พลเรือเอก
ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ
สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ
เตรียมการและสนับสนุนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลือพี่น้อง
ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง
ๆ
โดยกองทัพเรือได้จัดเจ้าหน้าที่ประสานงานไปประจำอยู่ที่คณะกรรมการบริหาร
จัดการน้ำและอุทกภัย
(กบอ.)
และจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำรับผิดชอบโดยกรมอู่ทหารเรือในการควบคุม
ดูแลเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ต่าง
ๆ ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องผลักดันเรียบร้อยแล้ว
รวมทั้งสิ้น ๖๑ เครื่อง
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้ว
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้วจำนวน ๑๐ ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน ๑ คัน บรรทุกเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน ๒ ลำ กำลังพล จำนวน ๑๔ นาย (หัวหน้าชุด - พลขับ - เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ๖ นาย/ลำ) สามารถออกปฏิบัติการได้ภายใน ๓ ชั่วโมง สำหรับหน่วยสนับสนุนอื่น ๆ พื้นที่สัตหีบ พร้อมให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ภายใน ๖ ชั่วโมง ทั้งนี้ กองทัพเรือยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมจัดส่งเครื่องผลักดัน น้ำเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือ สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ในการนี้ พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้มอบนโยบายให้ พลเรือโท ไกรวุธ วัฒนธรรม รองเสนาธิการทหารเรือ/รองเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้การช่วยเหลือเรื่องผลักดันน้ำ ในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ที่มา : สลก.ทร.)
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้ว
ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้วจำนวน ๑๐ ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน ๑ คัน บรรทุกเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน ๒ ลำ กำลังพล จำนวน ๑๔ นาย (หัวหน้าชุด - พลขับ - เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ๖ นาย/ลำ) สามารถออกปฏิบัติการได้ภายใน ๓ ชั่วโมง สำหรับหน่วยสนับสนุนอื่น ๆ พื้นที่สัตหีบ พร้อมให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ภายใน ๖ ชั่วโมง ทั้งนี้ กองทัพเรือยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมจัดส่งเครื่องผลักดัน น้ำเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือ สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ในการนี้ พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้มอบนโยบายให้ พลเรือโท ไกรวุธ วัฒนธรรม รองเสนาธิการทหารเรือ/รองเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้การช่วยเหลือเรื่องผลักดันน้ำ ในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ (ที่มา : สลก.ทร.)