ปริมาณชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้นกว่า ๑๐๐ เท่าในช่วง ๔๐ ปีที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารไบโอโลจี้ เลตเตอร์ เป็นผลงานนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปส์ในสหรัฐอเมริกาได้สำรวจน่านน้ำนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย มิเรียม โกลด์สไตน์ นักวิจัยกล่าวว่า การออกไปสำรวจตอนเหนือของแปซิฟิกได้พบพบปริมาณขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบและปริมาณมากจนน่าตกใจและเหนือความคาดหมาย พลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลและไม่จมจะถูกแดดเผา และคลื่นซัดจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กังวล คือ สัตว์ทะเล ทั้งหลายจะกินชิ้นส่วนพลาสติกเข้าไปซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยจากหลายหน่วยงานก่อนหน้านี้ที่ชี้ว่าปลาจากบริเวณดังกล่าวร้อยละ ๙ มีขยะพลาสติกในกระเพาะอาหาร
รายงานชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารมารีน อิโคโลจี โพรเกรส ซีรีส์ระบุว่า ปลาในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือย่อยพลาสติกในอัตราคร่าว ๆ ๑๒,๐๐๐ ถึง ๒๔,๐๐๐ ตันต่อปี นอกจากความกังวลเรื่องสารพิษแล้ว นักวิจัยยังชี้ว่าขยะเหล่านี้ยังกระทบต่อระบบนิเวศน์ ทำให้สัตว์น้ำหลายชนิดต้องปรับตัวเข้าหาสิ่งแปลกปลอมตั้งแต่สัตว์น้ำขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็กทั้งเพรียง ปู และปลาที่ชอบอยู่ใต้ที่ซ่อน รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ และพลาสติกเหล่านี้จะกลายเป็นวัสดุพื้นผิวแข็งหลายร้อยชิ้นที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศของมหาสมุทรแปซิฟิก (ที่มา : ข่าวสด)
