หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปิดอุทยานแห่งชาติในฝั่งทะเลอันดามันบางส่วน อันเนื่องมาจากปัญหาปะการังฟอกขาว รวมทั้งบริเวณเกาะเชือก ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งเกิดปัญหาปะการังฟอกขาวอย่างรุนแรงถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ด้วยนั้น แม้จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้างในช่วงระยะแรก แต่ขณะนี้ทั้งผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวสามารถปรับตัวได้แล้ว ตลอดจนเข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องปิดเกาะเชือกเพื่อให้ธรรมชาติได้กลับมางด งามเหมือนเช่นเดิม โดยเฉพาะปะการังเขากวางและปะการังสมอง ซึ่งอาจจะต้องทำการปิดเกาะเชือกอย่างนี้ไปถึง ๕ ปี เนื่องจากต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูความเสียหาย
นอกจากนั้น เกาะกระดาน ซึ่งมีชื่อเสียงรู้จักกันทั่วโลก เนื่องจากเป็นสถานที่แห่งแรกที่ใช้ในการจัดวิวาห์ใต้สมุทร เมื่อ ๑๔ ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี ๒๕๓๙ และอีกหลายครั้งในปีต่อ ๆ มา จนได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกในหนังสือกินเนสเวิลด์ เรคคอร์ด ว่า เป็นวิวาห์ใต้สมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีคู่สมรสเข้าร่วมแต่งงานใต้น้ำมากที่สุด กำลังเป็นอีกจุดหนึ่งที่เกิดปัญหาปะการังฟอกขาวอย่างรุนแรง ซึ่งมีแนวโน้มอาจจะต้องเสนอให้สั่งปิดเกาะกระดานเป็นการชั่วคราวในช่วงมรสุม ที่จะมาถึงประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ นี้ เพื่อให้สภาพธรรมชาติ โดยเฉพาะปะการังที่ได้รับความเสียหายได้ฟื้นตัวกลับมางดงามเหมือนเช่นเดียว กันกับเกาะเชือก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมทั้งผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และมลพิษต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับที่สมดุลกับสภาพธรรมชาติ เพื่อมิให้ท้องทะเลอันดามันต้องกลับมาเกิดภาวะวิกฤติขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเสนอให้มีการปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลบางจุดในบางช่วง ควบคู่กับการจัดระบบการนำเที่ยวให้เหมาะสมกับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล (ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)
