วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

ผู้ประกอบการ ๑๕๐ ราย ลงมติใช้กฎบ้านปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังเพิ่ม ๔ เดือน

ผู้ประกอบการ ๑๕๐ ราย ลงมติใช้กฎบ้านปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังเพิ่ม ๔ เดือน
      จากกรณีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ได้ทำการปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังในหมู่เกาะช้าง จำนวน ๓ เกาะ คือ เกาะกระ เกาะทองหลาง และเกาะเทียน เนื่องจากปะการังได้รับความเสียหายมากนั้น นางสาวจารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดตราด เปิดเผยว่า การปิดแหล่งดำน้ำดูปะการัง ๓ เกาะ ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างนั้น เป็นการปิดโดยใช้กฎหมายบังคับให้ปิด ทั้งนี้ เพราะปะการังทั้ง ๓ เกาะนั้น เป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของหมู่เกาะช้างได้รับความเสียหายมากจนต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน หากไม่ปิดปะการังจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
       นอกจากนี้ ได้ออกไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งในเกาะช้าง เกาะกูด และเกาะหมาก ทั้งหมดเห็นด้วย และพร้อมเสียสละรายได้ที่จะได้จากการนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปะการังตลอด ๔ เดือน (มิถุนายน - กันยายน) เพื่อให้ปะการังได้รับการฟื้นฟู ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะช้างมีมติร่วมกัน คือ เป็นกฎบ้านที่ดีกว่ากฎหมาย และทุกคนทำเพื่อปกป้องปะการัง ซึ่งเมื่อ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ใช้กฎบ้านไม่ให้มีการนำเจ็ตสกีและบานาน่าโบต เข้ามาในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง รวมทั้งเกาะหมาก และเกาะกูด ซึ่งได้ผลดี และยังเป็นกฎบ้านที่ศักดิสิทธิ์และมีผลทางปฏิบัติมาตลอด ๑๐ ปี ที่ผ่านมา
        สำหรับการฟื้นฟูปะการัง สมาคมมีโครงการสร้างปะการังใต้น้ำในชื่อ "ช้างแห่งสยามเพื่อทะเลไทย" โดยจะปั้นช้างจำนวน ๙ ตัว ๘ ตัว จะทิ้งลงไปในแหล่งดำน้ำดูปะการังที่เสื่อมโทรม สำหรับอีก ๑ ตัว จะทำการทิ้งลงทะเลในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ นี้ ซึ่งจะทำโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ของในหลวง ขณะนี้มีภาคเอกชน ๒ - ๓ ราย เข้ามาสนับสนุนโครงการแล้ว แต่จะนำเสนอรายละเอียดต่อไป แต่หากทำโครงการนี้ได้จะส่งผลดีต่อทะเลจังหวัดตราดมาก และจะเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด ที่ยิ่งใหญ่ เพราะนักดำน้ำดูปะการังจะเห็นความสวยงามของทั้งปะการัง, สัตว์น้ำ และช้างทั้ง ๙ ตัว ที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำด้วย
(ผู้จัดการออนไลน์)