วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง ขอบคุณความทุกข์

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "ขอบคุณความทุกข์" ที่จะทำให้ได้ศึกษาหลักสูตรการพัฒนาชีวิต เพื่อเอาชนะความทุกข์ทั้งปวงได้อย่างไม่หวาดหวั่น
         นักธุรกิจหนุ่มคนหนึ่งมีชีวิตที่ประสบกับความทุกข์เป็นอย่างมาก เพราะมารับช่วงธุรกิจต่อจากบิดาในช่วงที่กำลังประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก มีหนี้สินมากมายหลายล้านบาท ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ธุรกิจฟื้นตัวไม่มีเงินที่จะใช้หนี้ ช่วงนั้นทุกข์หนักถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าภรรยาและบุตรจะต้องมารับภาระหนี้สินต่อไป วันหนึ่งมีเพื่อนชวนไปงานทอดผ้าป่าที่วัดในต่างจังหวัด จึงเดินทางไปเพียงเพราะอยากหนีความจำเจของชีวิตเท่านั้น
           ในงานทอดผ้าป่า หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้แสดงธรรมสั้น ๆ แต่ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจ ประหนึ่งว่า ท่านกำลังคุยกับนักธุรกิจหนุ่มคนนั้น สรุปใจความว่า การที่พระพุทธเจ้าประสบความสำเร็จจนสามารถตรัสรู้ได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากความทุกข์ซึ่งพระองค์ค้นพบทางออก สิ่งที่เรียกว่าความทุกข์นั้น พระพุทธองค์แสดงไว้ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ประสบสิ่งที่ไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ พลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์" เป็นต้น ความทุกข์นี้จัดเป็นภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ในภยสูตร อังคุตตรนิกายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยสี่ประการนี้ คือ ชาติภัย ชราภัย พยาธิภัย และมรณภัย" ทั้งสี่ประการนี้จัดเป็นความทุกข์อย่างยิ่งเป็นธรรมดาของทุกชีวิต ไม่ประสบในวันนี้ก็ต้องประสบในวันหน้าสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์" เป็นต้น ความทุกข์นี้จัดเป็นภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ในภยสูตร อังคุตตรนิกายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัยสี่ประการนี้ คือ ชาติภัย ชราภัย พยาธิภัย และมรณภัย" ทั้งสี่ประการนี้จัดเป็นความทุกข์อย่างยิ่งเป็นธรรมดาของทุกชีวิต ไม่ประสบในวันนี้ก็ต้องประสบในวันหน้า
          เมื่อเราเกิดมาในโลกนี้แล้วจึงปฏิเสธทุกข์ไม่ได้ แม้จะไม่อยากพบประสบกับความทุกข์เราก็หนีไม่พ้น มนุษย์เรานั้นหนีแก่ไม่ได้ หนีตายไม่ได้ ต้องทนกับสิ่งที่ไม่พอใจ ต้องทำใจกับสิ่งที่ไม่อยากมี พุทธศาสนาสอนให้มนุษย์กล้าเผชิญกับความจริงด้วยสติ แก้ปัญหาด้วยปัญญา เพราะความทุกข์นั้นมีอยู่ประจำโลก มีตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมายที่เคยประสบกับความทุกข์ยากลำบาก มาก่อน และสามารถพลิกชีวิตมาเป็นมหาเศรษฐีได้
           ดังนั้น เมื่อใดที่ประสบทุกข์ จงขอบคุณความทุกข์นั้นที่ทำให้ได้ศึกษาหลักสูตรการพัฒนาชีวิต เพื่อเอาชนะความทุกข์ทั้งปวงได้อย่างไม่หวาดหวั่น แล้วใช้ปัญญาเป็นอาวุธในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ก็จะทำให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างไม่สิ้นหวัง เข้าลักษณะ "ทุกข์แต่ไม่ท้อ" นั่นเอง (ที่มา : ยศ.ทร.)

ขอเชิญชมสารคดีกองทัพเรือ ชุด "ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ทะเล" ทุกวันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ ทางไทยพีบีเอส

ขอเชิญชวนข้าราชการ ทหาร ลูกจ้างและครอบครัว ติดตามชมสารคดีกองทัพเรือ ชุด "ตั้งแต่ยอดเขาจนถึงใต้ทะเล" โดยเนื้อหาเกี่ยวกับ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การอนุรักษ์หมู่เกาะและอื่น ๆ โดยองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยได้เคยออกอากาศแล้วในปี ๒๕๕๖ จำนวน ๓๐ ตอนความยาวตอนละ ๕ นาที และได้พิจารณานำมาออกอากาศซ้ำในวันพฤหัสบดี วันศุกร์ ระหว่างเวลา ๒๓.๒๕ น. - ๒๓.๓๐ น. และในวันเสาร์ เวลา ๑๕.๕๕ น. - ๑๖.๐๐ น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ที่มา : กพร.ทร.)

รองผู้บัญชาการทหารเรือ ประธานการประชุมผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ ครั้งที่ ๒

 วันนี้ (๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗) เวลา ๑๓.๓๐ น. พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานการประชุม ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ ครั้งที่ ๒ ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน
        การประชุมผู้บังคับบัญชาระดับสูงในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ ได้รับทราบผลการดำเนินการฝึกในห้วงที่ผ่านมา และความพร้อมในการฝึกในห้วงถัดไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการวางแผนเผชิญสถานการณ์วิกฤติที่หน่วยรับการฝึกต่าง ๆ กำลังดำเนินการอยู่ โดยกำหนดพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ บริเวณหน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ที่มา : ยก.ทร.)

หมู่เรือของกองทัพเรือจีน เสร็จสิ้นการฝึกในมหาสมุทรอินเดียและมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก

  เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีรายงานว่า หมู่เรือของกองทัพเรือจีน จำนวน ๓ ลำ ประกอบด้วยเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ Changbaishan และเรือพิฆาตอื่น จำนวน ๒ ลำ เสร็จสิ้นการฝึกในมหาสมุทรอินเดียและมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวัน ตก โดยผ่านช่องแคบลอมบอกและทะเลจีนใต้ ก่อนมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางฟิลิปปินส์ เป็นการแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของกองทัพเรือจีน ในการเดินทางระยะไกลทั้งนี้ หมู่เรือจีนไปถึงมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ เพื่อฝึกต่อต้านโจรสลัดฝึกปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ รวมถึงการควบคุมความเสียหาย (ที่มา : ขว.ทร.)

กรมอู่ทหารเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อเป็นพนักงานราชการ จำนวน ๔๑ อัตรา

กรมอู่ทหารเรือ มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลพลเรือนเพื่อเป็นพนักงานราชการ จำนวน ๔๑ อัตรา ระยะเวลาการจ้างในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ เพื่อปฏิบัติงานใน ๓ พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑๖ อัตรา พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน ๑๘ อัตรา และพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน ๗ อัตรา โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด อายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน ๓๕ ปีบริบูรณ์ นับถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ เพศชาย ต้องผ่านการคัดเลือกทหารกองประจำการ และหมดข้อผูกพันตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช ๒๔๙๗ แล้ว ในกรณีที่เป็นทหารกองประจำการจะต้องมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัดว่าเป็นทหาร กองประจำการและจะครบกำหนดปลดประจำการไม่เกิน ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗
         สนใจขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ แผนกแรงงาน กองกำลังพล กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ ๑๐ - ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น. (เว้นวันหยุดราชการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๑๕๒ (ที่มา : อร.)

กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ภัยคุกคามรูปแบบใหม่กับการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล" ระหว่าง ๖ - ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ภัยคุกคามรูปแบบใหม่กับการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล" ระหว่างวันที่ ๖ - ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุม ๕๐๔ อาคารสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
การสัมมนาทางวิชาการในเรื่องดังกล่าว          มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของภัยคุก คามรูปแบบใหม่กับผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลและพิจารณากำหนดบทบาทของกองทัพ เรือในการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลดังกล่าว ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่กำลังพลผู้ร่วมสัมมนา อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานร่วมกัน โดยการสัมมนาในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ จะเป็นลักษณะการอภิปรายเป็นคณะ ในหัวข้อ "ภัยคุกคามรูปแบบใหม่กับผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล" โดย พลเรือตรี จุมพล ลุมพิกานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ร่วมกับ นายอนุสิษฐ์ คุณากร รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ เป็นการสัมมนาระดมความคิดเห็น และเพื่อให้สามารถระดมความคิดเห็นและประสบการณ์จากหน่วยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งกลุ่มสัมมนาในหัวข้อ "กองทัพเรือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในอนาคต" จากนั้นเป็นการแถลงผลการสัมมนา (ที่มา : ยศ.ทร.)

ทัพเรือภาคที่ ๑ จัดกิจกรรมอบรมเยาวชนป้องกันยาเสพติด ครั้งที่ ๒

ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ทัพเรือภาคที่ ๑ กำหนดจัดกิจกรรม อบรมเยาวชนป้องกันยาเสพติด ครั้งที่ ๒ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ณ โรงเรียนแหลมงอบวิทยาคม ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ระหว่างวันที่ ๖ - ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
         การจัดกิจกรรมการอบรมเยาวชนป้องกันยาเสพติด ในครั้งนี้ เพื่อให้ความรู้ ปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนในพื้นที่ได้ทราบถึงพิษภัยและโทษของยาเสพติด และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการรวมกลุ่มเล่นกีฬา กิจกรรมดังกล่าวจัดให้มีการบรรยายเรื่อง "โทษภัยและการปฏิบัติเพื่อห่างไกลยาเสพติด" และการแข่งขันกีฬา เฮฮา นาวี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โรงเรียนแหลมงอบวิทยาคม โดยจะมีพิธีเปิดการอบรมในวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๗ มี พลเรือตรี บรรพต เกิดภู่ เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นประธานในพิธีเปิด ฯ และมีผู้นำท้องถิ่น ประกอบด้วย นายอำเภอแหลมงอบ และนายกเทศมนตรีตำบลแหลมงอบ เข้าร่วมพิธี (ที่มา : ทรภ.๑)

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๒๓ ความว่า
         "จะทำงานทำการอะไรก็ตาม ถ้าทำด้วยร่างกายมันก็เมื่อยกาย แต่ถ้าทำด้วยใจ จะว่าเมื่อยใจ มันหนักใจ มันเหนื่อยใจ มันเป็นไปได้ ฉะนั้น การทำงานทำการถ้าทำด้วยความร่าเริงใจที่จะทำงานทำการ ความเมื่อยนั้นจะหมดไป ความเหนื่อยจะไม่มี หรือมีแล้วเราก็ไม่รับ เพราะว่าความเมื่อยของกายความเหนื่อยของใจนั้นมันมีเสมอ แต่ถ้าเราไม่รับมันจะไปไหน มันก็ไม่มี มันเกิดเมื่อยขึ้นมาแล้วก็หายไป ฉะนั้น การที่จะทำงานให้ดีก็ต้องมีความร่าเริง ความตั้งใจที่จะทำ เมื่อมีความตั้งใจแล้ว ต้องมีความอดทนเหนียวแน่น"