กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "คิดบวก"
ในโลกปัจจุบันที่เราอาศัยอยู่นี้ มนุษย์ทุกคนต้องทำงานและดำรงชีพอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมต่าง
ๆ ที่มากระทบ เป็นผลทำให้เกิดความเครียดขึ้น และความเครียดนี้เองที่ส่งผลต่อทั้งความคิด
สมอง ร่างกาย และจิตใจของเราในทุกด้าน ส่วนใหญ่เป็นผลในแง่ลบ การที่เราสามารถมองโลกในแง่ดี
คิดดี ในสภาวะที่มีแต่ความวุ่นวายแบบนี้ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ทั้งสุขภาพกายและใจ
การปรับสภาพใจด้วยการมองโลกในแง่ดีนี้ก็คือ
การคิดเชิงบวกนั่นเอง
การคิดเชิงบวกหมายถึง
การพยายามหามุมมองที่แตกต่างออกไปจากมุมมองปกติที่เราเคยมองให้เป็นบวก
ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตของเราเอง
และผู้อื่นซึ่งตรงกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาสอนให้ใช้สติและปัญญาพินิจ
อย่างรู้เท่าทัน
เช่น บางคนเคยคิดว่าทำไมตัวเราต้องทำงานหนักแทบทุกวัน
เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาช่างแสนสบาย
ไม่เห็นทำงานหนักเหมือนตัวเราเลย เป็นต้น
การคิดในลักษณะนี้ก็จะเกิดการท้อแท้
ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า
การที่เราทำงานหนักกว่าคนอื่นแสดงว่าเรามีความสามารถเป็นคนที่มีคุณค่า
ด้วยการทำงานหนักนี้เองจะช่วยให้เรามีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น
เพราะเมื่อไรที่เราคิดบวกได้
งานที่ยากก็จะกลายเป็นง่ายไปด้วย
เพราะได้กำลังใจที่ดีนั่นเอง
เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือให้เข้ากับทิศทางลมได้
ดังนั้น ท่าน ว.วชิรเมธี จึงแนะนำว่า "เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ เวลาเจอปัญหาซับซ้อนให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ เวลาเจอความทุกข์หนัก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ"
การคิดบวกได้อย่างนี้จะเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์