วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๖

วันนี้ (๑๗ มกราคม ๒๕๕๖) พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ณ อนุสรณ์เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ โดยในช่วงเช้าประกอบพิธีถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ และพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ จากนั้น เวลา ๑๐.๐๐ น. ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ณ บริเวณด้านข้างกราบซ้าย เรือหลวงธนบุรี และเวลา ๑๑.๓๕ น. ประกอบพิธีสดุดีวีรชน โดยมีพิธีวางพวงมาลา บริเวณหัวเรือ เรือหลวงธนบุรี
        พิธีสดุดีวีรชนกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นในวันที่ ๑๗ มกราคม เป็นประจำทุกปี เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพและระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของ บรรพชนทหารเรือที่ได้เสียสละชีวิต ในสมรภูมิการรบอย่างกล้าหาญ เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดิน โดยเฉพาะเหตุการณ์ในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๔๘๔ แม้เวลาจะผ่านพ้นไปนานสักเพียงใด แต่นามของวีรชนกองทัพเรือยังคงดำรงอยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารเรือ อาทิ นาวาโทหลวง พร้อม วีรพันธุ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี ซึ่งได้เสียสละชีวิต พร้อมกับกำลังพลของเรือหลวงสงขลา และ เรือหลวงชลบุรี รวม ๓๖ นาย ขณะนำเรือเข้าต่อตีเรือลามอตต์ปิเกต์ของฝรั่งเศส ระหว่างการรบที่เกาะช้าง, นาวาตรี ประวิทย์ รัตนอุบล ผู้บังคับการเรือหลวงสมุย ซึ่งถูกเรือดำน้ำพันธมิตรโจมตี จนเสียชีวิตพร้อมกำลังพลประจำเรือ รวม ๓๑ นาย ในระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา, พันจ่าเอก เชื้อ มีเงิน และพันจ่าเอก เล็ก ดอกไม้ สังกัดกองร้อยต่อสู้อากาศยาน เสียสละชีวิตขณะยิงต่อสู้กับเครื่องบินพันธมิตร เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๔๘๘, จ่าโท ผวน พรสยม และจ่าโท ชั้น เมืองอ่ำ ลูกเรือของ เรือหลวงประแส ซึ่งเสียสละชีวิต ขณะปฏิบัติภารกิจระดมยิงฝั่งในระหว่างสงครามเกาหลี เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๔๙๔
          นอกจากนี้ ยังมียุทธการสำคัญที่ทำให้ กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารเรือผู้กล้าไปจำนวนมาก เช่น การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมไปถึงการปฏิบัติภารกิจด้วยความกล้าหาญเพื่อความสันติสุขในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่อุทิศตนและเสียสละเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติ นับเป็นสิ่งที่สมควรได้รับการสรรเสริญยกย่อง เช่นเดียวกับวีรกรรมและความกล้าหาญของบรรพชนทหารเรือที่ได้แสดงให้เป็นที่ ประจักษ์ตั้งแต่ครั้งอดีตและได้รับการสดุดียกย่องดำรงอยู่ในจิตใจของทหาร เรือทุกคนจนถึงปัจจุบัน
        เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ กำลังพลทุกหมู่เหล่าจะแต่งกายเครื่องแบบหมายเลข ๒ และแถวเพื่อรับฟังคำกล่าวของผู้บัญชาการทหารเรือ และยืนสงบนิ่ง สำรวจจิต แสดงความเคารพ และรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่านักรบแห่งราชนาวีที่ได้สละชีวิตเป็นชาติพลี (ที่มา : สลก.ทร.)