วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผลวิจัยชี้กิน "เต่ากระ" ถึงตาย

 น.ส.กุสุมา สว่างพันธุ์ นักวิชาการชำนาญการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต เปิดเผยภายในการสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๑ ภายใต้เรื่อง "ระบาดวิทยากับความท้าทายจากภัยสุขภาพโลกที่อุบัติใหม่" ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า จากการศึกษาเรื่อง "การรับประทานเต่ากระกับการป่วยและเสียชีวิตในชุมชนไทยใหม่ จังหวัดภูเก็ต ปี ๒๕๕๓" เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน๒๕๕๓ งานระบาดวิทยา สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเต่าทะเลจำนวน ๓ ราย และมีผู้ป่วยอีกหลายรายในหมู่บ้านไทยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จึงสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและศึกษาลักษณะการเกิดการกระจายของโรค โดยได้รวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลและสถานีอนามัย พร้อมทั้งสัมภาษณ์พฤติกรรม การบริโภคเต่ากระภายในชุมชน จำนวนทั้งสิ้น ๘๖๑ ราย
จากการสำรวจพบว่า ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยจะต้องมีอาการอย่างน้อย ๒ อาการ คือ แสบปาก ชาบริเวณปาก เจ็บคอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ซึม หมดสติ โดยต้องอยู่ในช่วงระหว่าง วันที่ ๔ - ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ ซึ่งผลการศึกษาพบผู้ป่วยจำนวน ๔๘ รายเสียชีวิต ๓ ราย ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดพบผู้ป่วย ๔๖ ราย มีประวัติรับประทานอาหารที่ปรุงจากเต่ากระตัวเดียวกัน เมื่อวันที่ ๔ - ๕ มิถุนายน อีกทั้งยังพบผู้ป่วยอีก ๒ ราย ดูดนมแม่ที่รับประทานเต่ากระอีกด้วย จากการประเมินพบว่า อัตราป่วยในกลุ่มผู้ที่รับประทานเต่ากระสูงถึงร้อยละ ๔๘.๔๘
และ จากการสัมภาษณ์พบว่า ชาวไทยใหม่บางส่วนถูกผู้ใหญ่สอนว่าไม่ให้กินเต่ากระ แต่กลุ่มบ้านนี้ไม่เชื่อจึงนำมารับประทานซึ่งเต่ากระเป็นสัตว์ทะเลที่มีสารพิษ เรียกว่าChelonitoxism ซึ่งไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน สามารถผ่านทางน้ำนมส่งผลต่อทารกที่ดูดนมแม่ได้ จึงควรประชาสัมพันธ์การห้ามจับสัตว์ทะเลอนุรักษ์ และป้ายแจ้งเตือนเต่าทะเลเป็นสัตว์มีพิษ ห้ามนำมารับประทานอาจทำให้เสียชีวิตได้
(ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน)