วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เกาหลีเหนือประกาศจะโจมตีทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้

เมื่อ ๒๔ พ.ย.๕๔ มีรายงานจาก สนข.ของเกาหลีเหนือว่า เกาหลีเหนือพร้อมจะโจมตีทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ทันที หากมีกระสุนของเกาหลีใต้ตกเข้ามาในดินแดนเกาหลีเหนือ รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้จัดการฝึกทางทหารเต็มรูปแบบใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือด้านทะเลเหลืองในวันครบรอบ ๑ ปีที่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้เมื่อ ๒๓ พ.ย.๕๓ ทำให้ทหารเรือ ๒ นาย และพลเรือน ๒ คนเสียชีวิต

(ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ และ www.time.com)

รัสเซียอาจถอนตัวจากข้อตกลงลดอาวุธกับสหรัฐฯ

เมื่อ ๒๔ พ.ย.๕๔ ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย แถลงว่า รัสเซียอาจถอนตัวออกจากสนธิสัญญาลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ที่ทำไว้กับสหรัฐฯ ที่รัสเซียให้สัตยาบันเมื่อปี ๒๕๕๔ หากสหรัฐฯ ประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธในโปแลนด์หรือโรมาเนีย และรัสเซียอาจดำเนินมาตรการตอบโต้ทางทหาร ด้วยการนำขีปนาวุธรุ่นใหม่เข้าประจำการในเขตคาลินินกราด ของรัสเซีย อนึ่ง ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศแผนดังกล่าวหลังจาก กต.สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามที่มากขึ้นจากอิหร่านที่มีต่อพันธมิตรของสหรัฐฯ แต่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย

(ที่มา : สำนักข่าวไทย)

กทม.เลื่อนเปิดเทอม ๗ เขต ไป ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๔

         กรุงเทพมหานคร เลื่อนเปิดภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ในโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม เป็นวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ ในพื้นที่ ๗ เขต ได้แก่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม เขตบางแค เขตหลักสี่ และ เขตบางบอน ที่เหลือ ๔๓ เขต เปิดวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๔
ทั้งนี้ ให้มีการจัดการเรียนการสอนชดเชย เพื่อให้นักเรียนมีเวลาเรียนครบตามโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา โดยระดับประถมศึกษาสอนชดเชยตอนเย็นหลังเวลาเลิกเรียนปกติ ๑ ชั่วโมง ทุกวัน เป็นเวลา ๑๒ สัปดาห์ และจัดสอนชดเชยในวันเสาร์ วันละ ๕ ชั่วโมง และวันอาทิตย์วันละ ๕ ชั่วโมง ส่วนระดับมัธยมศึกษาให้สอนชดเชยตอนเย็น หลังเลิกเรียนปกติ ๑ ชั่วโมง ทุกวัน ๑๒ สัปดาห์ และจัดเรียนชดเชยในวันเสาร์ วันละ ๗ ชั่วโมง และวันอาทิตย์วันละ ๕ ชั่วโมง
สำหรับอีก ๔๓ เขตที่เหลือ สามารถเปิดภาคเรียนได้ในวันที่ ๖ ธันวาคม และต้องมีการจัดการเรียนการสอนชดเชยเช่นกัน เพื่อให้นักเรียนมีเวลาเรียนครบตามโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรสถานศึกษา โดยระดับประถมศึกษาให้สอนชดเชยตอนเย็นหลังเวลาเลิกเรียนปกติ ๑ ชั่วโมง ทุกวัน เป็นเวลา ๑๒ สัปดาห์ และจัดสอนชดเชยในวันเสาร์ วันละ ๕ ชั่วโมง ส่วนระดับมัธยมศึกษาให้สอนชดเชยตอนเย็น หลังเลิกเรียนปกติ ๑ ชั่วโมง ทุกวัน ๑๒ สัปดาห์ และจัดเรียนชดเชยในวันเสาร์ วันละ ๗ ชั่วโมง (ที่มา : กทม.)

กองทัพเรือจัดกิจกรรม "ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน" เฉลิมพระเกียรติ

        กองทัพเรือ จัดกิจกรรม "ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน" เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ หอประชุมกองทัพเรือ ในวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น. โดยมี พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการ ทหารเรือ เป็นประธานในพิธี ฯ มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการกองทัพเรือ เข้าร่วมกิจกรรม
กิจกรรม "ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน" เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีนี้ ประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล การปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด การบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และการบรรยายพิเศษ เรื่อง "การบริหารจัดการน้ำ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
ขอเชิญชวนข้าราชการร่วมกิจกรรม "ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน" ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว (ที่มา : กพร.ทร.)

มีผู้ลี้ภัยทางทะเลเข้าไปยังออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพิ่มขึ้น

         เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นายคริส โบเวน รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง ออสเตรเลีย แถลงว่า จำนวนของผู้ลี้ภัยทางทะเลเข้าไปยังออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพิ่มขึ้น ถึง ๖๘๐ คน และนับเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลที่ไม่สามารถทำข้อตกลงกับมาเลเซียเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเข้าเมืองทางทะเลโดยผิดกฎหมายหลังจากเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ ศาลออสเตรเลียตัดสินว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจที่จะส่งผู้ลี้ภัยไปยังประเทศที่ ๓ ซึ่งไม่ได้รับการรับประกันด้านสิทธิมนุษยชน (ที่มา : ขว.ทร.)

คลื่นเซาะหาดชลาทัศน์พังอีกกว่า ๑๐๐ เมตร สนล้มเพิ่มอีก ๑๐ ต้น

       คลื่นกัดเซาะชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา เสียหายหนัก โดยกินพื้นที่ชายหาดกว่า ๑๐๐ เมตร ต้นสนล้มอีก ๑๐ ต้น จากเดิมที่เพิ่งล้มไป ๑๐ ต้น เทศบาลนครสงขลา เร่งหาทางป้องกัน
จากสภาพคลื่นลมในทะเล อ่าวไทยที่ยังคงมีกำลังแรง เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พักปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีคลื่นสูง ๒ - ๓ เมตร ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา จังหวัดสงขลา มากขึ้นอีก โดยคลื่นได้กัดเซาะหาดชลาทัศน์ ทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ที่อยู่ริมชายหาดล้มเพิ่มอีก ๑๐ ต้น จากที่ถูกคลื่นซัดล้มไปก่อนหน้านี้แล้ว ๑๐ ต้น แม้ทางเทศบาลนครสงขลาจะนำกระสอบทรายไปวางป้องกัน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแรงของคลื่นได้ นอกจากนี้ คลื่นยังได้กัดเซาะพื้นที่ชายหาดเสียหายระยะทางกว่า ๑๐๐ เมตร และลึกจนใกล้ถึงแนวถนนชลาทัศน์ ซึ่งเป็นถนนเลี่ยงเมืองเลียบชายทะเลด้วย
เบื้องต้นทางเทศบาลนครสงขลา ได้หาทางป้องกันไม่ให้คลื่นซัดต้นสนที่อยู่ริมชายหาดล้มและทำให้แนวชายหาดเสียหายเพิ่มขึ้นอีก โดยจะนำเชือกมาผูกยึดต้นสนที่อยู่ติดทะเลและเสี่ยงที่จะล้ม โยงกับต้นสนที่อยู่ห่างชายหาด และจะนำกระสอบทรายมาเพิ่มในจุดที่ถูกคลื่นกัดเซาะ พร้อมกับแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวเลี่ยงลงเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาดชลาทัศน์ในระยะนี้ (ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)

หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ นำกำลังพลลงพื้นที่ลุยน้ำช่วยชาวบ้าน

หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ นำกำลังพลลงพื้นที่ลุยน้ำช่วยชาวบ้านในเขต อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
         กองทัพเรือ โดย นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ จังหวัดนราธิวาส พร้อมกำลังพล นำถุงยังชีพจำนวนหนึ่ง เรือท้องแบน และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพาดผ่านภาคใต้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประชาชน ๓ หมู่บ้าน กว่า ๕๐๐ ครัวเรือน ต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่ระดับน้ำเข้าท่วมสูงเฉลี่ย ๘๐ - ๑๒๐ เซนติเมตร
อย่างไรก็ตาม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ จะนำทหารช่างออกซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะหลังคาที่ถูกกระแสลมที่พัดแรงจนกระเบื้องปลิวจำนวนหลายหลังเช่นกัน สำหรับประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่มและใกล้แม่น้ำลำคลองขอให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและยกสิ่งของมีค่าขึ้นในที่สูง เพื่อป้องกันทรัพย์สินเสียหาย พร้อมทั้งระวังลมกรรโชกแรงซึ่งทำให้ต้นไม้ โค่นล้มแล้วหลายจุด หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำเป็นต้องอพยพ ให้แจ้งไปยังหน่วยเฉพาะกิจทหาร ที่อยู่ใกล้บ้านได้ทุกแห่งทันทีพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีต้อนรับกำลังพล

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีต้อนรับกำลังพลหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด สัตหีบ
         วันนี้ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเรือเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีต้อนรับกำลังพลหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒ กลับจากการปฏิบัติราชการในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ชุดที่ ๒ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการ ทหารเรือ นายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือ และข้าราชการ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยกองทหารเกียรติยศ
กองทัพเรือจัดกำลังเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามโจรสลัดบริเวณอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย เป็นครั้งที่ ๒ ตามที่รัฐบาลมอบหมาย หลังจากที่การปฏิบัติหน้าที่ของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๑ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยภารกิจในครั้งที่ ๒ นี้ กำลังที่เข้าร่วมปฏิบัติการประกอบด้วย เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงนราธิวาส พร้อมเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ ๒๑๒ และชุดซีลทีม จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดยมี พลเรือตรี ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำเสนาธิการทหารเรือ เป็น ผู้บังคับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด นาวาเอก ภราดร พวงแก้ว รองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เป็น ผู้บังคับหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัด โดยเรือทั้งสองลำ พร้อมกำลังพลของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดจำนวน ๓๖๘ นาย ได้ออกเดินทางจาก ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ มีห้วงระยะเวลาปฏิบัติภารกิจจำนวน ๑๔๐ วัน หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้สร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการธุรกิจพาณิชย์นาวีของไทย รวมถึงส่งเสริมศักยภาพ การแข่งขันทางการค้าและเศรษฐกิจกับต่างประเทศ
การส่งกำลังเข้าร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือของนานาชาติ ถือเป็นการแสดงออกถึงการให้ความร่วมมือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลร่วมกับนานาชาติ อันจะส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีโลก อันจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยเป็นส่วนรวม ดังนั้น การปฏิบัติการครั้งนี้จึงเป็นอีกบทบาทหนึ่งของกองทัพเรือที่สามารถใช้ในการสนับสนุนนโยบายของรัฐให้เป็นรูปธรรม (ที่มา : สลก.ทร.)