วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ครั้งที่ ๘ ระหว่าง ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๗

กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพมหานคร โดยจะมีพิธีเปิด ฯ ในวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. มี พลเรือเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานเปิดการประชุม และมีผู้บัญชาการทหารเรือ จาก ๙ ชาติในอาเซียน เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ไทย บรูไน อินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม
         การประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ในครั้งนี้ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะเจ้าภาพและประธานการประชุม จะมีการหารือเกี่ยวกับกิจกรรมความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน การแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเลในแต่ละภูมิภาค รวมถึงแผนงานกิจกรรมความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวงรอบ ๒ ปี ข้างหน้า โดยกองทัพเรือได้กำหนดประเด็นหลักหรือบริบทของการประชุม คือ บทบาทของกองทัพเรืออาเซียน ภายหลังมีการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี คริสต์ศักราช ๒๐๑๕ (Roles for the ASEAN Navies after ASEAN Integration 2015 ) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่จะเกิดขึ้นจริงในภูมิภาคนี้ ในปีหน้า หรือ " Roles for the ASEAN Navies after ASEAN integration 2015 "
        การประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียนจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๔ ใช้ชื่อการประชุมว่า ASEAN Navy Interact โดยแต่ละประเทศได้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในปี ๒๕๕๔ ได้มีการเปลี่ยนชื่อการประชุมเป็น ASEAN Navy Chiefs' Meeting (ANCM) รวมทั้งได้เห็นชอบข้อกำหนดสำหรับการประชุม หรือ Term of Reference (TOR) สำหรับใช้ยึดถือปฏิบัติในการประชุมด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เป็นเวทีปรึกษา หารือ แลกเปลี่ยนมุมมองต่าง ๆ ของผู้บัญชาการทหารเรือในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ส่งเสริมให้มีการทำกิจกรรมร่วมกันและพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรืออาเซียน เพื่อให้ทันกับสิ่งท้าทายใหม่ ๆ โดยการหารือและพิจารณาในเรื่องต่าง ๆ นั้น จะอยู่บนหลักการสำคัญ คือ การไม่ก้าวก่ายในกิจการภายในของแต่ละประเทศ เคารพสิทธิเสรีภาพและอำนาจอธิปไตยซึ่งกันและกัน โดยความร่วมมือในเรื่องต่าง ๆ จะเป็นไปด้วยความสมัครใจ และโดยความเห็นพ้องร่วมกัน ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของประชาคมอาเซียน
         สำหรับประโยชน์ที่กองทัพเรือไทย จะได้รับจากการประชุมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันในระดับกองทัพเรือแต่ละประเทศแล้ว ยังทำให้ได้รับทราบถึงมุมมอง และแนวคิดของผู้บัญชาการทหารเรือในอาเซียน เกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ก่อให้เกิดความร่วมมือและการพัฒนาแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่สำคัญในปัจจุบัน เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในทะเล การป้องกันและปราบปรามโจรสลัดและการกระทำอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมายของรัฐชายฝั่งแต่ละประเทศ รวมถึงการก่อการร้ายทางทะเล เป็นต้น
         นอกจากนั้น ในการประชุมครั้งนี้ กองทัพเรือ ยังเตรียมที่จะเสนอตัวในการเป็นเจ้าภาพจัดพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติในปี พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การก่อตั้งอาเซียน รวมทั้งจะเสนอแนวความคิดให้จัดการฝึกผสมทางเรือแบบพหุภาคีระหว่างกองทัพเรือ ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนด้วย ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ หากได้รับการยอมรับและสามารถพัฒนาไปสู่การปฏิบัติจริงแล้ว ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ ในการเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ระหว่างกองทัพเรือในอาเซียนให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะช่วยเสริมสร้างบทบาทในภูมิภาคและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่กองทัพเรือ ไทยและประเทศชาติโดยรวมอีกทางหนึ่ง
        (อาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East AsianNations หรือ ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ ๕ ประเทศสมาชิก อันได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ได้มีการลงนามร่วมกัน ที่วังสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ เพื่อให้ความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อยกระดับการครองชีพและฐานะทางเศรษฐกิจ และความเจริญในทางเทคนิค วิชาการร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีประเทศต่าง ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มเติม ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา ทำให้ปัจจุบันมีสมาชิก อาเซียนทั้งหมด ๑๐ ประเทศ ) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่มีผู้บัญชาการทหารเรือ เพราะประเทศไม่ติดทะเล ทำให้การประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน มีผู้บัญชาการทหารเรือจาก ๙ ประเทศ เข้าร่วมประชุม (ที่มา : สลก.ทร.)