กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "วันแห่งความรักแท้"
ตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำ
หากจะตั้งคำถามว่าเดือนกุมภาพันธ์มีวันสำคัญอะไรบ้าง คนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า วันวาเลนไทน์ซึ่งหมายถึงวันแห่งความรักของหญิงชายที่คนทั่วไปเข้าใจ ส่วนความหมายจริง ๆ ของวันวาเลนไทน์เป็นอย่างไร ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพราะสื่อต่าง ๆ เผยแพร่มามากแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าเดือนกุมภาพันธ์มีวันแห่งความรักแท้อีกวันหนึ่ง นั่นคือ วันมาฆบูชา
ความที่สื่อถึงความหวังดีปรารถนาดีและผูกพันต่อกันนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือความรักที่หวังผลตอบแทน เช่น ความรักระหว่างหญิงชายอย่างหนึ่ง และความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนมีแต่เมตตากรุณาและความหวังดีเป็นที่ตั้ง เช่น ความรักของบิดามารดาต่อบุตรอีกอย่างหนึ่ง
พระพุทธศาสนามีประวัติศาสตร์ความรักและความปรารถนาดีอันยิ่งใหญ่ระหว่างพระพุทธองค์กับพระสงฆ์ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งได้พร้อมใจมาประชุมกันในวันมาฆบูชา เมื่อกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว พระพุทธองค์ทรงถือโอกาสนั้นประทานคำสอนแก่พระสาวก ว่า ขันติด คือ ความอดทนเป็นตบะชั้นยอด พระนิพพานเป็นบรมสุข ผู้ที่ทำร้ายคนอื่นไม่ชื่อว่า เป็นนักบวช การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อมและการทำใจให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นต้น
พระโอวาทเหล่านี้แสดงถึงความรักแท้ของพระพุทธองค์ที่มีต่อพระ สาวกเพราะไม่มุ่งผลตอบแทนกลับคืนสู่พระองค์ แต่มุ่งประโยชน์สุขของผู้ปฏิบัติเป็นหลัก ดุจบิดามารดามีความรักความหวังดีต่อบุตร จึงแนะนำพร่ำสอนแต่สิ่งที่ดีที่ควรปฏิบัติ ดังนั้น วันมาฆบูชาจึงเป็นต้นแบบวันแห่งความรักแท้อย่างแท้จริง หากเราจะนำวิธีแสดงความรักแท้ตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำเช่นนี้มา ปฏิบัติบ้าง คงจะทำให้สังคมมีแต่ความสงบร่มเย็นได้อย่างแน่นอน (ที่มา : ยศ.ทร.)
หากจะตั้งคำถามว่าเดือนกุมภาพันธ์มีวันสำคัญอะไรบ้าง คนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า วันวาเลนไทน์ซึ่งหมายถึงวันแห่งความรักของหญิงชายที่คนทั่วไปเข้าใจ ส่วนความหมายจริง ๆ ของวันวาเลนไทน์เป็นอย่างไร ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพราะสื่อต่าง ๆ เผยแพร่มามากแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าเดือนกุมภาพันธ์มีวันแห่งความรักแท้อีกวันหนึ่ง นั่นคือ วันมาฆบูชา
ความที่สื่อถึงความหวังดีปรารถนาดีและผูกพันต่อกันนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือความรักที่หวังผลตอบแทน เช่น ความรักระหว่างหญิงชายอย่างหนึ่ง และความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนมีแต่เมตตากรุณาและความหวังดีเป็นที่ตั้ง เช่น ความรักของบิดามารดาต่อบุตรอีกอย่างหนึ่ง
พระพุทธศาสนามีประวัติศาสตร์ความรักและความปรารถนาดีอันยิ่งใหญ่ระหว่างพระพุทธองค์กับพระสงฆ์ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งได้พร้อมใจมาประชุมกันในวันมาฆบูชา เมื่อกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว พระพุทธองค์ทรงถือโอกาสนั้นประทานคำสอนแก่พระสาวก ว่า ขันติด คือ ความอดทนเป็นตบะชั้นยอด พระนิพพานเป็นบรมสุข ผู้ที่ทำร้ายคนอื่นไม่ชื่อว่า เป็นนักบวช การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อมและการทำใจให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นต้น
พระโอวาทเหล่านี้แสดงถึงความรักแท้ของพระพุทธองค์ที่มีต่อพระ สาวกเพราะไม่มุ่งผลตอบแทนกลับคืนสู่พระองค์ แต่มุ่งประโยชน์สุขของผู้ปฏิบัติเป็นหลัก ดุจบิดามารดามีความรักความหวังดีต่อบุตร จึงแนะนำพร่ำสอนแต่สิ่งที่ดีที่ควรปฏิบัติ ดังนั้น วันมาฆบูชาจึงเป็นต้นแบบวันแห่งความรักแท้อย่างแท้จริง หากเราจะนำวิธีแสดงความรักแท้ตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำเช่นนี้มา ปฏิบัติบ้าง คงจะทำให้สังคมมีแต่ความสงบร่มเย็นได้อย่างแน่นอน (ที่มา : ยศ.ทร.)