วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กรมการขนส่งทหารเรือ ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ทุกระบบ ฯ

กรมการขนส่งทหารเรือ จัดทำโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย กับกรมการขนส่งทหารเรือ" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ บริเวณลานจอดรถด้านหลัง พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น.
         โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อบริการให้กับข้าราชการในกองทัพเรือ โดยให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ทุกระบบ ให้คำแนะนำในการตรวจสภาพรถ ก่อนใช้งาน ระหว่างใช้งาน และหลังใช้งาน แนะนำการขับขี่ปลอดภัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุในการขับรถ
         ขอเชิญชวนข้าราชการและลูกจ้างสังกัดกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่สนใจเข้าร่วมโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย กับ กรมการขนส่งทหารเรือ" และรับบริการได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ขส.ทร.)

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน ฯ

  พลเรือเอก อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.
         จากนั้น เวลา ๑๐.๒๐ น. ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ วิหารน้อย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
         กองทัพเรือ กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็น "วันอาภากร" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ได้ทรงวางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ระเบียบ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ จนทำให้กองทัพเรือไทยมีความทันสมัย มีมาตรฐานและเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศมาตราบจนทุกวันนี้
         วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๖๖ เป็นวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือ ซึ่งเทิดทูนยกย่อง และขนานพระนามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและเสริมสร้างการทหารเรือไทยให้มีความทันสมัยและเข้มแข็งทัดเทียมกับอารยประเทศ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออังกฤษ และเดินทางกลับสู่สยาม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๓
        ตลอดระยะเวลาที่ทรงรับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพัฒนาและสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้แก่ ราชนาวีไทยในทุก ๆ ด้าน ทรงปลูกฝังจิตวิญญาณและวิชาชีพทหารเรือแก่คนไทย เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการทหารเรือตามแบบตะวันตก โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติเหมือนที่เป็นมาในอดีต พระองค์ทรงนำเรือหลวงใกุฎราชกุมารเดินทางไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศ ด้วยกำลังพลที่เป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นครั้งแรก เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๐ อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในด้านการทหารเรือของพระองค์อย่างแท้จริง
        นอกจากนี้ ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยทรงให้การรักษาผู้เจ็บป่วยในระหว่างที่ทรงลาออกจากกระทรวงทหารเรือชั่ว ระยะหนึ่ง พระองค์ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่งเมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ ในตำแหน่งจเรทหารเรือและเสนาธิการทหารเรือ ตามลำดับ ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักยุทธศาสตร์ด้วยทรงขอพระราชทาน พื้นที่สัตหีบซึ่งมีชัยภูมิเหมาะสมเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ อีกทั้งยังทรงมีพระดำริให้จัดตั้งกำลังอากาศนาวี เพื่อให้มีนาวิกานุภาพที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง ซึ่งกรุณาคุณของพระองค์ยังคงดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบทเพลงทหารเรือที่ได้ทรงนิพนธ์ไว้ อาทิ เพลงเดินหน้า เพลงดอกประดู่ และเพลงดาบของชาติ ซึ่งยังคงถูกขับขานเพื่อปลุกจิตวิญญาณและความสามัคคีของเหล่าทหารเรือให้ เป็นหนึ่งเดียว ในการอุทิศตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติและราชนาวีอย่างเต็มกำลังความ สามารถ
        เนื่องในวันอาภากรในปีนี้ กองทัพเรือขอน้อมรำลึกถึงกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ และขอเทิดพระเกียรติคุณ พร้อมทั้งน้อมจิตอธิฐานอัญเชิญดวงพระวิญญาณของพระองค์ ทรงสถิตเป็นมิ่งมงคลและมิ่งขวัญแก่กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะอุทิศตนในการสืบสานพระปณิธานของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ทหารเรืออย่างเต็มกำลังความสามารถ นำความเจริญรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพเรือ ดำรงไว้ซึ่งภารกิจในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสืบไป (ที่มา : สลก.ทร.)

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน ฯ


พลเรือเอก อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานคณะ ที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.
        จากนั้น เวลา ๑๐.๒๐ น. ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ วิหารน้อย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
        กองทัพเรือ กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็น "วันอาภากร" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ได้ทรงวางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ระเบียบ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ จนทำให้กองทัพเรือมีความทันสมัย มีมาตรฐานและเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศมาตราบจนทุกวันนี้
         วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๖๖ เป็นวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือ ซึ่งเทิดทูนยกย่อง และขนานพระนามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและเสริมสร้างการทหารเรือไทยให้มีความทันสมัยและเข้มแข็งทัดเทียมกับอารยประเทศ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออังกฤษ และเดินทางกลับสู่สยาม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๓
         ตลอดระยะเวลาที่ทรงรับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพัฒนาและสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้แก่ ราชนาวีไทยในทุก ๆ ด้าน ทรงปลูกฝังจิตวิญญาณและวิชาชีพทหารเรือแก่คนไทย เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการทหารเรือตามแบบตะวันตก โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติเหมือนที่เป็นมาในอดีต พระองค์ทรงนำเรือหลวงมกุฎราชกุมารเดินทางไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศ ด้วยกำลังพลที่เป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นครั้งแรก เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๐ อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในด้านการทหารเรือของพระองค์อย่างแท้จริง
        นอกจากนี้ ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยทรงให้การรักษาผู้เจ็บป่วยในระหว่างที่ทรงลาออกจากกระทรวงทหารเรือชั่ว ระยะหนึ่ง พระองค์ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่งเมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ ในตำแหน่งจเรทหารเรือและเสนาธิการทหารเรือ ตามลำดับ ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักยุทธศาสตร์ด้วยทรงขอพระราชทาน พื้นที่สัตหีบซึ่งมีชัยภูมิเหมาะสมเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ อีกทั้งยังทรงมีพระดำริให้จัดตั้งกำลังอากาศนาวี เพื่อให้มีนาวิกานุภาพที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง ซึ่งกรุณาคุณของพระองค์ยังคงดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบทเพลงทหารเรือที่ได้ทรงนิพนธ์ไว้ อาทิ เพลงเดินหน้า เพลงดอกประดู่ และเพลงดาบของชาติ ซึ่งยังคงถูกขับขานเพื่อปลุกจิตวิญญาณและความสามัคคีของเหล่าทหารเรือให้ เป็นหนึ่งเดียว ในการอุทิศตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติและราชนาวีอย่างเต็มกำลังความ สามารถ
         เนื่องในวันอาภากรในปีนี้ กองทัพเรือขอน้อมรำลึกถึงกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ และขอเทิดพระเกียรติคุณ พร้อมทั้งน้อมจิตอธิฐานอัญเชิญดวงพระวิญญาณของพระองค์ ทรงสถิตเป็นมิ่งมงคลและมิ่งขวัญแก่กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะอุทิศตนในการสืบสานพระปณิธานของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ทหารเรืออย่างเต็มกำลังความสามารถ นำความเจริญรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพเรือ ดำรงไว้ซึ่งภารกิจในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสืบไป (ที่มา : สลก.ทร.)

กรมการขนส่งทหารเรือ ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ทุกระบบฯ

 กรมการขนส่งทหารเรือ จัดทำโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย กับกรมการขนส่งทหารเรือ" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ บริเวณลานจอดรถด้านหลัง พระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น.
         โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อบริการให้กับข้าราชการในกองทัพเรือ โดยให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ทุกระบบ ให้คำแนะนำในการตรวจสภาพรถ ก่อนใช้งาน ระหว่างใช้งาน และหลังใช้งาน แนะนำการขับขี่ปลอดภัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุในการขับรถ
         ขอเชิญชวนข้าราชการและลูกจ้างสังกัดกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่สนใจเข้าร่วมโครงการ "ขับขี่ปลอดภัย กับ กรมการขนส่งทหารเรือ" และรับบริการได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : ขส.ทร.)

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์


พลเรือเอก อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.
         จากนั้น เวลา ๑๐.๒๐ น. ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ วิหารน้อย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
         กองทัพเรือ กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็น "วันอาภากร" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ได้ทรงวางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ระเบียบ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ จนทำให้กองทัพเรือไทยมีความทันสมัย มีมาตรฐานและเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศมาตราบจนทุกวันนี้
         วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๖๖ เป็นวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือ ซึ่งเทิดทูนยกย่อง และขนานพระนามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและเสริมสร้างการทหารเรือไทยให้มีความทันสมัยและเข้มแข็งทัดเทียมกับอารยประเทศ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออังกฤษ และเดินทางกลับสู่สยาม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๓
        ตลอดระยะเวลาที่ทรงรับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพัฒนาและสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้แก่ ราชนาวีไทยในทุก ๆ ด้าน ทรงปลูกฝังจิตวิญญาณและวิชาชีพทหารเรือแก่คนไทย เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการทหารเรือตามแบบตะวันตก โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติเหมือนที่เป็นมาในอดีต พระองค์ทรงนำเรือหลวงใกุฎราชกุมารเดินทางไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศ ด้วยกำลังพลที่เป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นครั้งแรก เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๐ อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในด้านการทหารเรือของพระองค์อย่างแท้จริง
        นอกจากนี้ ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยทรงให้การรักษาผู้เจ็บป่วยในระหว่างที่ทรงลาออกจากกระทรวงทหารเรือชั่ว ระยะหนึ่ง พระองค์ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่งเมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ ในตำแหน่งจเรทหารเรือและเสนาธิการทหารเรือ ตามลำดับ ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักยุทธศาสตร์ด้วยทรงขอพระราชทาน พื้นที่สัตหีบซึ่งมีชัยภูมิเหมาะสมเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ อีกทั้งยังทรงมีพระดำริให้จัดตั้งกำลังอากาศนาวี เพื่อให้มีนาวิกานุภาพที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง ซึ่งกรุณาคุณของพระองค์ยังคงดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบทเพลงทหารเรือที่ได้ทรงนิพนธ์ไว้ อาทิ เพลงเดินหน้า เพลงดอกประดู่ และเพลงดาบของชาติ ซึ่งยังคงถูกขับขานเพื่อปลุกจิตวิญญาณและความสามัคคีของเหล่าทหารเรือให้ เป็นหนึ่งเดียว ในการอุทิศตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติและราชนาวีอย่างเต็มกำลังความ สามารถ
        เนื่องในวันอาภากรในปีนี้ กองทัพเรือขอน้อมรำลึกถึงกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ และขอเทิดพระเกียรติคุณ พร้อมทั้งน้อมจิตอธิฐานอัญเชิญดวงพระวิญญาณของพระองค์ ทรงสถิตเป็นมิ่งมงคลและมิ่งขวัญแก่กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะอุทิศตนในการสืบสานพระปณิธานของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ทหารเรืออย่างเต็มกำลังความสามารถ นำความเจริญรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพเรือ ดำรงไว้ซึ่งภารกิจในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสืบไป (ที่มา : สลก.ทร.)

กองทัพเรือ ขอเชิญชวนกำลังพลร่วมงานและร่วมส่งพระเครื่องฯ


กองทัพเรือ ขอเชิญชวนกำลังพลร่วมส่งพระเครื่องพระบูชา เหรียญคณาจารย์และเหรียญที่ระลึกเข้าประกวด ในงานมหกรรมประกวดพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ชิงถ้วยประทาน พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น ๒ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีรายการประกวดกว่า ๒,๐๐๐ รายการ ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศในการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง ฯ รางวัลชนะเลิศประเภทยอดเยี่ยมคะแนนรวม จะได้รับถ้วยรางวัลประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค 115i จำนวน ๑ คัน รางวัลชนะเลิศประเภทการอนุรักษ์พระยอดนิยม ได้รับรางวัลเกียรติยศผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นเรือดำน้ำจำลอง พร้อมโทรทัศน์สี โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว ๑ เครื่อง และรางวัลชนะเลิศประเภทการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาทั่วไป ได้รับรางวัลเกียรติยศรองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นพังงาจำลอง พร้อมโทรทัศน์สี โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว ๑ เครื่อง สำหรับผู้ชนะแต่ละรายการจะได้รับ "หนังสือพระเกจิอาจารย์ของเสด็จในกรม ฯ" และพิสูจน์ความแท้ของพระฯ
          สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๓ ๐๕๗ ๘๒๐๗ หรือหมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๘๑๙๘ (ที่มา : ฝ่ายเลขานุการ ฯ และ สนง.ผช.เสธ.ทร.ฝกร.)

๑๘ - ๑๙ พฤษภาคม ขอเชิญร่วมงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อฯ


กองทัพเรือ ขอเชิญร่วมงานมหกรรมการอนุรักษ์การประกวดพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ชิงถ้วยประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อหารายได้เข้า "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ" ซึ่งกองทัพเรือได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของกำลังพลกองทัพเรือที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนการช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่บุตร - ธิดา ของกำลังพลที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ และให้การช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ โดยช่องทางการบริจาค สามารถบริจาคได้ที่ กรมการเงินทหารเรือ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือ โอนเงินเข้าบัญชีของกองทุนฯ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี "เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ" เลขที่บัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๗๐๘๗ - ๒
         งานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น ๒ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โดยแบ่งพื้นที่จัดงานเป็นพื้นที่สำหรับการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ การจัดนิทรรศการการปฏิบัติงานในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ การจัดนิทรรศการการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ การจำหน่ายวัตถุมงคลที่กองทัพเรือจัดสร้าง การออกร้านของสมาคมภริยาทหารเรือ และเปิดร้านแผงพระทุกประเภทนำวัตถุมงคลเปิดให้บูชา ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. โดยในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ จัดงานเลี้ยงรับรองคณะกรรมการตัดสินและผู้สนับสนุน และการประมูลพระ ระหว่างเวลา ๑๗.๓๐ น. - ๒๒.๐๐ น. และในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เปิดให้ผู้ที่สนใจส่งพระเข้าประกวดตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป และปิดการรับพระเข้าประกวด เวลา ๑๔.๐๐ น. คณะกรรมการตัดสินพระและมอบรางวัลชนะเลิศประเภทต่าง ๆ ในเวลา ๑๖.๐๐ น. และปิดงานเวลา ๑๗.๐๐ น.
          สำหรับรางวัลในการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ ในครั้งนี้จะมีการมอบถ้วยรางวัลให้แก่ ผู้ชนะเลิศในประเภทต่าง ๆ รวม ๓ ประเภท ได้แก่ รางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมคะแนนรวม รางวัลชนะเลิศ การอนุรักษ์ พระยอดนิยม และรางวัลชนะเลิศการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาทั่วไป โดยผู้ชนะเลิศรางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมคะแนนรวม จะได้รับถ้วยรางวัลประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชา ทินัดดามาตุ พร้อมของรางวัลรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า จำนวน ๑ คัน ผู้ชนะเลิศในการประกวด การอนุรักษ์พระยอดนิยม ได้รับรางวัลเกียรติยศผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นเรือดำน้ำจำลองพร้อมของรางวัล ทีวี LCD โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว จำนวน ๑ เครื่อง และผู้ชนะเลิศการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาทั่วไป ได้รับรางวัลเกียรติยศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นพังงาจำลอง พร้อมของรางวัล ทีวี LCD โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว จำนวน ๑ เครื่อง ส่วนกติกาการตัดสิน คือ พระที่ส่งเข้าประกวดทุกรายการต้องปราศจากสิ่งห่อหุ้ม คณะกรรมการตัดสินจะทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม การตัดสินถือหลักสากลทั่วไป การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นข้อยุติโดยเด็ดขาด
        ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าผ่านประตู สอบถามรายละเอียดการจัดงานได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๗๓๙ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๔๔๓๙ (ที่มา : สลก.ทร.)

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ให้การต้อนรับคณะนักศึกษาหลักสูตรฯ

วันนี้ (๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเรือโท ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ผู้แทนผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ ๓ ให้การต้อนรับคณะนักศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสาธารณรัฐ อินเดีย ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพไทย พร้อมมอบของที่ระลึก ณ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ ๓ ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
(ที่มา : ทรภ.๓ )

พิธีมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้กับข้าราชการ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ

วันนี้ (๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖) เวลา ๑๑.๐๐ น. พลเรือตรี ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เป็นประธานมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้กับข้าราชการ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ณ ห้องเรียน กองร้อยกองบัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี คุณจิตราวิณี วรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายสื่อสารและองค์การสัมพันธ์ สายงานเลขาธิการองค์การธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ฯ
       กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ จำกัด มหาชน จัดพิธีมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้กับข้าราชการกองเรือทุ่นระเบิด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กำลังพลมีจิตสำนึกในการประพฤติและปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการที่ดี เป็นพ่อตัวอย่าง และเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตสำหรับกำลังพลของกองเรือทุ่นระเบิดต่อไปในอนาคต ซึ่งมีกำลังพลที่ได้รับคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างประจำปีนี้ มีจำนวน ๖ นาย (ที่มา : กทบ.กร.)

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะและพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์


พลเรือเอก อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานคณะ ที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี ๒๕๕๖ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.
        จากนั้น เวลา ๑๐.๒๐ น. ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ณ วิหารน้อย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
        กองทัพเรือ กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ของทุกปี เป็น "วันอาภากร" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ได้ทรงวางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ระเบียบ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ จนทำให้กองทัพเรือมีความทันสมัย มีมาตรฐานและเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศมาตราบจนทุกวันนี้
         วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๖๖ เป็นวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือ ซึ่งเทิดทูนยกย่อง และขนานพระนามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานและเสริมสร้างการทหารเรือไทยให้มีความทันสมัยและเข้มแข็งทัดเทียมกับอารยประเทศ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออังกฤษ และเดินทางกลับสู่สยาม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๓
         ตลอดระยะเวลาที่ทรงรับราชการในกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพัฒนาและสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้แก่ ราชนาวีไทยในทุก ๆ ด้าน ทรงปลูกฝังจิตวิญญาณและวิชาชีพทหารเรือแก่คนไทย เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการทหารเรือตามแบบตะวันตก โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติเหมือนที่เป็นมาในอดีต พระองค์ทรงนำเรือหลวงมกุฎราชกุมารเดินทางไปอวดธงสยามในน่านน้ำต่างประเทศ ด้วยกำลังพลที่เป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นครั้งแรก เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๐ อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในด้านการทหารเรือของพระองค์อย่างแท้จริง
        นอกจากนี้ ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการแพทย์แผนโบราณ โดยทรงให้การรักษาผู้เจ็บป่วยในระหว่างที่ทรงลาออกจากกระทรวงทหารเรือชั่ว ระยะหนึ่ง พระองค์ทรงกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่งเมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ ในตำแหน่งจเรทหารเรือและเสนาธิการทหารเรือ ตามลำดับ ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักยุทธศาสตร์ด้วยทรงขอพระราชทาน พื้นที่สัตหีบซึ่งมีชัยภูมิเหมาะสมเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ อีกทั้งยังทรงมีพระดำริให้จัดตั้งกำลังอากาศนาวี เพื่อให้มีนาวิกานุภาพที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง ซึ่งกรุณาคุณของพระองค์ยังคงดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบทเพลงทหารเรือที่ได้ทรงนิพนธ์ไว้ อาทิ เพลงเดินหน้า เพลงดอกประดู่ และเพลงดาบของชาติ ซึ่งยังคงถูกขับขานเพื่อปลุกจิตวิญญาณและความสามัคคีของเหล่าทหารเรือให้ เป็นหนึ่งเดียว ในการอุทิศตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติและราชนาวีอย่างเต็มกำลังความ สามารถ
         เนื่องในวันอาภากรในปีนี้ กองทัพเรือขอน้อมรำลึกถึงกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ และขอเทิดพระเกียรติคุณ พร้อมทั้งน้อมจิตอธิฐานอัญเชิญดวงพระวิญญาณของพระองค์ ทรงสถิตเป็นมิ่งมงคลและมิ่งขวัญแก่กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ซึ่งมุ่งมั่นที่จะอุทิศตนในการสืบสานพระปณิธานของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ทหารเรืออย่างเต็มกำลังความสามารถ นำความเจริญรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพเรือ ดำรงไว้ซึ่งภารกิจในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสืบไป (ที่มา : สลก.ทร.)

๑๘ - ๑๙ พฤษภาคม ขอเชิญร่วมงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง

กองทัพเรือ ขอเชิญร่วมงานมหกรรมการอนุรักษ์การประกวดพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ชิงถ้วยประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อหารายได้เข้า "กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบ กองทัพเรือ" ซึ่งกองทัพเรือได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของกำลังพลกองทัพเรือ ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนการช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่บุตร - ธิดา ของกำลังพลที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ และให้การช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ โดยช่องทางการบริจาค สามารถบริจาคได้ที่ กรมการเงินทหารเรือ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือ โอนเงินเข้าบัญชีของกองทุนฯ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ ชื่อบัญชี "เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ" เลขที่บัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๗๐๘๗ - ๒
         งานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น ๒ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โดยแบ่งพื้นที่จัดงานเป็นพื้นที่สำหรับการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ การจัดนิทรรศการการปฏิบัติงานในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ การจัดนิทรรศการการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ การจำหน่ายวัตถุมงคลที่กองทัพเรือจัดสร้าง การออกร้านของสมาคมภริยาทหารเรือ และเปิดร้านแผงพระทุกประเภทนำวัตถุมงคลเปิดให้บูชา ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. - ๑๗.๐๐ น. โดยในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ จัดงานเลี้ยงรับรองคณะกรรมการตัดสินและผู้สนับสนุน และการประมูลพระ ระหว่างเวลา ๑๗.๓๐ น. - ๒๒.๐๐ น. และในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เปิดให้ผู้ที่สนใจส่งพระเข้าประกวดตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป และปิดการรับพระเข้าประกวด เวลา ๑๔.๐๐ น. คณะกรรมการตัดสินพระและมอบรางวัลชนะเลิศประเภทต่าง ๆ ในเวลา ๑๖.๐๐ น. และปิดงานเวลา ๑๗.๐๐ น.
          สำหรับรางวัลในการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ ในครั้งนี้จะมีการมอบถ้วยรางวัลให้แก่ ผู้ชนะเลิศในประเภทต่าง ๆ รวม ๓ ประเภท ได้แก่ รางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมคะแนนรวม รางวัลชนะเลิศ การอนุรักษ์ พระยอดนิยม และรางวัลชนะเลิศการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาทั่วไป โดยผู้ชนะเลิศรางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมคะแนนรวม จะได้รับถ้วยรางวัลประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชา ทินัดดามาตุ พร้อมของรางวัลรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า จำนวน ๑ คัน ผู้ชนะเลิศในการประกวด การอนุรักษ์พระยอดนิยม ได้รับรางวัลเกียรติยศผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นเรือดำน้ำจำลองพร้อมของรางวัล ทีวี LCD โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว จำนวน ๑ เครื่อง และผู้ชนะเลิศการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาทั่วไป ได้รับรางวัลเกียรติยศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นพังงาจำลอง พร้อมของรางวัล ทีวี LCD โตชิบา ขนาด ๔๖ นิ้ว จำนวน ๑ เครื่อง ส่วนกติกาการตัดสิน คือ พระที่ส่งเข้าประกวดทุกรายการต้องปราศจากสิ่งห่อหุ้ม คณะกรรมการตัดสินจะทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม การตัดสินถือหลักสากลทั่วไป การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นข้อยุติโดยเด็ดขาด
        ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ และเหรียญที่ระลึก ได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าผ่านประตู สอบถามรายละเอียดการจัดงานได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๗๓๙ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๔๔๓๙ (ที่มา : สลก.ทร.)