วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "คิดบวก"

 กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "คิดบวก"
ในโลกปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่นี้ มนุษย์ทุกคนต้องทำงานและดำรงชีพอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่มากระทบ เป็นผลทำให้เกิดความเครียดขึ้น และความเครียดนี้เองที่ส่งผลต่อทั้งความคิด สมอง ร่างกาย และจิตใจของเราในทุกด้าน ส่วนใหญ่เป็นผลในแง่ลบ การที่เราสามารถมองโลกในแง่ดี คิดดี ในสภาวะที่มีแต่ความวุ่นวายแบบนี้ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ทั้งสุขภาพกายและใจ
การปรับสภาพใจด้วยการมองโลกในแง่ดีนี้ก็คือ การคิดเชิงบวกนั่นเอง การคิดเชิงบวกหมายถึง การพยายามหามุมมองที่แตกต่างออกไปจากมุมมองปกติที่เราเคยมองให้เป็นบวก ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของเราเอง และผู้อื่นซึ่งตรงกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาสอนให้ใช้สติและปัญญาพินิจ อย่างรู้เท่าทัน เช่น บางคนเคยคิดว่าทำไมตัวเราต้องทำงานหนักแทบทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาช่างแสนสบาย ไม่เห็นทำงานหนักเหมือนตัวเราเลย เป็นต้น การคิดในลักษณะนี้ก็จะเกิดการท้อแท้ ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า การที่เราทำงานหนักกว่าคนอื่นแสดงว่าเรามีความสามารถเป็นคนที่มีคุณค่า ด้วยการทำงานหนักนี้เองจะช่วยให้เรามีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น เพราะเมื่อไรที่เราคิดบวกได้ งานที่ยากก็จะกลายเป็นง่ายไปด้วย เพราะได้กำลังใจที่ดีนั่นเอง
เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือให้เข้ากับทิศทางลมได้ ดังนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี จึงแนะนำว่า "เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ" การคิดบวกได้อย่างนี้จะเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์