วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.๑๑๑ ณ ท่าเรือแหลมเทียน

วันนี้ (๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๙ น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.๑๑๑ ตามโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ณ ท่าเรือหมายเลข ๕ (LST Ramp) ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พลเรือโท พัลลภ ตมิศานนท์ ประธานกรรมการร่วมกองทัพเรือ-บริษัทมาร์ซัน จำกัด และรองเสนาธิการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทมาร์ซัน จำกัด ให้การต้อนรับ
         พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.๑๑๑ ประกอบด้วย ในช่วงเช้าประกอบพิธีสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และพิธีสงฆ์ จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือขึ้นแท่นรับมอบเรือ ฯ มี ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัท มาร์ซัน จำกัด กล่าวรายงานมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.๑๑๑ และผู้บัญชาการทหารเรือมอบเอกสารการส่งมอบเรือ ฯ ให้แก่ พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เพื่อส่งมอบเรือให้ พลเรือตรี สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ ต่อไป
         กองทัพเรือได้ดำเนินโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ จำนวน ๓ ลำ พร้อมระบบสื่อสาร อาวุธ ระบบอื่น ๆ รวมทั้งการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมในทะเล คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยและทะเล อันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย และการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่ง โดยกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ออกแบบและต่อเรือ ซึ่งเรือทั้ง ๓ ลำ ตั้งชื่อว่า "เรือ ต.๑๑๑", "เรือ ต.๑๑๒" และ "เรือ ต.๑๑๓"
           ลักษณะของเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือมีความยาวตลอดลำ ๓๖ เมตร, ความกว้างกลางลำ ๗.๖๐ เมตร, ความลึกกลางน้ำ (Molded Depth) ๓.๖๐ เมตร, เรือกินน้ำลึกเต็มที่ไม่เกิน (Molded Draught) ๑.๗๐ เมตร, ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่น้อยกว่า ๓๖,๐๐๐ ลิตร, ความจุถังน้ำจืด ไม่น้อยกว่า ๕,๖๐๐ ลิตร, มีถังน้ำจืดสำรองความจุ ไม่น้อยกว่า ๘,๐๐๐ ลิตร และมีระวางขับน้ำเต็มที่ ประมาณ ๑๕๐ ตัน
          ขีดความสามารถทั่วไปของเรือดังกล่าวมีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่ต่ำกว่า ๒๗ นอต, ระยะปฏิบัติการที่ความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ ๑๕ นอต ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ ไมล์ทะเล, สามารถปฏิบัติการในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 5 (ความสูงคลื่น ๒.๕ - ๔ เมตร), สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน, ปฏิบัติการทางเรือได้อย่างต่อเนื่องในทะเลได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน และสามารถตรวจจับ ติดตาม และพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ ได้ด้วยระบบตรวจการณ์ของเรือ นอกจากนี้ สามารถ หยุดยั้ง ขัดขวาง เรือผิวน้ำ และป้องกันตนเองจากข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ, ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ลาดตระเวนป้องกันการแทรกซึมและคุ้มครองเรือประมงและทรัพยากรธรรมชาติ, เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว
           เรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ นอกจากจะมีขีดความสามารถทั่วไปแล้ว ยังมีขีดความสามารถในการสนับสนุนการขนส่งทางธุรการชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) อย่างน้อย ๑ ชุด ปฏิบัติการพิเศษ, ลำเลียงอุปกรณ์สนับสนุนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตามพื้นที่ชายฝั่งและเกาะต่าง ๆ ลำเลียงอุปกรณ์ปรับความดันบรรยากาศของกองทัพเรือ สนับสนุนการปฏิบัติการด้านการแพทย์ให้กับกองเรือในทะเลตามขีดความสามารถของเรือ และสามารถบรรทุกและรองรับตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ขนาด ๒๐ ฟุต จำนวน ๒ ตู้ พร้อมกับบรรทุกถังน้ำมันแบบยางขนาด ๕๐๐ แกลลอน จำนวน ๑ ถัง (ที่มา : สยป.ทร.)