วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรม เรื่อง หน้าต่างใจ

 กองอนุ ศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบและนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ความทุกข์ก็จะไม่ไหลเข้ามาสู่ใจ ในวันนี้นำเสนอเรื่อง "หน้าต่างใจ"
         อาคารที่ปลูกสร้างอย่างสมบูรณ์ เจ้าของมักจะทำหน้าต่างไว้สำหรับเปิดรับลมและแสงสว่างจากภายนอกและปิดไว้เมื่อไม่ต้องการ ที่กล่าวนี้เป็นเพียงหน้าต่างของอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งภายนอกเท่านั้น ยังมีหน้าต่างอีกชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ภายในตัวตน หน้าต่างที่ว่านี้ก็คือ "ดวงตา" ของมนุษย์นั่นเอง
         นักปราชญ์ท่านกล่าวว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของใจ เพราะมีไว้เปิดรับอารมณ์จากภายนอกที่จะเข้าสู่ใจทั้งส่วนที่เป็นอิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่น่าปรารถนาและอนิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ดังจะเห็นว่าในเวลาที่คนเราประสบความสำเร็จมีความสุขในชีวิต ดวงตาของเราจะดูสดชื่นเป็นประกาย แต่ในทางตรงข้ามเวลาที่ชีวิตผิดหวังไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ ดวงตาก็จะดูเศร้าหมองไม่ผ่องใส ซึ่งทั้งสองอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สามารถสังเกตเห็นได้ที่ดวงตาของคนเรานี้เอง นอกจากนั้น ในทางพระพุทธศาสนาสอนว่า ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ต้องสำรวมระวัง มิให้ยินดียินร้ายอยู่ตลอดเวลา หาไม่แล้ว อาจเกิดปัญหาตามมาได้ เพราะปล่อยใจไปตามสิ่งที่ตาเห็นทุกอย่าง และเมื่อเปรียบเทียบกับอวัยวะอื่น ๆ เช่น จมูกและร่างกายแล้ว ดวงตามีขีดความสามารถในการรับจำข้อมูลได้ดีกว่าอวัยวะอื่น ๆ อีกด้วย
         บ้านเรือนที่มีหน้าต่างสำหรับเปิดปิด ย่อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย ฉันใด ดวงตาก็สามารถอำนวยความสุขแก่เจ้าของผู้รู้จักสำรวมระวังในการรับอารมณ์ ฉันนั้นเหมือนกัน ดังคำพูดที่ว่า "ปิดหูซ้ายขวา ปิดตาสองข้าง ปิดปากเสียบ้าง แล้วจะนั่งนอนสบาย" ดังนั้น ในการดำเนินชีวิตทุกขณะจิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คิด กิจที่ทำหรือคำที่พูด ควรใช้ดวงตาซึ่งถือว่าเป็นหน้าต่างของใจอย่างระมัดระวัง ความทุกข์ก็จะไม่ไหลเข้ามาสู่ใจของเรานั่นเอง (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)