"ชีวิตของแต่ละคนจะต้องประกอบด้วยสิ่งใดสำหรับให้มีชีวิตอยู่ได้
ถ้าเราคิดสักหน่อยว่าเรามีร่างกายที่จะต้องอุ้มชูตนเอง คือหมายความว่าทุกวันนี้เราจะต้องหาอาหารมาเลี้ยง
ถ้าไม่มีอาหารเลี้ยงร่างกายนี้เป็นเวลาหนึ่ง ก็ทำให้ ร่างกายซูบผอมและอ่อนเพลียลงไป
ไม่มีทางที่จะทำงานทำการใดๆ หรือแม้จะทำงานที่ไม่ใช่เป็นงานคือเล่นสนุกอะไรก็ตาม
ก็ไม่ได้ทั้งนั้น คิดอะไรก็ไม่ออก ดำเนินชีวิตไม่ได้ ถ้าไม่มีอาหาร
ถ้ามองดูในแง่นี้ เพียงอาหารที่มาใส่ท้อง ก็เป็นกิจการที่กว้างขวางอย่างมากมาย
ทีนี้พูดกันว่าคนเราต้องทำมาหากิน ดูเป็นของที่สำคัญที่สุด เพราะว่าถ้าไม่ทำมาหากินก็ไม่มีชีวิตอยู่ได้
หรือมีชีวิตก็แร้นแค้น และทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารใจอีก
ถ้าคนเราไม่มีอาหารใจ ไม่ขวนขวายหาความรู้ จะไม่สบายใจ และจะไม่เป็นคนที่เจริญ
ฉะนั้น ทุกคนที่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ และมีชีวิตอยู่อย่างดี
ก็ต้องอุ้มชูให้อาหารแก่ตาและหาทางที่จะมีอาหารของใจด้วย
พระราชดำรัส
พระราชทานเนื่องในการฉลองครบรอบ ๕๐ ปี ของสโมสรโรตารี่ในประเทศไทย
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจันทร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๒๓