วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง "โจรกลับใจ"

 กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "โจรกลับใจ"
         มีเรื่องเล่าว่ามีโจรกลุ่มหนึ่งเที่ยวปล้นผู้คนไปทั่ว โดยไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน วันหนึ่งได้วางแผนปล้นครอบครัวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ระหว่างที่รอจังหวะเข้าปล้นนั้น ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก จึงพากันวิ่งไปหลบฝนที่ใต้ถุนบ้าน ระหว่างนั้นภรรยาได้ลงมาเก็บของที่ใต้ถุน และพบโจรกลุ่มนั้นเข้าพอดี เธอเข้าใจว่าเป็นคนเดินทางทั่วไปที่เข้ามาหลบฝนชั่วคราว จึงโอภาปราศรัยด้วยคำที่มีไมตรีจิต และเชิญชวนกินข้าวเย็นด้วยกัน โจรจึงพากันขึ้นไปกินข้าวบนบ้านและได้พบสามีของหญิงคนนั้นซึ่งมีอัธยาศัยดี ไม่แพ้กัน หลังกินข้าวเสร็จแล้ว พวกโจรก็ล้มเลิกความคิดที่จะปล้นบ้านหลังนั้น และได้บอกความจริงถึงสถานะตน พร้อมกับขอโทษที่คิดไม่ดี พร้อมทั้งรับประกันว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายครอบครัวสามีภรรยาคู่นี้ตั้งแต่บัด นี้ไป จากนั้นจึงลากลับโดยไม่แตะต้องทรัพย์สินแต่อย่างใด
        เรื่องนี้แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล่าที่ในสังคมปัจจุบันอาจจะไม่มี จริง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของน้ำใจไมตรีที่กระทำไปโดยไม่คิดหวังผลตอบแทน แต่ทำไปเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม สามารถทำให้ผู้คิดร้ายมีจิตใจที่อ่อนโยนได้เช่นกัน รวมความว่าทั้งน้ำใจไมตรีที่เผื่อแผ่และคำพูดที่น่ารักนั้น เพียงสองประการนี้บางทีก็สามารถทำให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ได้ ในทางกลับกัน หากสามีภรรยาคู่นี้ ละเลยน้ำใจไมตรีและคำที่ไพเราะแล้ว โอกาสที่จะถูกทำร้ายจากพวกโจรก็เป็นไปได้สูง
        ดังนั้น ทุกคนจึงควรแสดงน้ำใจและพูดคุยต่อกันด้วยไมตรีจิตให้เป็นนิสัย เพราะในทางพุทธศาสนา กล่าวถึงเรื่องของการให้และคำพูดที่ไพเราะไว้ในหลักของสังคหวัตถุธรรม คือ หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวกันและกันไว้ได้เป็นอย่างดี แล้วเมื่อถึงเวลานั้น เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับเรื่องโจรกลับใจดังกล่าวข้างต้นก็อาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)