วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

พิธีสวนสนามทางบกและทางเรือ เนื่องในงานวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ

วันนี้ (๔ มีนาคม ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. กองทัพเรือ โดย ศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ ๑ เขตทัพเรือภาคที่ ๒ และเขตทัพเรือภาคที่ ๓ จัดงานและพิธีสวนสนามทางบกและทางเรือ เนื่องในวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ โดย พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามทางบกและทางเรือของศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ ๓ ณ บริเวณประภาคารกาญจนาภิเษกแหลมพรหมเทพ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
       หลักฐานการสมัคร ประกอบด้วย เอกสารรับรองผลการศึกษา, หลักฐานแสดงสัญชาติของบิดามารดา, สำเนาทสำหรับศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ ๑ จัดงานและจัดพิธีสวนสนามที่ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มี พลเรือเอก พลวัฒน์ สิโรดม ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน
           การจัดงานวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อย้ำเตือนให้เหล่าสมาชิกได้รำลึกถึงและสดุดีวีรกรรมอัน ยิ่งใหญ่ของบรรพชนที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต รักแผ่นดินไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้
ตลอดจนเป็นการแสดงพลังความรักสามัคคีของเหล่าสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติที่ พร้อมจะเสียสละชีวิตปกป้องอธิปไตยของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยการรวมพลังสวนสนามทั้งทางบกและทางเรือ รวมทั้งร่วมกันประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สำหรับการจัดงานในปีนี้ เป็นการจัดแบบแยกเขต ๓ เขต ในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบจัดงานและพิธีสวนสนาม โดยภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ การแสดงดนตรี พิธีทำบุญทางศาสนา การแข่งขันกีฬาเชื่อมความสามัคคี การแสดงสาธิตการปฏิบัติการทางทหาร การมอบเข็มสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติดีเด่น จำนวน ๕ นาย และวิทยากรดีเด่น ๑ นาย
         ๔ มีนาคม ของทุกปี ทางราชการได้ประกาศให้เป็น "วันไทยอาสาป้องกันชาติ" หรือวัน ทสปช. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๓๖๙ บรรพชนของเราได้สร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ โดยได้สละชีวิต เลือดเนื้อ และหยาดเหงื่อ เข้าปกป้องเอกราชอธิปไตยของแผ่นดิน เมื่อครั้งที่ ท้าวสุรนารี วีรสตรีของไทยได้รวมพลังประชาชนหญิงชายชาวนครราชสีมาจับอาวุธเข้าต่อสู้ขับ ไล่อริราชศัตรูอย่างเข้มแข็ง แม้ฝ่ายเราจะมีไพร่พลซึ่งล้วนแต่เป็นประชาชนพลเมือง และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่น้อยกว่า แต่ด้วยจิตใจที่แกร่งกล้าและอุดมการณ์อันแน่วแน่ที่จะรักษาเอกราชไว้ ทำให้สามารถขับไล่ข้าศึกจนแตกพ่ายไป เหตุการณ์นั้นนับเป็นวีรกรรมที่เสียสละอย่างแท้จริงของประชาชนที่รวมพลังกัน ลุกขึ้นต่อสู้กับศัตรูจนได้รับชัยชนะ
         เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๒๔ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กองทัพเรือเปิดการอบรมชาวประมง เพื่อความมั่นคงของชาติขึ้น และให้พิจารณาจัดตั้งกลุ่มชาวประมงที่ผ่านการอบรมในลักษณะเดียวกับไทยอาสา ป้องกันชาติ กองทัพเรือจึงได้ร่วมกับกรมประมงและสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดการอบรมชาวประมงตามพื้นที่ชายฝั่งทะเล รวม ๒๒ จังหวัด ทั้งในอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามันขึ้น เพื่อให้กลุ่มชาวประมงประมงที่ผ่านการอบรมผนึกกำลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีทัศนะคติที่ดีและให้ความร่วมมือกับทางราชการและกองทัพเรือในการป้องกันการ กระทำผิดในทะเลการป้องกันและปราบปรามโจรสลัดและมุ่งเสริมสร้างความมั่นคงของ ชาติ โดยใช้ชื่อหลักสูตรการ อบรมว่า "การประมงกับความมั่นคงของชาติในทะเล" ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อหลักสูตรเป็น "การประมงกับความมั่นคงของชาติและไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล" พร้อมทั้งจัดตั้งกลุ่มชาวประมงที่ผ่านการอบรมมาแล้วเป็น "ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล" มีภารกิจในการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบหรือภัยจากการกระทำ ของฝ่ายตรงข้าม, ป้องกันและต่อต้านการกระทำผิดทางทะเลในพื้นที่ทำการประมงของตน, ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล, สืบสวน คอยฟังข่าวสารการเคลื่อนไหวอันอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และภารกิจอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายการปฏิบัติภารกิจจากผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติ ในทะเล (ที่มา : สลก.ทร.)