วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรมการขนส่งทางบก เปิดให้บริการรับชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์

กรมการขนส่งทางบก เปิดให้บริการรับชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ผ่าน ตรอ.เพิ่มอีก ๑๙ แห่ง
         กรมการขนส่งทางบก ได้เพิ่มช่องทางการให้บริการ "รับชำระภาษีรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ต" โดยขยายบริการไปยังสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) อีก ๑๙ แห่ง เพื่อเป็นทางเลือกและเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมทั้งเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้สถานตรวจสภาพรถที่มีคุณภาพมาตรฐานในการตรวจสภาพรถให้เป็นหน่วยรับชำระภาษีรถได้อีกด้วย โดยสังเกตได้จากป้ายเครื่องหมายสัญลักษณ์ "หน่วยรับชำระภาษีรถ" ทั้งนี้ เจ้าของรถที่อยู่ในเกณฑ์ต้องตรวจสภาพกับ ตรอ.ก่อนชำระภาษีรถประจำปี ได้แก่ รถเก๋ง รถปิคอัพ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน ๗ ปี และรถจักรยานยนต์ที่อายุการใช้งานเกิน ๕ ปี หรือไม่ได้อยู่ในเกณฑ์สามารถตรวจสภาพและชำระภาษีรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ณ ตรอ.นั้นได้ทันที โดยกรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษี (ป้ายวงกลม) ให้แก่เจ้าของรถทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน ๓ วันทำการ
ประชาชนที่สนใจชำระภาษีผ่าน ตรอ.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ส่วนสถานตรวจสภาพรถ สำนักวิศวกรรมยานยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๗๑ ๘๖๑๒ - ๔ (ที่มา : กรมการขนส่งทางบก)

กรมประมงจัดชุดเฉพาะกิจจับจระเข้หลุดพื้นที่น้ำท่วม

กรมประมงจัดชุดเฉพาะกิจจับจระเข้หลุดพื้นที่น้ำท่วม พบเห็นแจ้งได้ที่ ๐ ๒๕๖๒ ๐๕๔๖
            จากเหตุอุทกภัยส่งผลให้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงบ่อเลี้ยงจระเข้ทำให้จระเข้จำนวนหนึ่งหลุดออกมาสู่พื้นที่ประสบภัย กรมประมงจึงได้จัดหน่วยเฉพาะกิจออกจับและขนย้ายจระเข้ รวมถึงรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน โดยหน่วยดังกล่าวนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาคมส่งเสริมการอนุรักษ์และเพาะเลี้ยงจระเข้แห่งประเทศไทย จะใช้วิธีนำเรือไปจอดซุ่มดูทั้งกลางวันและกลางคืนบริเวณจุดที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านซึ่งได้ผลดี ทั้งนี้ ทางกรมประมงได้เตือนประชาชนอย่าลงเล่นน้ำและให้เพิ่มความระมัดระวัง หากเจอจระเข้หรือเจอกระชั้นชิดให้ใช้ไม้ตีน้ำเพื่อให้จระเข้กลัวและว่ายน้ำหนีไป หรือโทรแจ้งได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๕๖๒ ๐๕๔๖
(ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)

กรมการขนส่งทางบก เตือนรถโดยสารสาธารณะที่ฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสาร

กรมการขนส่งทางบก เตือนรถโดยสารสาธารณะที่ฉวยโอกาสขึ้นค่าโดยสารช่วงน้ำท่วม โทษปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งถูกพักรถ และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ
           เนื่องจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ จังหวัด ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาในการเดินทางของประชาชน บางเส้นทางอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินรถเป็นการชั่วคราวนั้น ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการขนส่งบางรายฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสาร โดยอ้างว่าต้องวิ่งอ้อมไปในระยะทางที่ไกลขึ้น ทั้งที่บางรายมิได้วิ่งผ่านเส้นทางที่ประสบภาวะน้ำท่วมแต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและคุ้มครองประชาชนมิให้ถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดกำชับและเข้มงวดกวดขัน ผู้ประกอบการขนส่งทุกรายห้ามมิให้เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายโดยลำดับอย่างเคร่งครัด โดยเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายในอัตราสูงแต่ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐บาท สั่งพักรถ และหากพบว่ายังมีการกระทำความผิดซ้ำอีก จะสั่งให้ถอนรถออกจากการประกอบการขนส่ง รวมถึงการพิจารณาไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งให้อีกต่อไป
ประชาชนที่ประสบปัญหาการถูกเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ จดรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถ วันและเวลาที่ใช้บริการ แจ้งที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง สำหรับประชาชนที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาติดต่อชำระภาษีรถยังหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก สามารถใช้บริการชำระภาษีรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th หรือสอบถาม Call Center 1584 (ที่มา : กรมการขนส่งทางบก)

กองทัพเรือ เปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

           กองทัพเรือ ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ที่ ศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ฯ กองทัพเรือ ได้ที่ ธนาคารทหารไทย สาขากองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีประเภทออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี ๑๑๕ - ๒ - ๑๔๓๒๒ - ๖ ชื่อบัญชี "ศูนย์รับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและภัยหนาว กองทัพเรือ" และร่วมบริจาคสิ่งของได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการที่
- กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ (ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง) ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๒๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๓๖
- ฐานทัพเรือกรุงเทพ (ตรงข้ามวัดชิโนรส) ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๓๒๗, ๐ ๒๔๑๑ ๓๑๗๕
- กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๕๙๒ และ ๐ ๒๔๗๕ ๓๕๕๕
- โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๙๖๓ และ ๐ ๒๔๗๕ ๓๙๑๘
- หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หมายเลขโทรศัพท์ ๐๓๘-๔๓๑๕๐๒ หรือ ๐๓๘-๔๓๑๔๗๗
สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง นอกจากนี้ กองทัพเรือจัดตั้ง "หน่วยเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางน้ำ" (ฉก.บภ.ทางน้ำ) เพื่อช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขาต่าง ๆ ที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดปทุมธานีถึงจังหวัดสมุทรปราการ หน่วยงานราชการและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๓๑๕, ๐ ๒๔๗๕ ๓๓๑๖, ๐ ๒๔๑๒ ๖๙๖๔ หมายเลขโทรสาร ๐ ๒๔๗๕ ๓๓๑๔ หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ๐๘๐ ๘๐๘ ๐๔๘๘ และ ๐๘๑ ๘๓๕ ๕๒๗๓ (ที่มา : สลก.ทร.)

ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ภาคใต้

         วันนี้ (๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔) เวลา ๐๙.๓๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ ณ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน โดยมี พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และข้าราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ
การตรวจเยี่ยมผู้บัญชาการทหารเรือในครั้งนี้ เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการปฏิบัติภารกิจ พร้อมกับให้โอวาทแก่กำลังพลให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจและสัมพันธ์อันดีกับประชาชนในพื้นที่ และได้กล่าวชื่นชมที่กำลังพลได้สร้างผลงานการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชนจนได้รับการยอมรับ ประชาชนมีความเชื่อมั่นและให้ความร่วมมือกับทหารเรือเป็นอย่างดี จากนั้น ได้มอบของที่ระลึกให้แก่หน่วยต่าง ๆ (ที่มา : สลก.ทร.)