เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้รับแจ้งจากวิทยุชายฝั่ง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า พบกลุ่มเรือประมงต่างชาติสัญชาติเวียดนาม จำนวน ๓ ลำ พร้อมลูกเรือ จำนวน ๔๙ คน ขณะลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำอ่าวไทย บริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้สั่งการให้ เรือ ต.๒๑๗ ที่ออกลาดตระเวนทำการตรวจสอบและจับกุม และในบริเวณเดียวกันได้ทำการจับกุมเรือประมงไทย จำนวน ๒ ลำ เป็นเรือปลากะตัก มีลูกเรือเป็นชาวกัมพูชาทั้ง ๒ ลำ จำนวน ๓๕ คน ไม่มีใบอนุญาตและหลักฐานเข้าเมือง จึงได้ทำการควบคุมเรือทั้ง ๕ ลำ พร้อมลูกเรือทั้งหมดเข้ามายังท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลาทัพเรือภาคที่ ๒
จากการสอบสวนทราบว่าเรือทั้งสามลำเดินทางมาจากแหลมกาเมา ประเทศเวียดนาม และรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตทะเลอ่าวไทย เบื้องต้นได้ควบคุมตัวลูกเรือทั้งหมดดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช ๒๕๒๒ และพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงและการประกอบการเรือประมงไทย พุทธศักราช ๒๔๘๒ และได้ประสานไปยังสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยแล้ว ส่วนเรือประมงไทย จำนวน ๒ ลำ เป็นเรือปลากะตักที่คลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่จับเนื่องจากมีแรงงานต่างด้าวกัมพูชาเถื่อนไม่มีใบอนุญาตและ ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการกับลูกเรือชาวเวียดนามทั้ง ๔๙ คน และลูกเรือชาวกัมพูชา ๓๕ คน ทัพเรือภาคที่ ๒ จะยึดหลักสิทธิมนุษยชนโดยทัพเรือภาคที่ ๒ สงขลาได้ดูแลในเรื่องของอาหารและความเป็นอยู่ระหว่างรอการส่งตัวกลับ ทั้งนี้ในช่วงนี้ของทุกปีมักจะมีเรือประมงสัญชาติเวียดนามลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำอ่าวไทยเป็นจำนวนมาก (ที่มา : ทรภ.๒)
