กรมการขนส่งทางบก
ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์งดเหล้า
จัดกิจกรรมรณรงค์ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ
และขณะขับรถ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ด้วยการแจกสติกเกอร์รณรงค์ห้ามดื่มเหล้า
- เบียร์บนรถให้กับผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสาร ณ
สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง
๓ แห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ฯ เอกมัย
และสายใต้
เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบและร่วมรณรงค์ส่งเสริมความ
ปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยกำหนดให้ผู้ขับรถโดยสารรถสาธารณะทุกประเภท
แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์
หากตรวจพบพนักงานขับรถแอลกอฮอล์เกิน ๐ มิลลิกรัม เปอร์เซ็นต์ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับตั้งแต่ ๒,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้เก็บค่าโดยสาร ผู้ให้บริการ และนายตรวจ จะมีความผิดโทษปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่ควบคุมกวดขันพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท พร้อมพิจารณาการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วย และเพื่อเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยและควบคุมให้มีการปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พุทธศักราช ๒๕๕๕ ขึ้น โดยห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะที่ขับขี่ หรือในขณะที่โดยสารอยู่ในรถ
ประชาชนที่พบเห็นผู้ขับรถโดยสารสาธารณะเสพสุราบนรถหรือขณะขับขี่ กรุณาแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ที่มา : กรมการขนส่งทางบก)
หากตรวจพบพนักงานขับรถแอลกอฮอล์เกิน ๐ มิลลิกรัม เปอร์เซ็นต์ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับตั้งแต่ ๒,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้เก็บค่าโดยสาร ผู้ให้บริการ และนายตรวจ จะมีความผิดโทษปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่ควบคุมกวดขันพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท พร้อมพิจารณาการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วย และเพื่อเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยและควบคุมให้มีการปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พุทธศักราช ๒๕๕๕ ขึ้น โดยห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะที่ขับขี่ หรือในขณะที่โดยสารอยู่ในรถ
ประชาชนที่พบเห็นผู้ขับรถโดยสารสาธารณะเสพสุราบนรถหรือขณะขับขี่ กรุณาแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (ที่มา : กรมการขนส่งทางบก)