กองอนุศาสนาจารย์
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
จัดทำบทความทางศีลธรรมและวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้กำลังพลได้ทราบถึงหลักธรรม
ในการดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท
สำหรับในวันนี้นำเสนอเรื่อง "ความรับผิดชอบ"
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พุทธศักราช ๒๕๕๔ ได้ให้ความหมายของคำว่า "ความรับผิดชอบ"
ไว้ว่า หมายถึง การยอมรับผลทั้งที่ดีและไม่ดีในกิจการที่ตนได้ทำลงไปหรือที่อยู่ในความดูแลของตน
ลักษณะของผู้มีความรับผิดชอบนั้นแบ่งประเภทได้ดังนี้
๑.
รับผิดชอบต่อตนเอง หมายถึง การรู้จักป้องกันและขจัดปัญหาที่ทำให้ตนเองเป็นทุกข์
ทั้งทางกายและทางใจ ทางกาย ได้แก่ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยหลัก
๕ อ. ได้แก่ อาหาร อากาศ อุจจาระ อารมณ์ และออกกำลังกาย ทางใจ
ได้แก่ การไม่เครียด ไม่โกรธ ไม่พยาบาท และรู้จักทำจิตใจให้ผ่องใส
๒.
รับผิดชอบต่อหน้าที่ หมายถึง การแสดงออกถึงความมีจิตสำนึกมุ่งมั่น
และความตั้งใจที่จะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายให้ประสบผลสำเร็จตามแผนงานที่กำหนด
รวมทั้งความสามารถในการบริหารจัดการงานทั้งของตนเองและของผู้ร่วมงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย
๓.
รับผิดชอบต่อเวลา หมายถึง การรู้จักใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและเป็นคนตรงต่อเวลา
ดังคำกล่าวที่ว่า "เวลาเป็นสิ่งที่เราเก็บสะสมไว้ไม่ได้ เราจึงต้องใช้เวลาอย่างดีที่สุด"
และพุทธพจน์ที่ว่า "วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้ เราทำอะไรอยู่"
ที่ทรงมุ่งเตือนให้พุทธศาสนิกชนไม่ประมาทมัวเมาในวัยและชีวิต เพราะเวลาผ่านไป
ย่อมไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้
๔.
รับผิดชอบต่อสังคม หมายถึง
การแสดงออกถึงความมีจิตสาธารณะและรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องและ
อยู่รอบตัว
ได้แก่ ครอบครัว เพื่อน ครูอาจารย์ เป็นต้น
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมอยู่คนเดียวไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อกันอย่างเหมาะสม
หากคนเรามีลักษณะตามที่กล่าวข้างต้น
ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบซึ่งเป็นหนึ่งในประมวล
จริยธรรมกองทัพเรือ
๑๑ ประการ
ซึ่งจะส่งผลให้แต่ละคนมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความผูกพันด้วย
ความพากเพียรและความละเอียดรอบคอบ
ยอมรับผลของการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่
เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย
ทั้งพยายามปฏิบัติหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งจะส่งผลให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปด้วยความราบรื่น
สงบสุข อีกด้วย (ที่มา : อศจ.ยศ.ทร.)