นำพาให้มนุษย์พ้นความทุกข์คือ ความลำบากในชีวิต เช่น ความยากจน เป็นต้นไป
๓. อินทรีย์สังวร คือ ผู้จักระวังตน เพราะการรู้จักระมัดระวังตนนั้น จะทำให้เป็นคนไม่ประมาทในชีวิต ไม่หลงมัวเมาในสิ่งยั่วยุจนทำให้ขาดสติทำความชั่วหรือตกเป็นทาสของกิเลสที่จะนำพาให้ชีวิตตกต่ำ
๔. สัพพะนิสสัคคะ คือ รู้จักปลง ปล่อยวาง ฝึกฝนปล่อยวาง รู้เท่าทันโลก พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง เช่นเห็นว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เป็นต้น มองโลกในแง่ดี จะช่วยให้ชีวิตจิตใจรู้สึกเบาสบายปลอดโปร่ง
ความสุขเพียงชั่วข้ามคืนในช่วงเริ่มต้นของแต่ละปีตามวิสัยของปุถุชน ใคร ๆ ก็สามารถมีได้ ด้วยการดื่มฉลองกัน จัดงานสังสรรค์รื่นเริงและการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น แต่ถ้าใครอยากจะมีความสุขแบบยั่งยืน ตลอดปี และตลอดไป ควรที่จะยึดหลักวิถีธรรม ๔ ประการ คือ ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา ต่อสู้ปัญหาอุปสรรค รู้จักระวังตนและฝึกฝนปล่อยวาง ดังกล่าวข้างต้น เชื่อได้ว่า ปี ๒๕๕๘ นี้ ชีวิตจะมีความสุขด้วยวิถีธรรมตลอดปีและตลอดไปอย่างแน่นอน (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)
เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ของแต่ละปี จะสังเกตเห็นว่า มนุษย์กลุ่มหนึ่งมักจะแสวงหาความสุขในชีวิตแตกต่างกันออกไป ตามความต้องการ เช่นบางกลุ่มอาศัยการไปเที่ยวเตร่ยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จัดงานเฉลิมฉลองรื่นเริง ดื่มกินและพาลูกหลานไปไหว้พระยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น ด้วยเชื่อว่า นั่นคือ ความสุข แต่ก็ปรากฏว่า นั่นเป็นความสุขเพียงชั่วคราวเดี๋ยวเดียว ไม่กี่วัน อีกทั้งบางครั้งก็นำมาซึ่งความพินาศเป็นพิษเป็นภัยแก่ชีวิต เช่น ความสิ้นเปลืองเสียเวลาและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นต้นได้
มุมมองในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่า หากใครต้องการความสุขความสวัสดีแก่ชีวิตแบบยั่งยืน ตลอดปีและตลอดไป ให้ดำเนินชีวิตไปตามวิถีธรรม ๔ ประการ คือ
๑. ปัญญา คือ ความรอบรู้ ความเข้าใจ ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา เพราะการใฝ่หาความรู้โดยการฟัง ที่เรียกว่า สุตมยปัญญา เป็นต้น จะนำพาให้ตนรู้จักว่าอะไรดี ไม่ดี อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรควรเว้น อะไรคือสิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์แก่ชีวิต
๒. ตบะ คือ เพียรละชั่ว ต่อสู้ปัญหาและอุปสรรค รักษาและพัฒนาความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ เพราะการไม่ท้อแท้ ท้อถอย ต่อสู้ นำพาให้มนุษย์พ้นความทุกข์คือ ความลำบากในชีวิต เช่น ความยากจน เป็นต้นไป
๓. อินทรีย์สังวร คือ ผู้จักระวังตน เพราะการรู้จักระมัดระวังตนนั้น จะทำให้เป็นคนไม่ประมาทในชีวิต ไม่หลงมัวเมาในสิ่งยั่วยุจนทำให้ขาดสติทำความชั่วหรือตกเป็นทาสของกิเลสที่จะนำพาให้ชีวิตตกต่ำ
๔. สัพพะนิสสัคคะ คือ รู้จักปลง ปล่อยวาง ฝึกฝนปล่อยวาง รู้เท่าทันโลก พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง เช่นเห็นว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เป็นต้น มองโลกในแง่ดี จะช่วยให้ชีวิตจิตใจรู้สึกเบาสบายปลอดโปร่ง
ความสุขเพียงชั่วข้ามคืนในช่วงเริ่มต้นของแต่ละปีตามวิสัยของปุถุชน ใคร ๆ ก็สามารถมีได้ ด้วยการดื่มฉลองกัน จัดงานสังสรรค์รื่นเริงและการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น แต่ถ้าใครอยากจะมีความสุขแบบยั่งยืน ตลอดปี และตลอดไป ควรที่จะยึดหลักวิถีธรรม ๔ ประการ คือ ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา ต่อสู้ปัญหาอุปสรรค รู้จักระวังตนและฝึกฝนปล่อยวาง ดังกล่าวข้างต้น เชื่อได้ว่า ปี ๒๕๕๘ นี้ ชีวิตจะมีความสุขด้วยวิถีธรรมตลอดปีและตลอดไปอย่างแน่นอน (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)
สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ
สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ กลุ่มงานบริการทั่วไป ตำแหน่ง พนักงานบริการ แผนกธุรการ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ จำนวน ๑ อัตรา โดยรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาปีที่ ๓ หรือเทียบเท่า เพศชาย มีความรู้ด้านการติดต่อสื่อสารในราชการได้ดี มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปี และไม่เกิน ๓๕ ปีบริบูรณ์
หลักฐานประกอบการสมัคร ได้แก่ ประกาศนียบัตรหรือใบสุทธิ หรือระเบียบแสดงผลการเรียนฉบับจริง พร้อมสำเนา ๑ ชุด, บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงพร้อมสำเนา จำนวน ๑ ชุด, ทะเบียนบ้านของ ผู้สมัครและบิดา มารดา ฉบับจริงพร้อมสำเนา จำนวน ๑ ชุด, รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๓ รูป และใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐ ทั้งนี้ สำเนาหลักฐานทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองสำเนาถูกต้อง และลงชื่อกำกับไว้ทุกฉบับด้วย
ขอเชิญผู้ที่สนใจสมัครเข้าเป็นพนักงานราชการในตำแหน่งดังกล่าว สามารถสมัครและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกธุรการ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ถนนวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๐๘๙ และ ๐ ๒๔๗๕ ๔๕๕๐ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ในวันราชการ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. กำหนดประกาศผลสอบในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ หรือดูได้ที่ http://www.sctr.navy.mi.th/ (ที่มา : สลก.ทร.)
นาวิกโยธินและกองทัพเรือเกาหลีใต้ ฝึกยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่
มีรายงานว่า
นาวิกโยธินและกองทัพเรือเกาหลีใต้ ฝึกยกพลขึ้นบก บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลี
ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยมีทหารนาวิกโยธิน จำนวน
๑,๒๐๐ นาย เรือรบ จำนวน ๒๐ ลำ รวมถึงเรือยกพลขึ้นบก Dokdo เรือพิฆาตระบบ
Aegis และเครื่องบินประมาณ ๔๐ ลำ เข้าร่วมการฝึก นอกจากนี้ จะฝึกปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ
ด้วยการนำเฮลิคอปเตอร์ MH-53 ของสหรัฐฯ ลงจอดบนเรือ Dokdo (ที่มา
: ขว.ทร.)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)