วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557
เวียดนามยืนยันรายงานกรณีจีนจะสร้างประภาคารในทะเลจีนใต้
พิธีเปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗
คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่จะต้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศโดยรวม การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการนำพาประเทศไทย ให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนที่จะต้องส่งเสริมและยกระดับการศึกษาในทุกช่วงวัย ให้ทุกส่วนบูรณาการทั้งการศึกษาและวิทยาศาสตร์ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ ในครั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติสนับสนุนให้จัดขึ้นในส่วนภูมิภาคเป็นครั้งแรก เพื่อกระจายความรู้สู่ภูมิภาค และจะสนับสนุนการจัดกิจกรรมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศต่อไป (ที่มา : สลก.ทร.)
บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "กาลามสูตร ๑๐ บวก ๓"
กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "กาลามสูตร ๑๐ บวก ๓"
สัตว์หรือพืชที่เกิดมาผิดปกติหรือพิกลพิการ เช่น วัว ๓ ตา ๖ ขา ๒ หัว ทุกเรียนออกผลเป็นสีทอง ตาลต้นเดียวมี ๒ ยอด เป็นต้น มักจะมีคนแห่กันไปกราบไหว้บูชา ขอโชคขอลาภ ราวกับว่าสัตว์และพืชเหล่านั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ดลบันดาลให้สมหวังได้ดังที่ขอ ตรงกันข้าม ถ้าเป็นคนเกิดมาผิดปกติหรือพิกลพิการ กลับได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาดน่ารังเกียจ การปฏิบัติดังกล่าวแค่มองดูก็รู้ได้ว่า เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะเกิดจากความเชื่อผิด ๆ จึงส่งผลให้เกิดจากการปฏิบัติผิด ๆ ดังกล่าว เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ในกาลามสูตร หรือหลักความเชื่อ ๑๐ ประการ ว่าอย่าใจเร็ว ด่วนเชื่อในข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ คือ ฟังตาม ๆ กันมา ๑, ปรัมปราประเพณี ๑, ข่าวลือดีไม่ดี ๑, ถึงแม้มีในตำรา ๑, อย่าเชื่อโดยตรรกะ ๑, หรือหลักคาดคะเนหนา ๑, ตรึกตามอาการน่าจะเป็นน่าเห็นตาม ๑, สอดรับกับความเห็น ๑, รูปลักษณ์เด่นเลยไปถาม ๑ และ คนนี้น่าเชื่อตามในความรู้เพราะครูเรา ๑
หลักความเชื่อตามกาลามสูตรทั้ง ๑๐ นั้น สามารถสรุปลงเหลือ ๒ คือ อย่าเชื่ออะไร และอย่าเชื่อใคร จนกว่าจะใช้หลักความเชื่ออย่างไรพิสูจน์ทราบเสียก่อน เพราะความเชื่อเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติ ถ้าเชื่อผิดก็ปฏิบัติผิด เมื่อปฏิบัติผิดย่อมได้รับผลเป็นทุกข์ เดือดร้อน เสียหายในหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้น ในการที่จะตัดสินใจเชื่อเรื่องอะไร หรือเชื่อใคร โดยไม่ต้องเสียใจภายหลัง จำเป็นต้องนำหลักควรเชื่ออย่างไร ๓ ประการ มาช่วยพิสูจน์ทราบด้วยทุกครั้ง ได้แก่
๑. พิจารณาให้ทราบชัดด้วยสติปัญญาตนเองว่า ถ้าเชื่อแล้วฉลาดขึ้นหรือไม่ ถูกหลอกหรือเปล่า
๒. หากเกินสติปัญญาให้อาศัยทัศนะผู้รู้ประกอบการตัดสินใจว่า ผู้รู้สนับสนุนให้เชื่อ หรือคัดค้าน
๓. ให้ดูจากผลการปฏิบัติว่าให้ผลดีหรือเสีย เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เพราะความผิดพลาดหรือถูกต้องของคนอื่นถือเป็นประสบการณ์โดยอ้อมของเรา
มีข้อควรคิดว่า ในบรรดาพุทธธรรมคำสอน หากมีคุณธรรมข้อศรัทธาคือ ความเชื่ออยู่ในหลักธรรมคำสอนหมวดใด ในหลักธรรมคำสอนหมวดนั้นจะมีคุณธรรมข้อปัญญาคือ การพิจารณาด้วยเหตุผลกำกับอยู่ด้วยเสมอ เพื่อให้เป็นธรรมสนับสนุนศรัทธาว่า อย่าเชื่ออะไร หรืออย่าเชื่อใคร แต่จงเชื่ออย่างไร เพื่อจะได้ไม่เชื่อผิด ปฏิบัติผิด ทำให้ชีวิตเกิดอัปมงคลโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)
สัตว์หรือพืชที่เกิดมาผิดปกติหรือพิกลพิการ เช่น วัว ๓ ตา ๖ ขา ๒ หัว ทุกเรียนออกผลเป็นสีทอง ตาลต้นเดียวมี ๒ ยอด เป็นต้น มักจะมีคนแห่กันไปกราบไหว้บูชา ขอโชคขอลาภ ราวกับว่าสัตว์และพืชเหล่านั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ดลบันดาลให้สมหวังได้ดังที่ขอ ตรงกันข้าม ถ้าเป็นคนเกิดมาผิดปกติหรือพิกลพิการ กลับได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งแปลกประหลาดน่ารังเกียจ การปฏิบัติดังกล่าวแค่มองดูก็รู้ได้ว่า เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะเกิดจากความเชื่อผิด ๆ จึงส่งผลให้เกิดจากการปฏิบัติผิด ๆ ดังกล่าว เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ในกาลามสูตร หรือหลักความเชื่อ ๑๐ ประการ ว่าอย่าใจเร็ว ด่วนเชื่อในข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ คือ ฟังตาม ๆ กันมา ๑, ปรัมปราประเพณี ๑, ข่าวลือดีไม่ดี ๑, ถึงแม้มีในตำรา ๑, อย่าเชื่อโดยตรรกะ ๑, หรือหลักคาดคะเนหนา ๑, ตรึกตามอาการน่าจะเป็นน่าเห็นตาม ๑, สอดรับกับความเห็น ๑, รูปลักษณ์เด่นเลยไปถาม ๑ และ คนนี้น่าเชื่อตามในความรู้เพราะครูเรา ๑
หลักความเชื่อตามกาลามสูตรทั้ง ๑๐ นั้น สามารถสรุปลงเหลือ ๒ คือ อย่าเชื่ออะไร และอย่าเชื่อใคร จนกว่าจะใช้หลักความเชื่ออย่างไรพิสูจน์ทราบเสียก่อน เพราะความเชื่อเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติ ถ้าเชื่อผิดก็ปฏิบัติผิด เมื่อปฏิบัติผิดย่อมได้รับผลเป็นทุกข์ เดือดร้อน เสียหายในหลาย ๆ เรื่อง ดังนั้น ในการที่จะตัดสินใจเชื่อเรื่องอะไร หรือเชื่อใคร โดยไม่ต้องเสียใจภายหลัง จำเป็นต้องนำหลักควรเชื่ออย่างไร ๓ ประการ มาช่วยพิสูจน์ทราบด้วยทุกครั้ง ได้แก่
๑. พิจารณาให้ทราบชัดด้วยสติปัญญาตนเองว่า ถ้าเชื่อแล้วฉลาดขึ้นหรือไม่ ถูกหลอกหรือเปล่า
๒. หากเกินสติปัญญาให้อาศัยทัศนะผู้รู้ประกอบการตัดสินใจว่า ผู้รู้สนับสนุนให้เชื่อ หรือคัดค้าน
๓. ให้ดูจากผลการปฏิบัติว่าให้ผลดีหรือเสีย เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เพราะความผิดพลาดหรือถูกต้องของคนอื่นถือเป็นประสบการณ์โดยอ้อมของเรา
มีข้อควรคิดว่า ในบรรดาพุทธธรรมคำสอน หากมีคุณธรรมข้อศรัทธาคือ ความเชื่ออยู่ในหลักธรรมคำสอนหมวดใด ในหลักธรรมคำสอนหมวดนั้นจะมีคุณธรรมข้อปัญญาคือ การพิจารณาด้วยเหตุผลกำกับอยู่ด้วยเสมอ เพื่อให้เป็นธรรมสนับสนุนศรัทธาว่า อย่าเชื่ออะไร หรืออย่าเชื่อใคร แต่จงเชื่ออย่างไร เพื่อจะได้ไม่เชื่อผิด ปฏิบัติผิด ทำให้ชีวิตเกิดอัปมงคลโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)
ฐานทัพเรือกรุงเทพ จัดงานจำหน่ายสินค้าราคาถูก ระหว่าง ๑๕ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๗
ฐานทัพเรือกรุงเทพ
กำหนดจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อบริการให้กับกำลงพลและครอบครัว
ตลอดจนประชาชนทั่วไป ณ บริเวณภายในสนามฝึกหัดกอล์ฟ ด้านหลังกองกิจการพิเศษ
ฐานทัพเรือกรุงเทพ ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา
๑๖.๐๐ น. - ๒๑.๐๐ น. ภายในงานมีสินค้าประเภทต่าง ๆ จำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด
เช่น ข้าวสาร อาหาร เสื้อผ้า เครื่องหนัง และอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก
ขอเชิญชวนข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการและบุคคลทั่วไป ร่วมซื้อสินค้าราคาถูก ได้ตาม วัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สำหรับผู้ที่สนใจและประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือกรุงเทพ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๓๐๔๗ (ที่มา : ฐท.กท.)
ขอเชิญชวนข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการและบุคคลทั่วไป ร่วมซื้อสินค้าราคาถูก ได้ตาม วัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สำหรับผู้ที่สนใจและประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือกรุงเทพ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๕๓๐๔๗ (ที่มา : ฐท.กท.)
ขอเชิญร่วมงาน "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" ใน ๒๔ สิงหาคม นี้ ที่ โรงเรียนนายเรือ
สามสมอสมาคม
กำหนดจัดกิจกรรม "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" ให้กับสมาชิกสามสมอสมาคม
ณ โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ ๒๔
สิงหาคม ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ น. - ๒๐.๓๐ น. โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง
ๆ ได้แก่ การเยี่ยมชมหอดาราศาสตร์ เครื่องฝึกจำลองการเดินเรือ,
ห้องนอนนักเรียนนายเรือ, ชมการแสดงแฟนซีดริล, ชมพิธีย่ำพระสุริย์ศรี
ขอเชิญสมาชิกสามสมอสมาคมเข้าร่วมงาน "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ นาวาเอกหญิง พามีล่า จันทมาศ ประจำแผนกฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๘๔๓ หรือ ๐๘๑ ๖๓๖ ๑๙๖๒ (ที่มา : สามสมอสมาคม)
ขอเชิญสมาชิกสามสมอสมาคมเข้าร่วมงาน "ย้อนอดีต วันวาน สามสมอ" สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ นาวาเอกหญิง พามีล่า จันทมาศ ประจำแผนกฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๓๘๔๓ หรือ ๐๘๑ ๖๓๖ ๑๙๖๒ (ที่มา : สามสมอสมาคม)
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"จิตใจและความประพฤติที่สะอาดและมีระเบียบ
เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตจิตใจทั้งความประพฤติ ดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้
หากแต่จำเป็นต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ
นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย
ทั้งเพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุข ความสำเร็จในการครองชีวิต
ทั้งให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ด้วยความผาสุกสงบ"
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการสัมมนาของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เรื่อง การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการสัมมนาของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เรื่อง การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)