วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กำหนดสวดพระอภิธรรมศพและพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี บรรเลง สุวรรณพงษ์

 ขอเชิญผู้รู้จักคุ้นเคยร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ พลเรือตรี บรรเลง สุวรรณพงษ์ ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ ณ ศาลา ๘ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ ตั้งแต่ วันนี้ ถึงวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.๓๐ น. และกำหนดพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. (ที่มา : ศปก.ทร.)

เมตตามหานิยม

เมื่อพูดถึงคำว่า "เมตตามหานิยม" ส่วนใหญ่มักจะหมายถึงวัตถุมงคลที่ผู้ใดได้ครอบครองแล้ว จะส่งผลให้มีคนรักคนหลงนิยมยกย่องจึงพากันแสวงหาวัตถุมงคลที่เชื่อว่าจะส่ง ผลให้เป็นที่นิยมยกย่องของ ผู้คนโดยทั่วไป โดยลืมความหมายที่แท้จริงของเมตตามหานิยมว่าแท้ที่จริงแล้วคำว่า "เมตตามหานิยม" คือ การทำให้ประชาชนนิยมชมชอบ ด้วยการประพฤติตนอยู่ในหลักเมตตาธรรมในทางศาสนานั่นเองในทางพระพุทธศาสนา มีคำสอนที่เกี่ยวกับเมตตามหานิยมอยู่หลายประการ แต่มีความหมายแตกต่างกัน อีกทั้งมีขอบเขตกว้างขวางกว่าเมตตามหานิยมตามที่คนทั่วไปเข้าใจกัน โดยมีหลักคำสอนว่าการที่จะให้ใคร ๆ นิยมชมชอบนั้นจะต้องประกอบด้วย
       - รู้เสียสละ เกื้อกูลกันด้วยวัตถุสิ่งของ ด้วยคำแนะนำปฏิบัติตนให้เป็นเพื่อนบ้านที่น่าไว้วางใจและเป็นที่พึ่งได้ในคราวทุกข์ยาก
       - การมีจิตเมตตาต่อกัน พูดจาปราศรัยกันด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน มีประโยชน์ ถูกกาลเทศะ ไม่ประทุษร้าย ไม่ให้ร้ายกันด้วยวาจา
       - มีจิตอาสา ประพฤติแต่สิ่งที่มีประโยชน์แก่คนอื่น โดยไม่มุ่งเน้นประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง
       - ความเสมอต้นเสมอปลาย คือ การประพฤติธรรมะ ๓ ข้อข้างต้นให้สม่ำเสมอ ประพฤติให้เป็นปกตินิสัย มีจำกัดอยู่เฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
         พุทธศาสนามองว่า เมื่อคนเราได้ปฏิบัติตามหลักการสี่ข้อข้างต้นนี้แล้ว คนในสังคมก็จะเกิดความรัก ความเอ็นดูเกื้อกูลพูดจากันด้วยความรัก รู้จักประสานประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและคนอื่นอย่างเสมอต้นเสมอปลาย จะก่อให้เกิดกระบวนการที่ทำให้คนในสังคมเป็นสุขอย่างยั่งยืนเข้าลักษณะของ "เมตตามหานิยม" โดยไม่ต้องพึงพาวัตถุนิยมแบบใดๆ ในโลกอีกเลย (ที่มา : พร.)

กรมสวัสดิการทหารเรือ จัดเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำในการจัดทำบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการ

วันนี้ (๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖) และ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ กรมสวัสดิการทหารเรือ จัดเจ้าหน้าที่จาก แผนกทหารผ่านศึก กองการสงเคราะห์ ไปให้คำแนะนำการจัดทำบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ ๓ และ ๔ ในพื้นที่สัตหีบ
        สำหรับพื้นที่อื่น ๆ สามารถติดต่อขอทำบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการ ได้ที่แผนกทหารผ่านศึก กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารเรือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
         เอกสารและหลักฐานการขอทำบัตรประจำตัว ฯ ประกอบด้วย- คำสั่งปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดน ๘ เดือนขึ้นไป หากไม่ครบ ๘ เดือน ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ผู้บังคับกองพันขึ้นไปรับรอง โดยทำเป็นหนังสือรับรองว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย หรือหนังสือรับรองวันทวีคูณ
          - คำสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่องให้นายทหารออกจากราชการเนื่องจากเกษียณอายุราชการ
          - สำเนาราชกิจจานุเบกษาเหรียญพิทักษ์เสรีชน หรือเหรียญราชการชายแดน
          - สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ
          - รูปถ่ายสีธรรมชาติหรือขาว - ดำ ขนาด ๒.๕ x ๓ เซนติเมตร จำนวน ๓ รูป เครื่องแบบชุดหมายเลข ๑
          - หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล (กรณีเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล) หนังสือรับรองการเป็นบุคคลคนเดียวกันจากฝ่ายปกครองออกให้ หรือจากหน่วยต้นสังกัด (กรณีชื่อตัว - ชื่อสกุลไม่ตรงกัน)
         สอบถามรายละเอียดการขอรับคำร้องขอมีบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกษานอกประจำการ ได้ที่ แผนกทหารผ่านศึก กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๓๒๘๐ ในวันและเวลาราชการ (ที่มา : สก.ทร.)

ขอเชิญร่วมการแข่งขันยิงปืนการกุศล รายการ "MARINES SHOOTING CHAMPIONSHIP 2013" ประจำปี ๒๕๕๖

หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขอเชิญร่วมยิงปืนการกุศล รายการ "MARINES SHOOTING CHAMPIONSHIP 2013" ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประจำปี ๒๕๕๖ ในวันที่ ๖ และ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ สนามยิงปืนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระอัธยาศัย และหาทุนทรัพย์ปรับปรุงสนามยิงปืน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินกองทัพเรือ ให้เป็นสนามยิงปืนที่มีมาตรฐานสำหรับกำลังพลในสังกัด รวมทั้งให้นักกีฬายิงปืนได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินหน่วยงานองค์กร และประชาชนทั่วไป
         สำหรับการแข่งขันยิงปืนการกุศล ฯ มีประเภทการแข่งขัน ประกอบด้วย ปืนสั้นชาวบ้าน ปืนสั้นยิงเร็ว ปืนสั้นสปีดอีเวนท์ และประเภทลูกซองสปีด ประเภทปืน ได้แก่ รวมปืน ออโต รีวอลเวอร์ ๙ มิลลิเมตร และปั๊มแอ็คชั่น รวมรางวัลการแข่งขัน ๗๔ รางวัล
          ในการแข่งขัน ฯ ในครั้งนี้ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้ขอพระราชทานถ้วยรางวัลของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มอบให้แก่ผู้ชนะเลิศ จำนวน ๕ รางวัล นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมสำหรับคณะผู้ติดตามนักกีฬาในห้วงการแข่งขัน ให้มีการเยี่ยมชมสถานที่และหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ได้แก่ ไหว้พระสักการะหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร เยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร หรือเรือหลวงลำอื่น ๆ กองเรือยุทธการ เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ - อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน และหาดเตยงาม หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
          ขอเชิญผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กิจการสนามยิงปืน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๓๘๔๓ ๒๑๔๖ หรือ ๐๘๔ ๓๔๘ ๑๘๐๒ หรือ E-mail : Marines_ShootingRange@hotmail.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ที่มา : นย.)

เรือฟริเกต HMAS Ballarat ของออสเตรเลียเยือนเวียดนาม

เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ มีรายงานถ้อยแถลงของ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำเวียดนาม ว่า เรือฟริเกต HMAS Ballarat ของ ออสเตรเลีย พร้อมเจ้าหน้าที่และลูกเรือ ๑๘๔ นาย เยือนนครโฮจิมินห์ เวียดนาม ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือและความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ อนึ่ง ออสเตรเลียให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมนายทหารเวียดนามกว่า ๑,๓๐๐ นาย และช่วยเวียดนามเตรียมการปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังพลรักษาสันติภาพ (ที่มา : ขว.ทร.)

กองทัพเรือ จัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึกผสม SEACAT 2013

กองทัพเรือสหรัฐ ฯ และกองทัพเรือภูมิภาคเอเซียน กำหนดทำการฝึกผสม SEACAT ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖ โดยกองทัพเรือจัดกำลังพลไปเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้จำนวน ๒ นาย ในตำแหน่ง LIAISON NAVAL OFFICER
         การฝึกผสม SEACAT เป็นการฝึกผสมทางเรือในลักษณะพหุภาคี มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงทางทะเล เน้นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในทะเล ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศ และการที่กองทัพเรือจัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มพูน องค์ความรู้ ทักษะและความชำนาญในการปฏิบัติการรักษาความมั่นคงทางทะเลให้กับกำลังพล รวมทั้งเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือประเทศ ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการฝึก (ที่มา : ยก.ทร.)

กองทัพเรือ จัดการประชุมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ครั้งที่ ๔

 กองทัพเรือ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ครั้งที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ สถานพักฟื้นข้าราชการกองทัพเรือส่วนกลาง (หัวหิน) อาคารนาวีภิรมย์ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ โรงแรมรีเจนท์ ชะอำบีช รีสอร์ท อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
         การประชุม ศรชล.ในครั้งนี้ เป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานหลักใน ศรชล.และแผนปฏิบัติงานด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถในการประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งรับทราบแนวทางและข้อเสนอแนะจากการประชุม ผู้บริหารระดับสูง (Senior Officer Meeting : SOM) เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ ใน ศรชล. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ตลอดจนจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับบทสรุปแนว ทางแก้ปัญหาความมั่นคงทางทะเลที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ และการดำเนินการในการส่งเสริมบทบาท ศรชล.ให้เป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเลของไทย
        ทั้งนี้ การประชุมได้จัดแบ่งเป็น การประชุมผู้บริหารระดับสูงและระดับผู้ปฏิบัติ โดยจัดให้มีการบรรยายพิเศษหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
         - ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พุทธศักราช ๒๕๔๗ และแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๕
         - ปัญหาการค้ามนุษย์ในทะเล และแนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงานในการตรวจสอบ
         - การจดทะเบียนเรือ และการออกอาชญาบัตรและการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
         - การป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน" "ปัญหาการค้ามนุษย์ในทะเล และการแก้ไขปัญหา
         - ปัญหาการจดทะเบียนเรือ/การออกอาชญาบัตร เรือประมงสองสัญชาติ และการแก้ไขปัญหา
         นอกจากนี้ จัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง ฯ ระหว่างหน่วยงานหลัก และปิดท้ายด้วยการแถลงผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงและการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ "บทสรุปแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงทางทะเลที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ และการดำเนินการในการส่งเสริมบทบาท ศรชล. ให้เป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเลของไทย" (ที่มา : ยก.ทร.)

พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา เรือหลวงกระบี่

วันนี้ (๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๙.๓๐ น. พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี กำหนดจัดพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา(เรือหลวงกระบี่) ณ ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         เรือหลวงกระบี่ เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ที่กองทัพเรือได้รับอนุมัติจากกระทรวงกลาโหมให้เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีวางกระดูกงู เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ และเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
         การจัดหาเรือหลวงกระบี่เข้าประจำการ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนากำลังรบตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ โดยแบบของเรือหลวงกระบี่ กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแบบเรือและพัสดุ จาก บริษัท BVT Surface Fleet จำกัด ประเทศอังกฤษ ส่วนการบริการทางเทคนิคในการติดตั้ง การเชื่อมต่อ การทดสอบ ทดลองอุปกรณ์ ตลอดจนการสร้างเรือในสาขาต่าง ๆ นั้น ได้ลงนามกับ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด โดย อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ได้ดำเนินการประกอบตัวเรือ การต่อบล็อคเรือ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ของเรือ จนแล้วเสร็จ และได้ดำเนินการทดสอบระบบต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยสมบูรณ์ ด้วยศักยภาพและความรู้ความสามารถของกำลังพลกองทัพเรือในการสร้างเรือขนาดใหญ่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง
          สำหรับคุณลักษณะของเรือหลวงกระบี่ มีความยาวตลอดลำ ๙๐.๕๐ เมตร กว้าง ๑๓.๕๐ เมตรความสูงที่กราบเรือ ๗.๗๐ เมตร กินน้ำลึก ๓.๘๐ เมตร ระวางขับน้ำเต็มที่ ๑,๙๖๙ ตัน ความเร็วสูงสุด ๒๓ นอต รัศมีทำการที่ความเร็ว ๑๕ นอต ได้ถึงระยะ ๓,๕๐๐ ไมล์ทะเล อาวุธประจำเรือที่สำคัญ คือ ปืนขนาด ๗๖ มิลลิเมตร แบบอัตโนมัติ จากบริษัท Oto Melara S.P.A. ประเทศอิตาลี จำนวน ๑ กระบอก และปืนขนาด ๓๐ มิลลิเมตร แท่นเดี่ยว จากบริษัท MSI - Defence Systems Limited ประเทศอังกฤษ จำนวน ๒ กระบอก ระบบควบคุมบังคับบัญชาและตรวจการณ์ จำนวน ๑ ระบบ จาก บริษัท Thales Nederland B.V. ราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ กำลังพลประจำเรือ ๘๙ นาย นอกจากนั้น บริเวณดาดฟ้าเรือสามารถจอดเฮลิคอปเตอร์ แบบซูเปอร์ลิงค์ ซึ่งมีประจำการในกองการบินทหารเรือ ได้อีก ๑ ลำ ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะการตรวจการณ์ในทะเลให้ไกลขึ้นอีกระดับหนึ่ง (ที่มา : สลก.ทร.)