ไต้หวันเตรียมต้อนรับเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำลำแรก จากทั้งหมด ๑๒ ลำ ในปี ๒๕๕๔ ขณะที่ บรรดาชาติแถบเอเชียตะวันออก ต่างแสดงความกังวลต่อแสนยานุภาพทางทหารอันน่าเกรงขามของจีน
สื่อไต้หวัน ไชน่า ไทม์ส รายงานว่า สืบเนื่องจากข้อตกลงซื้อขายอาวุธในปี ๒๕๕๑ ที่สหรัฐฯ ได้ตกลงขายเครื่องบินลาดตระเวน P-3C Orion รุ่นใหม่ พร้อมกับเครื่องยนต์ไร้ระบบปฏิบัติการไว้สำรองอีก ๓ เครื่อง และจะมีการนำส่งมอบอาวุธล็อทแรก ในปี ๒๕๕๔
"ขอบเขตการลาดตระเวนของฝูงบินต่อต้านเรือดำน้ำไต้หวัน จะขยายเป็นสิบเท่า หลังจากเครื่องบินพี-3 ซี ได้เข้าร่วมกองทัพเรือไต้หวัน" นายทหาร ซึ่งไม่เผยนาม ระบุ
สำหรับฝูงบินพี-3 ซี ซึ่งมีราคาประมาณ ๑,๙๖๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกนำมาใช้แทน เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ เอส-2ที รุ่นลายครามของไต้หวัน
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันได้พัฒนาขึ้น หลังจากที่ในปี ๒๕๕๒ นายหม่า อิงจิ่ว แห่งพรรคกั๋วหมินตั่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน พร้อมกับส่งเสริมการค้าระหว่างไต้หวันกับจีนและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนมายังเกาะไต้หวันได้มากขึ้น
อนึ่ง จีนยังคงยืนกรานว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และหากจำเป็น ก็จะใช้กำลังบุกยึดดินแดนคืน แม้ว่าไต้หวันจะปกครองตนเองมาเป็นระยะเวลานานกว่า ๖๐ ปี แล้วก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงได้สร้างกองกำลังติดอาวุธป้องกันประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่สั่งซื้อมาจากสหรัฐฯ แม้ว่าในปี ๒๕๒๒ สหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแปลงการรับรองทางการทูตแก่จีน แทนที่ไต้หวัน