วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 "การจะพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้เจริญนั้น จะต้องสร้างและเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนทั้งสิ้น ถ้าพื้นฐานไม่ดีหรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ที่จะเพิ่มเติมเสริมต่อให้เจริญขึ้นไปอีกนั้น ยากนักที่จะทำได้ จึงควรจะเข้าใจให้แจ้งชัดว่า นอกจากจะมุ่งสร้างความเจริญแล้ว ยังต้องพยายามรักษาพื้นฐานให้มั่นคง ไม่บกพร่อง พร้อมๆ กันได้"
          พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๓

เจ้ากรมยุทธการทหาร และ ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด เยี่ยมชมและสังเกตการณ์การฝึกอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่มีปัญหา (NEO)

วานนี้ (๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. พลโท วัลลภ รักเสนาะ เจ้ากรมยุทธการทหาร /ผู้อำนวยการฝึกคอบร้าโกลด์ ๒๐๑๕ และ พลเรือตรี วรรณพล กล่อมแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด/ผู้บัญชาการกองกำลังทางเรือผสมคอบร้าโกลด์ ๒๐๑๕ เยี่ยมชมและสังเกตการณ์การฝึกอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่มีปัญหา (NEO) ของกองกำลังทางเรือผสม และกองกำลังนาวิกโยธินผสมคอบร้าโกลด์ ๒๐๑๕ ณ บริเวณฝูงบิน ๑๐๓ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ
         การฝึกอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่มีปัญหา (NEO) เป็นอีกสาขาหนึ่งของการปฏิบัติการทางทหารที่ไม่ใช่สงคราม (MOOTW) โดยเป็นการปฏิบัติการเพื่อให้ความช่วยเหลือ และรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา อันมีผลสืบเนื่องจากการสู้รบ ความขัดแย้ง หรือสาธารณภัยร้ายแรงต่าง ๆ อาทิ ภัยจากโรคระบาด อุทกภัย เป็นต้น โดยจำลองสถานการณ์การฝึก ฯ ดังกล่าว มีอากาศยานแบบ C 130 ของกองกำลังป้องกันตนเองแห่งชาติญี่ปุ่น จำนวน ๑ ลำ แบ่งออกเป็น ๒ ชุด ได้แก่ ชุดปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมผู้อพยพและชุดระวังป้องกัน และกำลังสนับสนุนทางอากาศ สำหรับการฝึกครั้งนี้ ได้ทำการจัดตั้งศูนย์ควบคุมผู้อพยพ (ECC) จัดแบ่งออกเป็นฐานต่าง ๆ ได้แก่ ฐานต้อนรับลงทะเบียน ฐานตรวจค้นอาวุธ ยาเสพติด ฐานคัดกรองตรวจสุขภาพและคัดกรองประชาชน ฐานการรักษาพยาบาล ฐานการขนส่งและส่งกลับ โดยในปีนี้
         ประเทศญี่ปุ่นได้เข้าร่วมการฝึกด้วย ทั้งนี้ ในการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่มีปัญหาจะทำให้หน่วยต่าง ๆ ที่ร่วมการฝึก ฯ สามารถมองเห็นภาพของการปฏิบัติ การประสานงาน การแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นและนำไปปรับประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้ต่อไป (ที่มา : กอฝ.คอบร้าโกลด์ ๑๕)

กิจการศูนย์กีฬาวังนันทอุทยานกองทัพเรือ เปิดสอนกีฬาเทนนิสและว่ายน้ำภาคฤดูร้อน ประจำปี ๒๕๕๘

กิจการศูนย์กีฬาวังนันทอุทยานกองทัพเรือ จะเปิดสอนกีฬาเทนนิสและว่ายน้ำภาคฤดูร้อน ประจำปี ๒๕๕๘ สำหรับบุตรกำลังพลกองทัพเรือและเยาวชนทั่วไป อายุ ๗ - ๑๗ ปี ณ ศูนย์กีฬาวังนันทอุทยาน กองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคม ถึง ๙ เมษายน ๒๕๕๘ รวม ๑๖ วันทำการ ดังนี้
        - เทนนิส เปิดสอน ๑ รอบ ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐ น. - ๑๐.๐๐ น.
        - ว่ายน้ำ เปิดสอน ๒ รอบ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๑.๐๐ น. และ ๑๔.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.
ค่าใช้จ่ายในการสมัคร บุตรกำลังพลกองทัพเรือ เป็นเงิน ๔๐๐ บาท ส่วนเยาวชนทั่วไป เป็นเงินจำนวน ๘๐๐ บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นาวาโทหญิง สุวรรณา อุมาลี หมายเลขโทรศัพท์ภายในกองทัพเรือ ๕๗๕๘๘ (ที่มา : กิจการศูนย์กีฬาวังนันทอุทยาน ทร.)

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จัดงานการกุศล "PINKLAO Charity 2015" เพื่อหารายได้จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใน ๑ มีนาคม ๒๕๕๘

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ กำหนดจัดงานการกุศล "KINKLAO Charity 2015" ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ น. - ๒๑.๓๐ น. โดยมี พลเรือโท พันเลิศ แกล้วทนงค์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน
        การจัดงานการกุศลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารายได้สมทบทุนในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การพัฒนางานบริการทางการแพทย์ โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ จำนวน ๓ กิจกรรม ได้แก
         - การจัดตลาดนัดดาราบริเวณรอบ ๆ หอพักแพทย์และลานข้างสระน้ำ กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๕.๐๐ น.
         - จัดแข่งขันฟุตบอลดาราระหว่างทีม All Star กับทีม Navy Star ที่สนามกีฬา กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่เวลา ๑๕.๓๐ น. - ๑๗.๓๐ น. โดยมี พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน
         - จัดงานเลี้ยง Inter Table Dinner และ Mini Concert บริเวณสนามหน้าอาคาร กองบัญชาการกรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. - ๒๑.๓๐ น.
นอกจากนี้ ยังได้จัดนิทรรศการความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาศักยภาพในการรักษาพยาบาลและความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางการแพทย์ และให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไป
          ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมงานการกุศลดังกล่าวได้ ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : พร.)

กรมประมง ประกาศปิดอ่าว ๓ เดือน พื้นที่ฝั่งอ่าวไทย ๑๕ กุมภาพันธ์ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ หากพบทำผิดกฎหมายจับกุมทันที

กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุมเข้มรับนโยบายรัฐบาลป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย รวมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรและเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในอ่าวไทย ประกาศปิดอ่าวไทย ระหว่างวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ พร้อมขอความร่วมมือชาวประมงปฏิบัติตามกฎหมาย หากพบทำผิดกฎหมายจับกุมทันที
        กรมประมง ประกาศปิดอ่าว ๓ เดือน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ของทุกปี บริเวณทะเลอ่าวไทยในเขตท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน โดยกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแพร่ขยาย พันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์และสัตว์น้ำวัยอ่อนในท้องทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะ "ปลาทู" ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศที่จำเป็นจะ ต้องดูแลรักษาทรัพยากรเหล่านี้ให้มีอยู่อย่างยั่งยืน
สำหรับเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๐ ได้แก่
          ๑. เครื่องมืออวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกล ยกเว้นเครื่องมืออวนลากที่ใช้ประกอบกับเรือกลลำเดียวที่ความยาวเรือไม่เกิน ๑๖ เมตร ให้ทำการประมงได้เฉพาะในเวลากลางคืน (ตั้งแต่เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น)
          ๒. เครื่องมืออวนติดตามที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมงด้วยวิธีล้อมติดปลาทูหรือด้วยวิธีอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน
          ๓. เครื่องมืออวนติดตามทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมง ยกเว้น เครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่วางเครื่องกลางลำไม่มีเก๋ง ขนาดความยาวเรือไม่เกิน ๑๔ เมตร หรือการใช้เครื่องมืออวนติดตามที่ใช้ประกอบกับเรือยนต์เพลาใบจักรยาว และเครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลและเครื่องมือกว้าน ช่วยในการทำการประมงโดยใช้อวนที่มีขนาดความลึกอวนไม่เกิน ๗๐ ช่องตาอวน ความยาวอวนตั้งแต่ ๔,๐๐๐ เมตร ลงมา ในขณะทำการประมงแต่ละครั้ง ทำการประมงในช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๑๕ เมษายน ถึง ๑๕ พฤษภาคม ของทุกปี
         ๔. เครื่องมืออวนล้อมจับทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมง
         ๕. เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำหนดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงปลากะตัก
         ๖. เครื่องมืออวนรุนที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่มีขนาดความยาวเรือเกินกว่า ๑๔ เมตรขึ้นไป
         หากชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าว ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ ๕,๐๐๐ บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ถึง ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำ
          นอกจากนี้ มาตรการปิดอ่าวไทยในปี ๒๕๕๘ ยังเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผ0ลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ประกอบด้วย ๖ หน่วยงาน ได้แก่ กองทัพเรือ กรมประมง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมศุลกากร ในการตรวจตราและเฝ้าระวังการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย จากการปิดอ่าวในปีที่ผ่านมา พบว่ามีความชุกชุมของสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น สามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างดี และประชาชนมีสัตว์น้ำบริโภคตลอดไป
         จึงขอแจ้งให้ชาวประมงและประชาชนทั่วไปทราบ และขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีประกาศปิดอ่าว ประจำปี ๒๕๕๘ ในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ณ ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร (ที่มา : กรมประมง)