วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สังเกตการณ์การฝึกกองทัพเรือและชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สังเกตการณ์การฝึกกองทัพเรือและชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี บนดาดฟ้าบิน เรือหลวงจักรีนฤเบศร
       วันนี้ (๒๒ เมษายน ๒๕๕๔) เวลา ๑๐.๐๐ น. พลพลเรือเอก ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะ ร่วมสังเกตการณ์การฝึกกองทัพเรือ ๒๕๕๔ ณ ดาดฟ้าบิน เรือหลวงจักรีนฤเบศร และรับฟังการบรรยายสรุปแผนการยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พร้อมชมการฝึกยิง ฯ ณ ห้องควบคุมการบินและชมการยิงเป้าลวง จากเรดาร์เดินเรือบนสะพานเดินเรือ
      การยิงเอ็กโซเซต์ในครั้งนี้ เป็นการยิง ครั้งที่ ๘ ซึ่งกำหนดให้ เรือหลวงวิทยาคม และเรือหลวงอุดมเดช เป็นเรือยิง โดยเรือทั้ง ๒ ลำ เป็นเรือประเภทเรือยนต์เร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถีที่กองทัพเรือสั่งต่อจาก ประเทศอิตาลี จำนวน ๓ ลำ เมื่อปี ๒๕๑๙ ประกอบด้วย เรือหลวงราชฤทธิ์ เรือหลวงวิทยาคม และ เรือหลวงอุดมเดช เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจในการเป็นเรือคุ้มครองเรือสำรวจน้ำมันในทะเลในวงเงิน ขณะนั้นลำละ ๔๐๐ ล้านบาท โดยได้มีการรับมอบเมื่อปี ๒๕๒๒ ซึ่งแม้จะมีอายุการใช้งานมานานถึง ๓๒ ปีแล้วก็ตาม แต่เรือในชุดนี้ถือว่าเป็นเรือที่มีสมรรถนะสูงและสามารถทำความเร็วได้สูงถึง ๓๘ นอต ระบบอาวุธประจำเรือ ประกอบด้วย ปืน ขนาด ๗๖/๖๒ มิลลิเมตร ๑ กระบอก ปืนกลขนาด ๔๐/๗๐ มิลลิเมตร ๑ กระบอก ปืนกล ขนาด .๕๐ นิ้ว ๒ กระบอก และที่สำคัญคือ แท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น แบบเอ็กโซเซต์ รุ่น MM 38 จำนวน ๔ ท่อยิง ซึ่งอาวุธปล่อยนำวิถีเอ็กโซเซต์นี้ผลิตโดยบริษัท AEROSPATIALB ประเทศฝรั่งเศส โดย EXOCET แปลว่า ปลาบิน ส่วนรุ่น MM 38 นั้น MM มาจาก MER - MER แปลว่า ทะเล สู่ ทะเล มีระยะยิงไกลสุด ๔๒ กิโลเมตร (๒๒.๕ ไมล์ทะเล) และ ระยะยิงใกล้สุด ๔.๔ กิโลเมตร (๒.๔ ไมล์ทะเล) โดยนำวิถีด้วยระบบ ACTIVE RADAR HOMING
      ทั้งนี้ การฝึกในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมการฝึกทุกคนได้ "ฝึกให้เหมือนจริงและปฏิบัติให้เหมือนฝึก" เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ทั้งการควบคุมบังคับบัญชา ระบบสื่อสาร การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความมั่นใจและมีความพร้อมในการเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ (ที่มา : สอ.รฝ.)