วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง เสาหลักของชีวิต

กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "เสาหลักของชีวิต" ดังนี้
         ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จำเป็นต้องมีเสาเป็นหลักค้ำจุนตัวอาคารไว้ ฉันใด ในการสร้างความดีทุกชนิดก็จำเป็นต้องมีความไม่ประมาทเป็นแกนหลักรองรับ ฉันนั้น ความไม่ประมาทจึงนับว่าเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างยิ่งในการครองตน ครองคน และครองงานให้สำเร็จตามเป้าหมายในทุกด้าน ความไม่ประมาท คือ การมีสติกำกับตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะคิด จะพูด จะทำสิ่งใด ๆ ไม่ยอมถลำลงไปในทางที่เสื่อม และไม่ยอมพลาดโอกาสในการทำความดี ตระหนักดีถึงสิ่งที่ต้องทำ ถึงกรรมไม่ดีที่ต้องเว้น เอาใส่ใจ สำนึกอยู่ในหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่เสมอ ว่า "ถ้าประมาทในทุกเรื่อง ความรุ่งเรืองก็มิอาจเกิดขึ้นได้" ในปทสูตร สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค พระพุทธองค์ตรัสว่า
         "ดูกรภิกษุทั้งหลาย รอยเท้าของสัตว์ทั้งหลาย ผู้สัญจรไปบนแผ่นดิน ชนิดใดชนิดหนึ่ง ทั้งหมดนั้นย่อมถึงความประชุมลงในรอยเท้าช้าง รอยเท้าช้าง บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ารอยเท้าเหล่านั้น เพราะเป็นรอยใหญ่ แม้ฉันใด กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งทั้งหมดนั้นมีความไม่ประมาทเป็นมูลย่อมรวมลงในความไม่ประมาท ความไม่ประมาทบัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่ากุศลธรรมเหล่านั้น ฉันนั้นเหมือนกับผู้ประมาทมัวเมาในชีวิตนั้น บัณฑิตท่านอุปมาไว้ว่าเสมือนผู้ที่ตายแล้วทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่" ลักษณะของผู้ประมาทแบ่งเป็น ๓ ประเภท คือ
         ๑. กุสีตะ คือ ไม่ทำเหตุแต่จะเอาผล เช่น เวลาเรียนไม่ตั้งใจเรียน แต่อยากสอบได้ ไม่ตั้งใจทำงานแต่จะเอาความดีความชอบ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ปฏิบัติ แต่อยากได้สวรรค์ นิพพาน เป็นต้น
         ๒. ทุจริตะ คือ ทำเหตุเสียแต่จะเอาผลดี เช่น ขี้เกียจทำงาน แต่อยากได้ผลของงาน พูดไม่ดีแต่อยากให้คนอื่นชื่นชอบ อยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีความพยายาม เป็นต้น
          ๓. สิถิละ คือ ทำเหตุเล็กน้อยแต่จะเอาผลมาก เข้าลักษณะค้ากำไรเกินควร เช่น อ่านหนังสือนิดหน่อย แต่หวังสอบได้อันดับที่ ๑ ให้ทานนิดหน่อยแต่หวังบุญหล่นทับหรือหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ เป็นต้น
        ผู้ประมาทในการทำเหตุ ๓ ประเภทดังกล่าว ย่อมพลาดโอกาสที่จะประสบผลความสำเร็จในเรื่องที่คิดในกิจที่ทำ และในคำที่พูดทั้งปวง ดังนั้น ผู้ฉลาดจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า ผู้ทำเหตุดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำเหตุเสียย่อมได้รับผลเสีย ผู้ทำเหตุแห่งความสำเร็จไว้มาก ย่อมประสบผลสำเร็จมาก ทั้งดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท แล้วชีวิตก็จะมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่หวั่นไหวได้ง่าย เมื่อยามที่ถูกโลกธรรมฝ่ายต่ำเข้ามากระทบ เพราะมีความไม่ประมาทเป็นเสาหลักของชีวิตนั่นเอง (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)